ปูนซีเมนต์ผสมสำหรับงานก่อ ฉาบ เท กับ ปูนสำเร็จรูปนั้น ใช้สำหรับงานก่อฉาบผนังและเทหล่อได้เหมือนกัน จะต่างที่ขั้นตอนและวิธีการใช้งาน ซึ่งช่างหรือผู้รับเหมาจะพิจารณาเลือกใช้ตามความเหมาะสม ในงานก่อฉาบผนัง หรือแม้แต่งานเทหล่อส่วนประกอบตกแต่งหรือโครงสร้างเล็กๆ ซึ่งไม่ต้องรับน้ำหนักมากนัก วัสดุที่จะต้องพูดถึงคงหนีไม่พื้น “ปูนซีเมนต์ผสมสำหรับงานก่อ ฉาบ เท” ซึ่งมีคุณสมบัติเหนียวลื่น ยึดเกาะเนื้ออิฐและผนังได้ดี แห้งตัวพอเหมาะ ไม่ยืดหรือหดตัวมาก ช่วยลดการแตกร้าวที่ผิวผนังได้ เหมาะสำหรับงานก่ออิฐ ฉาบปูน เทปรับระดับพื้นก่อนติดตั้งวัสดุปิดผิว งานเทคอนกรีตโครงสร้างขนาดเล็ก (เช่น ตอม่อ เสา คาน พื้น ของบ้านชั้นเดียว พื้นลานหน้าบ้าน เป็นต้น) รวมถึงงานปูนปั้น เช่น งานปั้นบัว อ่างซีเมนต์ เป็นต้น ปูนซีเมนต์ภาพ: ตัวอย่างปูนซีเมนต์ผสม สำหรับงานก่อ ฉาบ เท ในขั้นตอนการทำงาน ช่างจะใช้ปูนซีเมนต์ผสมสำหรับงานก่อ ฉาบ เท มาผสมกับทรายและน้ำในอัตราส่วนที่เหมาะสมกับการใช้งานแต่ละแบบ ยกตัวอย่างเช่น งานก่ออิฐ: ใช้ปูนซีเมนต์ และ ทรายหยาบ (ทรายหยาบตามคุณภาพมาตรฐาน มอก. 598) ผสมกันในอัตราส่วน ประมาณ 1 : 2.5 ถึง 1 : 3 งานฉาบปูนชั้นแรก: ใช้ปูนซีเมนต์ และทรายละเอียด (เม็ดทรายขนาด 0.5 – 1.5 มม. คุณภาพมาตรฐาน มอก. 1776) ในอัตราส่วน ประมาณ 1 : 2.5 ถึง 1 : 3 ช่างปูนประเภทนี้ช่างปูนนิยมเรียกว่า “ปูนเค็ม” เพราะมีสัดส่วนของปูนซีเมนต์อยู่มาก ทำให้ยึดเกาะกับผนังได้ดี แต่ก็จะหดตัวได้มากและแต่งผิวยากเช่นกัน งานฉาบปูนชั้นที่ 2: ใช้ปูนซีเมนต์และทราย ในอัตราส่วนประมาณ 1 : 3 ถึง 1 : 4 หรือที่เรียกกันว่า “ปูนจืด” เนื่องจากมีทรายมากกว่า จึงหดตัวน้อย และแต่งผิวง่ายกว่าปูนเค็ม จึงเหมาะกับการฉาบผิวหน้าเพราะไม่ค่อยแตกร้าวหรือแตกลายงา 3 อันดับปูนซีเมนต์ผสม ก่อ ฉาบ เทพื้นปรับระดับ ยอดนิยม 1. เสือ ซูเปอร์ ปูนซีเมนต์ผสม ก่อ ฉาบ เท 40 กก. ราคาพิเศษ คุณสมบัติอเนกประสงค์ สามารถใช้งานได้หลากหลายในงานก่อสร้างทั่วไป ปูนชนิดนี้ใช้ได้ทั้งงานก่ออิฐ งานฉาบผนัง และงานเทพื้นโครงสร้างขนาดเล็ก ขนาดบรรจุ 40 กิโลกรัม/ถุง เมื่อผสมทรายและน้ำแล้ว สามารถใช้ได้เทียบเท่าปูนขนาด 50 กิโลกรัม 2. เสือ ปูนซีเมนต์ผสม ก่อ ฉาบ เท 50 กก. ราคาพิเศษ ปูนซีเมนต์ผสมจัดอยู่ในประเภท "ปูนทั่วไป" (ปูนก่อ ฉาบ เท ทั่วไป)ต้องนำไปผสมกับทรายและน้ำในสัดส่วนที่เหมาะสมก่อนใช้งาน เป็นปูนอเนกประสงค์ที่มีคุณสมบัติ เหนียวลื่น ยึดเกาะอิฐและผนังได้ดี และมีการแห้งตัวที่พอเหมาะ ช่วยลดการแตกร้าวที่ผิวผนัง 3. เสือ ปูนซีเมนต์ ฉาบสูตรพิเศษ 40 กก. ราคาพิเศษ ปูนเสือ ซีเมนต์ ฉาบสูตรพิเศษ เป็นปูนซีเมนต์ผสมที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่องานฉาบโดยเฉพาะ ใช้สำหรับฉาบผนังอิฐมอญและอิฐบล็อก โดยมีคุณสมบัติเด่นคือช่วยให้ผนังที่ได้เรียบเนียนสวยงาม ไม่แตกร้าว ที่สำคัญคือไม่ต้องใส่น้ำยาช่วยฉาบเพิ่มเติม สำหรับงานเทพื้น จะต้องมีหินเป็นส่วนผสมอยู่ด้วย ทั้งนี้ อัตราส่วนผสมต่างๆ ขึ้นอยู่กับปูนซีเมนต์ของผู้ผลิตแต่ละรายและคุณภาพของทราย นอกจากนี้ปริมาณการผสมน้ำยังต้องสัมพันธ์กับความชื้นของทรายด้วย ปัจจัยทั้งหมดล้วนมีผลต่อคุณภาพงานก่อสร้าง ดังนั้น การใช้ปูนซีเมนต์ผสมสำหรับงานก่อ ฉาบ เท จึงต้องควบคุมส่วนผสมให้ได้มาตรฐาน ทั้งสัดส่วนและคุณภาพของสิ่งที่นำมาผสม เม็ดทรายต้องมีขนาดเหมาะสม ไม่ผุกร่อน สะอาด ไม่มีวัชพืช สารอินทรีย์ (เมล็ดพืช ซากพืช ซากสัตว์) หรือสารเคมีเจือปน ไม่มีสภาพเป็นกรด ด่าง หรือเกลือปนอยู่ และน้ำที่นำมาผสมต้องสะอาด ปูนซีเมนต์ ภาพ: การผสมปูน (ซ้ายบน) การก่อผนังอิฐ (ซ้ายล่าง) และการฉาบผนัง (ขวา) อย่างไรก็ตาม ในวงการก่อสร้างเรามีตัวช่วยที่ทำให้สะดวกขึ้น นั่นคือ “ปูนมอร์ตาร์สำเร็จรูป” หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “ปูนสำเร็จรูป” เป็นปูนซีเมนต์ ที่ผสมหินบดละเอียดและสารพิเศษไว้เรียบร้อยแล้ว สัดส่วนการผสมและคุณภาพของวัตถุดิบถูกควบคุมให้มีความสม่ำเสมอ เมื่อนำมากับผสมน้ำตามสัดส่วนที่เหมาะสมแล้วกวนให้เข้ากัน สามารถใช้งานได้ทันที ไม่ต้องผสมทรายหรือสารเคมีเพิ่มเติม ปูนสำเร็จรูปแต่ละแบบจะถูกแยกประเภทตามการใช้งานโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น งานก่อทั่วไป งานฉาบทั่วไป งานฉาบละเอียด งานเทปรับพื้น งานซ่อมอเนกประสงค์ เป็นต้น ปูนแต่ละถุงจึงใช้ได้เฉพาะสำหรับงานนั้นๆ อย่างปูนสำเร็จรูปสำหรับงานก่อทั่วไป จะใช้สำหรับงานก่อผนังอย่างเดียว ไม่สามารถนำมาฉาบผนังได้ เป็นต้น (ยกเว้นปูนสำเร็จรูปบางรุ่นที่บนถุงจะระบุการใช้งานมากกว่า 1 ประเภท) ปูนมอร์ตาร์สำเร็จรูป ภาพ: ตัวอย่างปูนสำเร็จรูปสำหรับงานประเภทต่างๆ ปูนมอร์ตาร์สำเร็จรูป ภาพ: ตัวอย่างปูนสำเร็จรูปที่ใช้งานได้มากกว่า 1 ประเภท คือสามารถใช้ได้ทั้งงานก่อและเท สรุปว่า “ปูนซีเมนต์ผสมสำหรับงานก่อ ฉาบ เท” และ “ปูนสำเร็จรูป” นั้นใช้สำหรับงาน ก่อฉาบผนัง และเทหล่อ แบบเดียวกัน ต่างตรงที่ปูนซีเมนต์ผสมสำหรับงานก่อ ฉาบ เท เป็นวัตถุดิบที่สามารถนำมาผสมเพื่อการใช้งานได้หลากหลาย เพียงแต่ต้องความชำนาญของช่างในเรื่องการควบคุมมาตรฐานของส่วนผสม ส่วนปูนมอร์ตาร์สำเร็จรูป จะสะดวกกว่า คือสามารถผสมน้ำแล้วใช้ได้เลย ช่วยลดขั้นตอนการทำงานของช่าง ทำให้ทำงานได้ง่ายขึ้น ลดปัญหาปูนทรายไม่ได้มาตรฐานทั้งเรื่องอัตราส่วนและคุณภาพของทรายที่นำมาผสม อย่างไรก็ตามในการสั่งซื้อปูนสำเร็จรูปมาใช้ จะต้องกะปริมาณให้ดี เพราะปูนจะใช้ได้เฉพาะประเภทงานตามที่ระบุบนถุงเท่านั้น หากขาดหรือเกินจะนำมาใช้งานข้ามประเภทกันไม่ได้ ในการเลือกใช้ อาจพิจารณาตามปัจจัยและรายละเอียดของงานก่อสร้าง หากเป็นงานเฉพาะเจาะจง เช่น งานผนังอิฐมวลเบา แนะนำให้ใช้ปูนสำเร็จรูปสำหรับก่อและฉาบอิฐมวลเบาโดยเฉพาะ เนื่องจากอิฐมวลเบามีการยืดหดตัวที่แตกต่างจากอิฐมอญ เป็นต้น แต่ถ้าเป็นการก่อ ฉาบ หรือเททั่วไป สามารถเลือกตามความถนัด ความชำนาญ และประสบการณ์ของช่างหรือผู้รับเหมาแต่ละราย ซึ่งอาจเหมาะสมแตกต่างกันตามลักษณะการทำงาน ปูนฉาบอิฐมวลเบา