คู่มือเลือกเครื่องครัวไฟฟ้า: เครื่องตีแป้ง, เตาอบ, เครื่องล้างผักโอโซน และไอเทมสำคัญสำหรับมือโปร
การเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวที่เหมาะสม ช่วยลดระยะเวลาการเตรียมอาหารและการทำอาหาร ช่วยให้การทำอาหารได้สนุกมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องล้างผักโอโซน เครื่องต้มไข่ กาต้มน้ำไฟฟ้า ที่ออกแบบมาให้ทันสมัย นอกจากนั้นการเลือกวัสดุทำครัวช่วยให้การดูแลรักษาครัวให้สะอาดง่ายมากยิ่งขึ้นด้วย
1. อุปกรณ์สำหรับเบเกอรี่และงานผสมอาหาร: เครื่องตีไข่, เครื่องผสมอาหาร, เครื่องตีแป้ง, เครื่องผสมอาหารมือ, เครื่องปั่นอาหารมือ
เครื่องผสมอาหาร หรือ เครื่องตีแป้ง เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพในการผสมส่วนผสมให้เข้ากันอย่างรวดเร็วและละเอียด
- เครื่องผสมอาหารแบบตั้งโต๊ะ:
มีขนาดใหญ่และประสิทธิภาพสูง ทำงานต่อเนื่องได้ดี มีความทนทาน เหมาะสำหรับงานทำขนมปริมาณมากหรืองานที่ซับซ้อน เช่น การนวดแป้ง การทำครีม หรือการตีไข่ โดยสามารถจัดพื้นที่ครัวสำหรับบ้านที่มีพื้นที่จำกัด
- เครื่องตีมือถือ/เครื่องผสมอาหารมือ:
มีขนาดกะทัดรัด ราคาประหยัด น้ำหนักเบา ใช้งานง่าย และควบคุมได้สะดวก เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นหรือการทำขนมปริมาณไม่มาก
- เครื่องปั่นอาหารมือ (เครื่องปั่นแบบจุ่ม):
มีลักษณะเป็นแท่งยาว มีหัวปั่นที่ปลายด้าม สามารถนำหัวปั่นลงไปในภาชนะที่ใส่วัตถุดิบได้เลย
การใช้งานอุปกรณ์สำหรับเบเกอรี่และงานผสมอาหาร:
เครื่องผสมอาหารมาพร้อมหัวตีหลัก 3 แบบที่ใช้กับงานต่างกัน:
- หัวตีแบบตะขอ: ออกแบบมาเพื่อใช้นวดโดว์แป้งโดยเฉพาะ เช่น พิซซ่า, ขนมปัง, พาย, แพนเค้ก. แนะนำให้ใช้ความเร็วต่ำ – ปานกลาง
- หัวตีแบบใบพาย/ใบไม้: ใช้ตีส่วนผสมที่เป็นไขมันให้ขึ้นฟู เช่น เนย, ครีมชีส, น้ำตาล หรือวัตถุดิบที่มีลักษณะเหนียวแข็ง ใช้ความเร็วปานกลาง
- หัวตีแบบตะกร้อ: ใช้เพิ่มอากาศในส่วนผสม ทำให้ส่วนผสมเบาและขึ้นฟู เช่น ตีไข่ขาว, วิปปิ้งครีม, เมอแรง, มูส ใช้ความเร็วสูง
การเลือกให้เหมาะกับงานอุปกรณ์สำหรับเบเกอรี่และงานผสมอาหาร:
- สำหรับมือใหม่หัดทำขนม: ควรเริ่มต้นด้วย เครื่องตีมือถือ/เครื่องผสมอาหารมือ หรือเครื่องผสมที่มีกำลังการผลิตต่ำ/ขนาดเล็ก เพราะราคาไม่แพง. ควรเลือก เครื่องตีมือถือ/เครื่องผสมอาหารมือ ที่มีกำลังไฟอย่างน้อย 300 วัตต์
- สำหรับทำขนมขาย/ปริมาณมาก: ควรเลือก เครื่องผสมอาหารแบบตั้งโต๊ะ ที่มีมอเตอร์กำลังสูงและทนทาน เช่น มอเตอร์ทองแดงแท้ 100% (เช่น 1,000 วัตต์ หรือ 1,700 วัตต์) และชุดส่งกำลังแบบเฟืองเหล็ก เพื่อรองรับการนวดแป้งหนักๆ