ภาพ: ปูนสำเร็จรูปสำหรับการก่อ ฉาบผนังอิฐมวลเบา ปูนมอร์ตาร์สำเร็จรูป ภาพ: ตัวอย่างเปรียบเทียบปริมาณการใช้ปูนซีเมนต์ก่อ ฉาบ เท ทั่วไป กับปูนสำเร็จรูปในงานต่างๆ ขอขอบคุณแหล่งที่มาอ้างอิง: ปูนซีเมนต์และการประยุกต์ใช้งาน (Cement and Applications), เครือซิเมนต์ไทย, บริษัทปูนซิเมนต์ไทยอุสาหกรรม จำกัด, 2548 บทความปูนซีเมนต์ ปูนก่อ ปูนฉาบ ปูนเท ที่เกี่ยวข้อง: 1. ปูนซีเมนต์มีกี่ประเภท รู้ไว้ก่อนสร้างบ้าน รีโนเวทบ้าน 2. ปูนกับคอนกรีตต่างกันอย่างไร .stylescontent-w3BS{font-family:'Sarabun',sans-serif}.stylescontent-w3BS h1,.stylescontent-w3BS h2,.stylescontent-w3BS h3,.stylescontent-w3BS p,.stylescontent-w3BS ul,.stylescontent-w3BSli,.stylescontent-w3BS a{font-size:18px;line-height:1.6;margin:0;padding:0}.stylescontent-w3BS h1{font-size:18px;margin:0 0 2px}.stylescontent-w3BS h2{font-size:18px;margin:16px 0 2px}.stylescontent-w3BS h3{font-size:18px;margin:12px 0 2px;text-indent:2em}.stylescontent-w3BS li h3{display:inline;margin:0;font-size:18px}.stylescontent-w3BS p{text-indent:2em;text-align:justify}.stylescontent-w3BS ul,.stylescontent-w3BS ol{margin-left:2em;list-style-position:inside}.stylescontent-w3BS li{margin:0;padding:0;text-indent:0}.stylescontent-w3BS a{color:#007BFF;font-weight:600;text-decoration:none}.stylescontent-w3BS a:hover{text-decoration:underline}
เราสามารถลดปัญหาบ้านชื้นได้โดยอาศัยแนวทางต่างๆ ทั้งการระบายอากาศ ใช้วัสดุหรือเครื่องดูดความชื้น ไปจนถึงการซ่อมแซมปรับปรุงดูแล เพื่อลดหรือป้องกันความเปียกชื้นทั้งภายในบ้านและจากภายนอกบ้าน > หน้าฝนกับปัญหาบ้านชื้นเป็นของคู่กัน หากความชื้นสะสมมากๆ ในบ้านอาจมีกลิ่นอับ สีผนังบวมลอก ผนังและฝ้าเพดานเกิดเชื้อรา ตะไคร่น้ำ หรือแม้แต่ปัญหาประตูหน้าต่างไม้บวมที่เปิดปิดยาก และยังอาจกระทบต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย โดยเฉพาะโรคภูมิแพ้ หรือโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ ดังนั้นเราจึงควรใส่ใจในการรับมือและลดปัญหาบ้านชื้น ซึ่งเจ้าของบ้านสามารถอาศัยวิธีต่างๆ ดังนี้ > 1) ลดปัญหาบ้านชื้น ทำให้บ้านระบายอากาศและความชื้นได้เพียงพอ > ง่ายที่สุดคือ เปิดหน้าต่างและประตูเพื่อให้อากาศถ่ายเท รับลมและแสงแดด เพื่อช่วยลดความชื้นและกลิ่นอับในบ้าน หากเป็นห้องที่อับลมหรือไม่มีหน้าต่าง ควรติดตั้งพัดลมดูดอากาศหรือพัดลมหมุนเวียนอากาศช่วย > 2) ใช้วัสดุดูดความชื้น เครื่องดูดความชื้น ช่วยลดปัญหาบ้านชื้น เบื้องต้นเราอาจลดความชื้นด้วยวัสดุอย่าง ถ่านไม้ไผ่ เกลือ หรือข้าวสาร ใส่ในถุงผ้าที่ระบายอากาศได้ดี แล้ววางในมุมที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว หรือมุมตู้เก็บของ เพื่อช่วยดูดซับความชื้น การเปิดแอร์ Dry Mode ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งเช่นกัน