- การเลือกความจุ: โดยปกติไม่ควรใส่ส่วนผสมเกิน 60% ของความจุโถผสม
ข้อควรระวังอุปกรณ์สำหรับเบเกอรี่และงานผสมอาหาร:
- ไม่ควรทำงานเกินกำลังเครื่อง โดยเฉพาะการนวดแป้งหนักๆ ซึ่งอาจทำให้มอเตอร์ไหม้ หรือเกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์ได้ง่าย
- ควรศึกษาข้อมูลวิธีทำความสะอาดและบำรุงรักษาอย่างถูกวิธี เพื่อยืดอายุการใช้งาน
โดยรวมเครื่องตีแป้ง และ เครื่องผสมอาหาร เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ช่วยลดภาระและเวลาที่ต้องใช้ในการทำงาน และช่วยเพิ่มคุณภาพของอาหารให้ดีขึ้นอย่างชัดเจน
2. เตาอบ (Oven)
เตาอบ Convection (เตาอบลมร้อน):
คือเตาอบที่มีพัดลมติดตั้งภายในตัวเครื่อง เพื่อช่วยกระจายความร้อนให้หมุนเวียนได้ทั่วพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ ทำให้วัตถุดิบสุกทั่วถึง สีสวยเสมอกัน และลดระยะเวลาในการอบ เตาอบประเภทนี้มีทั้งระบบไฟฟ้าและระบบแก๊ส บางรุ่นอาจมีระบบพ่นไอน้ำในตัวเพื่อรักษาความชื้น
การใช้งานเตาอบการเลือกให้เหมาะกับงาน
เตาอบ Convection นิยมใช้ในการอบเบเกอรี่ที่ต้องการผลลัพธ์แม่นยำและสม่ำเสมอ เช่น อบเค้ก, ขนมปัง, คุกกี้, พาย, มาการอง. ระบบพ่นไอน้ำ จะช่วยให้เนื้อสัมผัสภายในนุ่มฟู ผิวด้านนอกกรอบสวย และป้องกันไม่ให้ขนมปังแห้งและแข็งกระด้าง
- ใช้งานทั่วไป/ฝึกทำขนมที่บ้าน: เลือก เตาอบ Convection ระบบไฟฟ้า ซึ่งใช้งานสะดวก ติดตั้งง่าย และควบคุมอุณหภูมิได้แม่นยำ
- พิจารณากำลังไฟ:
ขนาด 1,000 - 1,500 วัตต์ เหมาะสำหรับขนมอบชิ้นเล็ก/ปริมาณน้อย เช่น คุกกี้ หรือเค้กขนาด 1-2 ปอนด์ , ขนาด 2,000 - 2,700 วัตต์ เหมาะสำหรับวัตถุดิบเนื้อแน่นปานกลาง เช่น ขนมปังปอนด์, พิซซ่า, เค้กเนย และขนาด 3,000 วัตต์ขึ้นไป เหมาะสำหรับการอบปริมาณมาก (5 ถาดขึ้นไป) หรืองานที่ซับซ้อน เช่น ครัวซองต์ วิธีกำจัดเศษอาหารเหลือทิ้ง
- พิจารณาฟังก์ชันเสริม: เช่น ระบบพ่นน้ำ, ประตูกระจกนิรภัย 2 ชั้น (ช่วยลดความร้อนและลดความเสี่ยงในการลวกมือ), และระบบควบคุมแบบดิจิทัล (ตั้งค่าละเอียดกว่าแบบแมนนวล)
ข้อควรระวังเตาอบ
- เตาอบ Convection ระบบไฟฟ้าอาจ ใช้เวลาทำความร้อนนานกว่าระบบแก๊ส และ ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานต่อเนื่อง
- ควรทำความสะอาดพัดลมหรือส่วนประกอบภายในสม่ำเสมอ เพื่อคงประสิทธิภาพในการกระจายความร้อน
โดยรวมเตาอบ Convection เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้การทำขนมได้ผลลัพธ์ที่ดี เนื้อเนียนนุ่ม และสีสันสวยงามสม่ำเสมอกัน