หรือหากต้องการควบคุมความชื้นอย่างจริงจัง อาจเลือกใช้เครื่องดูดความชื้น\{.newtab}เพื่อควบคุมระดับความชื้นให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสม ช่วยลดกลิ่นอับ เชื้อรา และยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค > Singleimage เครื่องดูดความชื้น ภาพ: ตัวอย่างเครื่องดูดความชื้นรุ่นต่างๆ > 3) ตรวจสอบและซ่อมแซมรอยรั่วซึมในบ้าน > ไล่เช็กรอยรั่วและจุดช้ำน้ำจากเพดานซึ่งอาจเกิดจากหลังคารั่วหรือห้องน้ำชั้นบนรั่วซึม รอยรั่วผนัง รอยรั่วตามรอยต่อประตูหน้าต่าง รอยรั่วจากท่อน้ำ หากพบจุดรั่วซึมควรลงมืออุดซ่อมแซมด้วย วัสดุอุดซ่อมรั่วซึม\{.newtab} หรือติดต่อช่างให้ดำเนินการซ่อมให้เรียบร้อยตามความเหมาะสม รวมถึงจัดการระบบระบายน้ำให้เหมาะสม ไม่ให้มีน้ำหยด น้ำขัง เพื่อลดความชื้นสะสมในบ้าน > Singleimage รอยร้าวผนัง ผนังรั่วซึมรอบวงกบ ภาพ: ตัวอย่างรอยร้าวรั่วซึมที่ผนัง รอยรั่วที่หน้าต่าง และรอยร้าวรั่วซึมที่ผนังรอบหน้าต่าง > บริการซ่อมหลังคารั่ว ดาดฟ้ารั่ว คลิก\{.button .newtab} {.centered} > 4) ติดตั้งกันสาด ป้องกันฝนสาดเข้าบ้าน > ฝนที่สาดเข้ามาทางประตูและหน้าต่าง เป็นอีกส่วนหนึ่งที่นำความชื้นเข้ามาในบ้าน แม้จะปิดประตูหน้าต่าง แต่หากฝนตกหนักมากก็อาจเกิดการรั่วซึม รวมถึงเกิดความความชื้นสะสม นำมาซึ่งปัญหาเชื้อราที่ขอบหน้าต่างหรือประตูได้ด้วยเช่นกัน การติดตั้งหลังคากันสาดเหนือประตูหน้าต่างจะช่วยลดปัญหานี้ โดยอาจเลือกเป็นกันสาดแบบธรรมดา หรือกันสาดพับได้ ตามความต้องการของเจ้าของบ้าน > Singleimage กันสาด กันสาดพับได้ > ภาพ: ตัวอย่างการติดตั้งกันสาดพับได้ และกันสาดโปร่งแสงเหนือประตูหน้าต่าง เพื่อช่วยลดปัญหาน้ำรั่วซึมเข้าบ้านอันนำมาซึ่งปัญหาบ้านชื้น > > บริการติดตั้งหลังคากันสาด คลิก\{.button .newtab} {.centered} > กันสาดพับได้พร้อมติดตั้ง คลิก\{.button .newtab} {.centered} > 5) เลือกใช้วัสดุที่ลดการสะสมความชื้น หรือมีคุณสมบัติกันเชื้อรา > ยกตัวอย่างเช่น เปลี่ยนจากวัสดุที่เป็นแหล่งสะสมความชื้น อย่างพื้นพรม พื้นไม้จริง เป็นวัสดุที่ทนต่อความชื้น เช่น กระเบื้องเซรามิก พื้นไวนิล พื้น SPC รวมถึงวัสดุอื่นๆ อย่างมู่ลี่ไม้ ประตูไม้ อาจเปลี่ยนมาพิจารณามู่ลี่อะลูมิเนียมลายไม้ ประตู UPVC แทน เป็นต้น ส่วนบริเวณที่ต้องเผชิญความชื้นอย่างห้องน้ำ อาจเลือกวัสดุที่มีคุณสมบัติกันชื้น กันเชื้อรา เช่น สีกันชื้น ฝ้าทนชื้น ผ้าม่านกันเชื้อรา ประตู PVC ประตู UPVC ไปจนถึงพื้นกันลื่นรอยต่อน้อย\{.newtab}เพื่อลดปัญหาการสะสมของเชื้อรา > เลือกซื้อประตู UPVC พื้นไวนิล พื้น SPC คลิก\{.button .newtab} {.centered} > วิธีที่แนะนำไป คงพอจะช่วยลดและรับมือปัญหาบ้านชื้นได้ นอกจากนี้เราอาจใส่ใจในรายละเอียดเพิ่มเติมที่ช่วยลดความเปียกชื้นในชีวิตประจำวัน เช่น หากพบน้ำเปียกตามพื้น เฟอร์นิเจอร์ ควรเช็ดให้แห้งตลอด หมั่นทำความสะอาดบ้านสม่ำเสมอเพื่อป้องกันเชื้อรา กลิ่นอับ หากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการตากผ้าภายในบ้านเพื่อลดความชื้นสะสม สำหรับบ้านที่มีต้นไม้ไว้ในบ้าน ไม่ควรวางต้นไม้ในจุดอับลมอับแสงแดด เพราะต้นไม้จะคายน้ำทำให้ความชื้นเพิ่ม ควรวางไว้ในจุดที่มีการระบายอากาศและความชื้นได้ดี
ความแตกต่างของปูนกับคอนกรีต ทั้งลักษณะทางกายภาพ ส่วนประกอบของวัสดุ คุณสมบัติ และการนำไปใช้งาน “ปูน” กับ “คอนกรีต” หลายครั้งเรามักสับสนและเรียกปนกัน เพราะเรียกติดปากอะไรก็ “ปูน” ไปซะหมด อย่างบ้านที่เห็นกันทั่วไปก็เรียก บ้านปูน เทพื้นที่จอดรถหน้าบ้านก็เรียก เทปูน อยากได้ผนังฉาบขัดมันก็เรียก ผนังปูนเปลือย ทั้งที่จริงแล้วความหมายของปูนที่เรียกกันนั้นบางครั้งหมายถึง “คอนกรีต” ซึ่งมีส่วนประกอบและคุณสมบัติที่แตกต่างจาก “ปูน” อยู่หลายด้าน ปูน หรือปูนซีเมนต์ มีลักษณะเป็นผงสีเทา ส่วนผสมหลักคือ หินปูน หินดินดาน ดินลูกรัง และทราย เป็นวัสดุหลักในการผสมกับส่วนประกอบอื่นๆ เพื่อใช้ในงานก่อสร้าง แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ ปูนซีเมนต์สำหรับงานโครงสร้าง มีความสามารถในการรับน้ำหนักและแรงกดดันได้ดี มีความทนทานและไม่เกิดการหดตัวหรือแตกร้าวง่าย เช่น ปูนปอร์ตแลนด์ธรรมดา ใช้กับงานก่อสร้างพื้น เสา และคาน ปูนปอร์ตแลนด์ดัดแปลงใช้กับงานฐานราก สะพานเรือ และตอม่อ ปูนต้านทานซัลเฟตใช้กับสิ่งปลูกสร้างใกล้กับทะเลหรือพื้นที่มีดินเค็ม ปูนซีเมนต์สำหรับงานก่อ ฉาบ เทปรับระดับ และซ่อม มีกำลังน้อยกว่าปูนซีเมนต์สำหรับงานโครงสร้าง แต่มีความสามารถในการยึดเกาะได้ดี จึงเหมาะการก่ออิฐหรือฉาบพื้นกับผนังให้เรียบเนียน รวมถึงการใช้ในโครงสร้างขนาดเล็กอย่างเสาเอ็นคานเอ็น โดยจะแบ่งประเภทปูนตามการใช้งาน เช่น ปูนก่อ ฉาบ เท ปูนฉาบสูตรพิเศษ 3 อันดับปูนซีเมนต์ผสม ก่อ ฉาบ เทพื้นปรับระดับ ยอดนิยม เสือ ซูเปอร์ ปูนซีเมนต์ผสม ก่อ ฉาบ เท 40 กก. ราคาเริ่มต้น 117.00 - 161.00 บาท / ถุง คุณสมบัติอเนกประสงค์ สามารถใช้งานได้หลากหลายในงานก่อสร้างทั่วไป ปูนชนิดนี้ใช้ได้ทั้งงานก่ออิฐ งานฉาบผนัง และงานเทพื้นโครงสร้างขนาดเล็ก ขนาดบรรจุ 40 กิโลกรัม/ถุง เมื่อผสมทรายและน้ำแล้ว สามารถใช้ได้เทียบเท่าปูนขนาด 50 กิโลกรัม เสือ ปูนซีเมนต์ผสม ก่อ ฉาบ เท 50 กก. ราคาเริ่มต้น 155.00 - 177.00 บาท / ถุง ปูนซีเมนต์ผสมจัดอยู่ในประเภท "ปูนทั่วไป" (ปูนก่อ ฉาบ เท ทั่วไป)ต้องนำไปผสมกับทรายและน้ำในสัดส่วนที่เหมาะสมก่อนใช้งาน เป็นปูนอเนกประสงค์ที่มีคุณสมบัติ เหนียวลื่น ยึดเกาะอิฐและผนังได้ดี และมีการแห้งตัวที่พอเหมาะ ช่วยลดการแตกร้าวที่ผิวผนัง เสือ ปูนซีเมนต์ ฉาบสูตรพิเศษ 40 กก. ราคาเริ่มต้น 137.00 - 176.00 บาท / ถุง ปูนเสือ ซีเมนต์ ฉาบสูตรพิเศษ เป็นปูนซีเมนต์ผสมที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่องานฉาบโดยเฉพาะ ใช้สำหรับฉาบผนังอิฐมอญและอิฐบล็อก โดยมีคุณสมบัติเด่นคือช่วยให้ผนังที่ได้เรียบเนียนสวยงาม ไม่แตกร้าว ที่สำคัญคือไม่ต้องใส่น้ำยาช่วยฉาบเพิ่มเติม บรรจุภัณฑ์ของปูนซีเมนต์นอกจากแบบถุงที่น่าจะคุ้นตากันดี