3. เครื่องมือเตรียมวัตถุดิบ: เครื่องบดสับ, เครื่องสกัดน้ำผัก, เครื่องปั่นน้ำผลไม้, เครื่องคั้นน้ำส้ม
- เครื่องบดสับ: ออกแบบมาเพื่อบดสับวัตถุดิบให้ละเอียด แต่ยังคงเนื้อสัมผัส (Texture) ที่สามารถเคี้ยวได้
- เครื่องปั่นน้ำผลไม้: โดยทั่วไปใช้ทำอาหารประเภทของเหลว (เครื่องดื่มหรือซอส) ให้เนื้อเนียนละเอียด เครื่องปั่นน้ำผลไม้ ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการปั่นผลไม้ให้มีความละเอียดสูง ปั่นน้ำแข็งหรือผลไม้แช่แข็งได้
- ครื่องสกัดน้ำผัก: เป็นอุปกรณ์สำหรับทำน้ำผักผลไม้
การใช้งานเครื่องมือเตรียมวัตถุดิบ
- เครื่องบดสับ: ใช้หั่นและซอยผัก, บดเนื้อสัตว์, ปั่นเครื่องเทศสำหรับเครื่องแกง, หรือส่วนผสมที่มีลักษณะเป็นของแข็ง
- เครื่องปั่นน้ำผลไม้: ใช้ปั่นสมูทตี้หรือน้ำผลไม้ที่ต้องการความเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
- เครื่องปั่นอเนกประสงค์: บางรุ่นสามารถใช้ผสมแป้งหรือคลุกเคล้าส่วนผสมสำหรับเบเกอรี่ได้ด้วย
การเลือกให้เหมาะกับงานเครื่องมือเตรียมวัตถุดิบ
- หากเน้นการทำอาหาร (สับ/บดเนื้อ): ควรเลือก เครื่องบดสับ เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัส (Texture) ที่เหมาะสมและป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ปนกับเครื่องดื่ม
- หากเน้นเครื่องดื่ม (ซอส/สมูทตี้): ควรเลือก เครื่องปั่น
- สำหรับการคั้นน้ำส้ม: น้ำส้มคั้นสด ถูกผู้บริโภครับรู้ว่ามีคุณประโยชน์และความเป็นธรรมชาติสูงที่สุด เมื่อเทียบกับแบบพาสเจอร์ไรส์หรือแบบเพิ่มวิตามิน ผู้ผลิตควรเน้นชูจุดเด่นด้านคุณประโยชน์และความสดใหม่
ข้อควรระวังเครื่องมือเตรียมวัตถุดิบ
- เครื่องปั่นตั้งโต๊ะ ไม่เหมาะสำหรับการปั่นเนื้อสัตว์ (ควรใช้เครื่องบดอาหารที่ออกแบบมาเพื่อการนี้)
- หากใบมีดไม่หมุน อาจเกิดจากส่วนผสมเหนียวเกินไป (ควรเติมน้ำเพิ่ม) หรือปิดฝาไม่สนิท
- ควรทำความสะอาดโถปั่นทันทีหลังใช้ปั่นอาหารคาว เพื่อป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ฝังแน่นติดโถ
- ถอดปลั๊กก่อนทำความสะอาด และระวังอย่าให้ชิ้นส่วนมอเตอร์แช่น้ำ และควรพิจารณาระบบไฟฟ้าในครัวให้เพียงพอต่อการใช้งาน
โดยรวมเครื่องปั่น และ เครื่องบดสับ ติดบ้านจะช่วยให้การเตรียมอาหารง่ายและมีประสิทธิภาพสูงสุด
4. เครื่องต้มไข่
เครื่องต้มไข่ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยในการทำเมนูไข่ต้มได้อย่างสะดวก รวดเร็ว โดยไม่ต้องใช้เตาแก๊ส
- เครื่องต้มไข่แบบหลุม: เน้นทำเมนูไข่ต้มเป็นหลัก บางรุ่นทำไข่ลวกและไข่ยางมะตูมได้