ยังมีแบบที่บรรจุในรถขนปูนลักษณะเหมือนสามเหลี่ยมคว่ำ รวมถึงถังไซโลสูงๆ สำหรับผสมคอนกรีตตามแพลนท์ปูน (แพลนท์คอนกรีต) หรือตามไซต์งานก่อสร้างต่างๆ ปูนซีเมนต์ รถขนปูน และถังไซโลสำหรับผสมคอนกรีตตามแพลนท์ปูน ภาพ: ปูนซีเมนต์ รถขนปูน และถังไซโลสำหรับผสมคอนกรีตตามแพลนท์ปูน สำหรับ ปูนซีเมนต์สำหรับงานก่อ ฉาบ เทปรับระดับ และซ่อม เมื่อนำมาผสมกับทรายและน้ำ (ปูนซีเมนต์ + ทราย + น้ำ) จะเรียกกันว่า “ปูนทราย” ซึ่งใช้สำหรับงานก่ออิฐ ฉาบปูน เทปรับระดับพื้นก่อนติดตั้งวัสดุปิดผิว งานหล่อปูนที่ไม่ได้รับน้ำหนัก และงานโครงสร้างขนาดเล็ก สามารถเลือกใช้ปูนซีเมนต์ตามประเภทงานได้ อย่างไรก็ดี เพื่อให้การทำงานก่อสร้างสะดวกมากขึ้น ผู้ผลิตหลายรายจึงผลิตปูนอีกประเภทที่เรียกว่า “ปูนมอร์ตาร์หรือปูนสำเร็จรูป” ที่มีการผสมปูนและทรายตามสัดส่วนของงานแต่ละประเภท การนำไปใช้เพียงเติมน้ำตามอัตราส่วนก็ใช้งานได้เลย ซึ่งมีทั้งปูนก่อฉาบสำหรับทั้งอิฐมอญและอิฐมวลเบา ปูนซ่อมอเนกประสงค์ ตลอดจนปูนฉาบลอฟต์ ปูนฉาบตกแต่งต่างๆ ส่วนผสมของปูนทราย ได้แก่ ปูนซีเมนต์ + ทราย + น้ำ ให้เนื้อเหนียวเนียน ภาพ: ส่วนผสมของปูนทราย ได้แก่ ปูนซีเมนต์ + ทราย + น้ำ ให้เนื้อเหนียวเนียน คอนกรีต หากนำ ปูนซีเมนต์สำหรับงานโครงสร้าง มาผสมกับทราย น้ำ และหิน (ปูนซีเมนต์ + ทราย + น้ำ + หิน) จะได้เป็น “คอนกรีต” ซึ่งใช้ในการหล่อโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ตั้งแต่งานหล่อเสาเข็ม ฐานราก เสา คาน พื้น ฯลฯ สามารถผสมเองที่หน้างานก็ได้ หรือเลือกใช้คอนกรีตผสมเสร็จจากผู้ผลิตซึ่งจะได้กำลังอัดสูงกว่าและได้มาตรฐาน หรือเลือกใช้ชิ้นงานสำเร็จรูปที่ผลิตจากโรงงานเพื่อนำมาประกอบที่หน้างาน (Precast Concrete) เช่น แผ่นพื้น/ผนังสำเร็จรูป รางรถไฟฟ้า ชิ้นส่วนสะพาน โดยคอนกรีตจะมีหลายประเภทตามการใช้งานไม่ว่าจะเป็น คอนกรีตแข็งตัวเร็ว คอนกรีตพรุน (Porous Concrete) คอนกรีตงานใต้น้ำ คอนกรีตทนกรด คอนกรีตกันซึม ฯลฯ ซึ่งสามารถสั่งผลิตตามกำลังอัด (Strength) ที่วิศวกรออกแบบเพื่อให้เหมาะสมกับงานแต่ละประเภทได้ด้วย รถโม่ปูน หรือ รถขนคอนกรีต CPAC ภาพ: รถโม่ปูน หรือ รถขนคอนกรีต CPAC ส่วนผสมของคอนกรีต ภาพ: ส่วนผสมของคอนกรีต ได้แก่ ปูนซีเมนต์ + ทราย + น้ำ + หิน ให้เนื้อหนักหยาบ คอนกรีตผสมเสร็จสำหรับงานหล่อโครงสร้างพื้น ภาพ: คอนกรีตผสมเสร็จสำหรับงานหล่อโครงสร้างพื้น สรุปโดยง่ายคือ ปูน มีลักษณะเป็นผงที่ยังไม่ได้ผสมกับส่วนประกอบใดๆ เพื่อใช้งาน แต่เมื่อนำมาผสมกับทรายและน้ำ มักเรียกว่า ปูนทราย ใช้ในงานปูนฉาบ ก่อ เท และซ่อม ส่วนคอนกรีตคือการนำปูนมาผสมกับทราย น้ำ และหิน ใช้ในงานโครงสร้าง ทั้งนี้หากใช้ปูนทรายหรืองานปูนควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับประเภทงาน แต่หากเลือกใช้คอนกรีตควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือวิศวกรเพื่อให้ได้โครงสร้างที่เหมาะสมและแข็งแรง เลือกซื้อ ปูนซีเมนต์ ให้เหมาะสมกับงาน ปูนซีเมนต์โครงสร้าง