- เครื่องต้มไข่อเนกประสงค์: มักมี 2 ชั้น มีพื้นที่มากพอสำหรับทำไข่ต้ม ตุ๋น หรือนึ่งอาหารประเภทอื่น เช่น ไข่ตุ๋น, ไข่กระทะนึ่ง, ซาลาเปา, ติ่มซำ
การใช้งานเครื่องต้มไข่และการเลือกให้เหมาะกับงาน
เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นฝึกทำอาหาร หรือผู้ที่ต้องการทำเมนูอาหารเพื่อสุขภาพจากไข่ต้ม สามารถใช้ทำเมนูอาหารอื่น ๆ ได้หลากหลาย รวมถึงการอุ่นอาหารที่ผ่านการนึ่งมาก่อน
- พิจารณาถึงความจุให้เหมาะสมกับจำนวนสมาชิกผู้ใช้งาน
- หากต้องการทำเมนูอื่น ๆ นอกเหนือจากไข่ต้ม ควรพิจารณา เครื่องต้มไข่อเนกประสงค์
- พิจารณาวัสดุที่มีคุณภาพ เช่น สเตนเลส หรือพลาสติก Polypropylene
ข้อควรระวังเครื่องต้มไข่
- ระบบความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ: ควรมองหารุ่นที่มีฟังก์ชันสัญญาณเตือน เพื่อแจ้งเตือนเมื่อไข่ต้มสุก หรือแจ้งเตือนเมื่อน้ำระเหยหมด เพื่อป้องกันความร้อนสะสม
โดยรวมเครื่องต้มไข่ ขนาดเล็กราคาประหยัด ก็สามารถใช้งานได้ดี มีระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อน้ำแห้ง ทำให้การต้มไข่ผิวสวย เนื้อเด้ง เป็นเรื่องง่าย
5. เครื่องดูดควัน
เครื่องดูดควัน เป็นอุปกรณ์จำเป็นที่ช่วยดักควัน, กลิ่น, และสารเคมีจากการประกอบอาหาร มี 3 รูปแบบหลัก:
- แบบมาตรฐาน: เหมาะสำหรับห้องครัวที่มีพื้นที่จำกัด
- แบบกระโจมติดผนัง: ติดตั้งอยู่ติดผนัง มีประสิทธิภาพแรงดูดสูง
- แบบกระโจมกลางห้อง: ดีไซน์สำหรับครัว Island มีความสวยงามหรูหรา
ระบบการทำงานแบ่งเป็น 2 แบบ:
- ระบบท่อ: ดูดควันออกไปนอกตัวอาคารโดยตรง เหมาะสำหรับทำอาหารที่มีควันหรือกลิ่นแรง
- ระบบหมุนเวียน: ดูดอากาศผ่านแผ่นกรองไขมันและแผ่นกรองคาร์บอน แล้วปล่อยอากาศสะอาดกลับเข้าห้อง เหมาะสำหรับพื้นที่จำกัด เช่น คอนโด
การใช้งานเครื่องดูดควันและการเลือกให้เหมาะกับงาน
มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับ ครัวไทย ที่นิยมอาหารทอดกรอบ อาหารผัด ซึ่งใช้น้ำมันมาก ทำให้ต้องดักควันน้ำมันที่ฟุ้งกระจาย และการเลือกวัสดุหรือกระเบื้องที่ดีช่วยให้การทำความสะอาดง่ายขึ้น
- สำหรับครัวไทยที่มีกลิ่นแรง/ควันเยอะ: แนะนำระบบท่อ เพราะกำจัดควันได้อย่างรวดเร็ว
- สำหรับคอนโด/พื้นที่จำกัด: เลือก เครื่องดูดควันระบบหมุนเวียน เพราะติดตั้งง่าย ไม่ต้องเจาะผนัง
- ระดับเสียง: ควรเลือกรุ่นที่มีระดับเสียงต่ำกว่า 65 เดซิเบล เพื่อไม่ให้รบกวนผู้อยู่อาศัย
ข้อควรระวังเครื่องดูดควัน
- ระบบหมุนเวียน จำเป็นต้องดูแลรักษาและ เปลี่ยนแผ่นกรองคาร์บอนสม่ำเสมอ เพื่อรักษาความสามารถในการกรองกลิ่น