ปูนซีเมนต์ผสม ปูน ก่อ ฉาบ เท ปูนเสือมอร์ตาร์ ปูนซีเมนต์สำเร็จรูป บทความที่เกี่ยวข้อง ปูนซีเมนต์มีกี่ประเภท รู้ไว้ก่อนสร้างบ้าน รีโนเวทบ้าน “ปูนซีเมนต์ผสม ก่อ ฉาบ เท” กับ “ปูนสำเร็จรูป” ต่างกันอย่างไร .stylescontent-w3BS{font-family:'Sarabun',sans-serif}.stylescontent-w3BS h1,.stylescontent-w3BS h2,.stylescontent-w3BS h3,.stylescontent-w3BS p,.stylescontent-w3BS ul,.stylescontent-w3BS.subcategoryseoContentSg9Di li,.stylescontent-w3BS a{font-size:18px;line-height:1.6;margin:0;padding:0}.stylescontent-w3BS h1{font-size:18px;margin:0 0 2px}.stylescontent-w3BS h2{font-size:18px;margin:12px 0 2px}.stylescontent-w3BS h3{font-size:18px;margin:8px 0 2px;text-indent:2em}.stylescontent-w3BS p{text-indent:2em;text-align:justify}.stylescontent-w3BS ul,.stylescontent-w3BS ol{margin-left:2em;padding-left:2em}.stylescontent-w3BS li{padding-inline-start:1em;text-indent:1em}.stylescontent-w3BS li::marker{text-indent:1em}.stylescontent-w3BS a{color:#007BFF;font-weight:600;text-decoration:none}.stylescontent_-w3BS a:hover{text-decoration:underline}
ปูนซีเมนต์เป็นหนึ่งในวัสดุสำคัญที่จะสร้างบ้านให้แข็งแรงทนทาน ซึ่งมีคุณสมบัติและการใช้งานแตกต่างหลากหลาย ใครที่จะสร้างบ้านหรือรีโนเวทบ้านจึงควรเข้าใจว่าปูนซีเมนต์มีกี่ประเภท และจะเลือกใช้ยังไงให้เหมาะกับส่วนต่างๆ ของบ้าน 1. ปูนซีเมนต์โครงสร้าง ใช้เป็นส่วนผสมหลักของคอนกรีตในการเทหล่อคอนกรีตเสริมเหล็กสำหรับงานโครงสร้าง ไม่ว่าจะเป็นการเทฐานราก หล่อเสา หล่อคาน เทพื้น ซึ่งต้องมีความแข็งแรงสูง รับแรงอัดแรงดึงได้สูง และทนทานต่อสภาพแวดล้อม ในการใช้งานปูนซีเมนต์โครงสร้างจะต้องนำมาผสมกับหิน ทรายและน้ำ ตามสัดส่วนที่กำหนด เพื่อให้ได้คอนกรีตสำหรับหล่อเทโครงสร้างส่วนต่างๆ และเมื่อเทแล้วจะต้องใช้เวลาในการบ่มตามมาตรฐานเพื่อให้ได้ความแข็งแรงสูงสุด ประเภทของปูนซีเมนต์โครงสร้างที่ใช้หล่อคอนกรีตเทพื้น เลือกซื้อ ปูนซีเมนต์โครงสร้าง คลิก\{.centered} 2. ปูนซีเมนต์ก่อ ฉาบ เท ใช้สำหรับงานก่ออิฐ ฉาบปูน รวมถึงงานเทหล่อส่วนประกอบตกแต่งหรือโครงสร้างเล็กๆ ซึ่งรับน้ำหนักไม่มาก ไม่ว่าจะเป็นงานเทปรับระดับพื้นก่อนติดตั้งวัสดุปิดผิว งานเทคอนกรีตโครงสร้างขนาดเล็ก (เช่น ตอม่อ เสา คาน พื้น ของบ้านชั้นเดียว พื้นลานหน้าบ้าน) รวมถึงงานปูนปั้นอย่าง บัว อ่างซีเมนต์ เป็นต้น มีคุณสมบัติเหนียวลื่น ยึดเกาะเนื้ออิฐและผนังได้ดี แห้งตัวพอเหมาะ ไม่ยืดหรือหดตัวมาก ช่วยลดการแตกร้าวที่ผิวผนังได้ ปูนซีเมนต์ก่อ ฉาบ เท จะต้องผสมกับทรายและน้ำในอัตราส่วนที่เหมาะสม ซึ่งจะแตกต่างกันสำหรับการใช้งานแต่ละแบบ หากเป็นงานเทพื้นจะต้องผสมหินด้วย ทั้งนี้ คุณภาพของวัตถุดิบรวมถึงการควบคุมสัดส่วนการผสม มีผลต่อคุณภาพของงาน ดังนั้นในท้องตลาดจึงมีทางเลือกที่สะดวกขึ้น คือ “ปูนซีเมนต์สำเร็จรูป” ซึ่งผสมส่วนประกอบมาให้เรียบร้อยแล้ว