- หากแรงดูดเบา: ควรล้างตะแกรงกรองหน้าเครื่องบ่อยๆ หากมีก้อนถ่าน/ตะแกรงคาร์บอนอุดตัน ควรเปลี่ยนก้อนถ่าน (การถอดก้อนถ่านออกจะทำให้แรงดูดเพิ่มขึ้น แต่การทำความสะอาดใบพัดจะยากขึ้น)
โดยรวมการเลือก เครื่องดูดควัน ที่เหมาะสมกับประเภทอาหารและการติดตั้ง (เช่น ระบบท่อสำหรับครัวไทย หรือระบบหมุนเวียนสำหรับคอนโด) ช่วยให้ห้องครัวสะอาด ปลอดกลิ่น และยืดอายุการใช้งาน
6. กาต้มน้ำไฟฟ้า
กาต้มน้ำไฟฟ้า หรือ กระติกต้มน้ำร้อนแบบอัตโนมัติ เป็นอุปกรณ์สำหรับต้มน้ำร้อนเพื่อใช้ชงชา กาแฟ ชงนม หรือปรุงอาหาร
- กาต้มน้ำไฟฟ้า: กาต้มน้ำร้อนขนาดเล็ก มีความจุ เช่น 500 cc. เหมาะสำหรับต้มน้ำจนเดือดเร็วเพื่อใช้ครั้งละ 3-4 ถ้วย
- กระติกต้มน้ำร้อนแบบอัตโนมัติ: มีโปรแกรมควบคุมรักษาอุณหภูมิให้คงที่ได้หลายระดับ (เช่น 98, 85, 60 องศา C) สะดวกในการใช้งาน เพราะมีน้ำร้อนให้ตามต้องการตลอดเวลา
การใช้งานและการเลือกให้เหมาะกับงานกาต้มน้ำไฟฟ้า
ใช้ต้มน้ำเดือดเร็ว กาต้มน้ำขนาดเล็กใช้ไฟฟ้าประมาณ 532 วัตต์ โดยการต้มน้ำเดือดสำหรับกาแฟ 1 ถ้วยใช้เวลาประมาณ 3 นาที
- เลือกระหว่างความสะดวก กับความประหยัด
- หากใช้กาต้มน้ำขนาดใหญ่ ผู้ใช้อาจเติมน้ำมากเกินความต้องการ (เกือบ 2 เท่า) ทำให้สิ้นเปลืองไฟฟ้าสะสม
ข้อควรระวังกาต้มน้ำไฟฟ้า
- ห้ามเก็บน้ำเย็นทิ้งไว้นานในกาต้มน้ำ (ไม่ควรเกิน 2 ชั่วโมง) เพราะอาจทำให้เกิดแบคทีเรีย และทำให้เกิดคราบหินปูน/ตะกรันสะสมในกา
- ห้ามเติมน้ำเกินขีด Max หรือต่ำกว่า Min เพราะอาจลดอายุการใช้งาน หรือเสี่ยงต่อการระเบิด ควรคำนึงถึงระบบไฟฟ้าในครัวเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
- ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า ปิดฝาสนิทก่อนใช้งาน เพราะหากฝาไม่สนิท ระบบตัดไฟอัตโนมัติจะไม่ทำงานเมื่อน้ำเดือด ซึ่งเสี่ยงต่อไฟลัดวงจร
- ควรทำความสะอาดคราบหินปูน สนิม หรือคราบตะกรันเป็นประจำ เพื่อรักษาประสิทธิภาพ
โดยรวมกาต้มน้ำไฟฟ้า ให้ความสะดวกและรวดเร็วทันใจในการได้น้ำร้อน แต่ควรเปลี่ยนน้ำและทำความสะอาดสม่ำเสมอเพื่อสุขอนามัยที่ดีและยืดอายุเครื่อง
7. เครื่องล้างผักโอโซน
เครื่องล้างผักโอโซน เป็นเครื่องที่ใช้น้ำโอโซน (Ozone) ซึ่งจัดเป็นสารออกซิไดส์ที่แรงมาก (มีฤทธิ์สูงกว่าก๊าซคลอรีนถึง 51%) ในการทำความสะอาดบางรุ่นมีคลื่นความถี่สูง (40 kHz) ร่วมด้วยเพื่อช่วยขจัดคราบฝังแน่น โอโซนจะสลายตัวเป็นออกซิเจนหลังทำปฏิกิริยา จึงไม่ทิ้งสารตกค้าง
การใช้งานเครื่องล้างผักโอโซน
- ฆ่าเชื้อโรค: มีฤทธิ์ในการทำลายผนังเซลล์ของแบคทีเรีย, ไวรัส, สปอร์, ราเมือก, เชื้อรา, อะมีบา และกำจัดเชื้อโรคได้ถึง 98.9% ระบบโอโซนในรุ่นอุตสาหกรรมสามารถฆ่าเชื้อได้ถึง 99.99%
- กำจัดสารเคมีตกค้าง: ทำลายสารเคมีตกค้างและสารกำจัดศัตรูพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ (เช่น กลุ่มออร์กาโนฟอสเฟต)
- กำจัดสิ่งไม่พึงประสงค์: เช่น กลิ่นเหม็น, แมลง, และไข่พยาธิ
- การรักษาคุณภาพผัก: การล้างด้วยน้ำโอโซนเย็นช่วยลดการสูญเสียน้ำหนักและลดการเกิดสีน้ำตาล ทำให้ผักคงความสด
การเลือกให้เหมาะกับงานเครื่องล้างผักโอโซน
- เลือกรุ่นที่มีกำลังโอโซนและกำลังคลื่นความถี่ที่เหมาะสม
- การล้างด้วยน้ำโอโซนเข้มข้น 1 ppm นาน 10 นาที ให้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในการลดสารกำจัดศัตรูพืชกลุ่มออร์กาโนฟอสเฟต เมื่อเทียบกับน้ำประปา
- รุ่นอุตสาหกรรมมีตัวเลือกวัสดุสแตนเลส (201 และ 304) และสามารถล้างผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ และอาหารทะเลได้
ข้อควรระวังเครื่องล้างผักโอโซน
- ความปลอดภัยโอโซน: ระหว่างเครื่องทำงาน ห้ามอยู่ใกล้บริเวณเครื่อง และไม่ควรตั้งเครื่องในห้องปิดมิดชิด การออกแบบต่อเติมครัวสามารถช่วยจัดพื้นที่ให้เหมาะสม เพื่อป้องกันอันตรายจากการสูดดมโอโซนคนสามารถได้กลิ่นโอโซนได้ตั้งแต่ 0.01 ppm
- หลังจากเครื่องหยุดทำงาน ควรปล่อยทิ้งไว้ 3-5 นาที จึงนำสิ่งของที่ทำความสะอาดแล้วออก
โดยรวมเครื่องล้างผักโอโซน เป็นนวัตกรรมที่เพิ่มความมั่นใจในความสะอาดและความปลอดภัยของอาหารอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะการลดสารกำจัดศัตรูพืชตกค้างและเชื้อโรค
สั่งซื้อ เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว เครื่องล้างจาน เครื่องปั่นน้ำผลไม้ กาต้มน้ำไฟฟ้า ง่ายๆ 3 ขั้นตอน
1. กดเลือกสินค้าและจำนวนที่ต้องการสั่งซื้อสินค้าผ่าน SCGHOME.COM
2. ชำระเงินตามยอดในรายการสั่งซื้อ เพื่อยืนยันการจัดส่งสินค้า
3. ติดตามสถานะการจัดส่ง หรือต้องการความช่วยเหลือสั่งสินค้าได้ผ่านทาง:
ซื้อ เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว เครื่องล้างจาน เครื่องปั่นน้ำผลไม้ กาต้มน้ำไฟฟ้า ออนไลน์ที่ SCGHOME.COM มีให้เลือกมากมาย
เลือกซื้อ เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว เครื่องล้างจาน เครื่องปั่นน้ำผลไม้ กาต้มน้ำไฟฟ้า วัสดุแข็งแรง ทนทาน ได้มาตรฐาน ปลอดภัย เลือกซื้อ เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว เครื่องล้างจาน เครื่องปั่นน้ำผลไม้ กาต้มน้ำไฟฟ้า ที่ SCGHOME.COM พร้อมโปรโมชั่นส่วนลดตลอดปี จัดส่งทั่วไทย มั่นใจของแท้ คุณภาพดี ช้อปออนไลน์ 24 ชั่วโมง ปลอดภัยแน่นอน