ดังจะเล่าในหัวข้อถัดไป การใช้งานปูนซีเมนต์ก่อ ฉาบ เท ในงานก่อฉาบผนัง ภาพ: การก่อและฉาบผนังอิฐ สามารถใช้ปูนซีเมนต์ก่อ ฉาบ เท ได้ 3 อันดับปูนซีเมนต์ผสม ก่อ ฉาบ เทพื้นปรับระดับ ยอดนิยม เสือ ซูเปอร์ ปูนซีเมนต์ผสม ก่อ ฉาบ เท 40 กก. ราคาเริ่มต้น 117.00 - 161.00 บาท / ถุง คุณสมบัติอเนกประสงค์ สามารถใช้งานได้หลากหลายในงานก่อสร้างทั่วไป ปูนชนิดนี้ใช้ได้ทั้งงานก่ออิฐ งานฉาบผนัง และงานเทพื้นโครงสร้างขนาดเล็ก ขนาดบรรจุ 40 กิโลกรัม/ถุง เมื่อผสมทรายและน้ำแล้ว สามารถใช้ได้เทียบเท่าปูนขนาด 50 กิโลกรัม เสือ ปูนซีเมนต์ผสม ก่อ ฉาบ เท 50 กก. ราคาเริ่มต้น 155.00 - 177.00 บาท / ถุง ปูนซีเมนต์ผสมจัดอยู่ในประเภท "ปูนทั่วไป" (ปูนก่อ ฉาบ เท ทั่วไป)ต้องนำไปผสมกับทรายและน้ำในสัดส่วนที่เหมาะสมก่อนใช้งาน เป็นปูนอเนกประสงค์ที่มีคุณสมบัติ เหนียวลื่น ยึดเกาะอิฐและผนังได้ดี และมีการแห้งตัวที่พอเหมาะ ช่วยลดการแตกร้าวที่ผิวผนัง เสือ ปูนซีเมนต์ ฉาบสูตรพิเศษ 40 กก. ราคาเริ่มต้น 137.00 - 176.00 บาท / ถุง ปูนเสือ ซีเมนต์ ฉาบสูตรพิเศษ เป็นปูนซีเมนต์ผสมที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่องานฉาบโดยเฉพาะ ใช้สำหรับฉาบผนังอิฐมอญและอิฐบล็อก โดยมีคุณสมบัติเด่นคือช่วยให้ผนังที่ได้เรียบเนียนสวยงาม ไม่แตกร้าว ที่สำคัญคือไม่ต้องใส่น้ำยาช่วยฉาบเพิ่มเติม ปูนซีเมนต์ก่อ ฉาบ เท ใข้เทปรับระดับพื้น และหล่อคานเอ็น เสาเอ็น ภาพ: ตัวอย่างงานเทปรับระดับพื้น และการหล่อคานเอ็น เสาเอ็น ซึ่งสามารถใช้ปูนซีเมนต์ก่อ ฉาบ เท ได้ เลือกซื้อ ปูนซีเมนต์ก่อ ฉาบ เท คลิก\{.centered} 3. ปูนซีเมนต์สำเร็จรูป หรือที่เรียกว่า “ปูนมอร์ตาร์” เป็นปูนซีเมนต์ที่ผสมหินบดละเอียดและส่วนผสมต่างๆ ซึ่งควบคุมคุณภาพมาจากโรงงาน เพียงแค่นำมากับผสมน้ำตามสัดส่วนที่กำหนดแล้วกวนให้เข้ากัน ก็ใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องผสมทรายหรือสารอื่นๆ เพิ่มเติม ปูนซีเมนต์สำเร็จรูปแต่ละถุงจะแยกประเภทตามการใช้งานโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น ปูนก่อทั่วไป ปูนฉาบทั่วไป ปูนฉาบละเอียด ปูนก่ออิฐมวลเบา ปูนฉาบอิฐมวลเบา ปูนเทปรับพื้น ปูนซ่อมอเนกประสงค์ ไปจนถึงปูนหล่อเทโครงสร้าง (คอนกรีตแห้ง) ปูนก่อฉาบอิฐมวลเบา ภาพ: ปูนฉาบอิฐมวลเบา และปูนก่ออิฐมวลเบา ซึ่งจัดอยู่ในประเภทของปูนซีเมนต์สำเร็จรูป เลือกซื้อ ปูนซีเมนต์สำเร็จรูป คลิก\{.centered} 4. ปูนซีเมนต์ขาว เนื้อปูนจะมีสีขาว (จากการคัดวัตถุดิบที่มีเหล็กออกไซด์และแมกนีเซียมออกไซด์น้อย ร่วมกับวิธีการผลิตเฉพาะ) สามารถใช้งานได้เช่นเดียวกับปูนซีเมนต์สีเทา สำหรับงานสร้างบ้านทั่วไปมักใช้ปูนซีเมนต์ขาวปอร์ตแลนด์ซึ่งมีความแข็งแกร่ง เป็นส่วนผสมหลักในงานหล่อคอนกรีตขาว งานตกแต่งพื้น ผนัง รวมทั้งงานตกแต่งพื้นผิวเทอร์ราซโซหรืองานหินขัด งานหินล้าง/กรวดล้าง/ทรายล้าง ทั้งภายในและภายนอกอาคาร นอกจากนี้ปูนซีเมนต์ขาวยังเป็นส่วนผสมของปูนสำหรับงานฉาบขาว งานฉาบสี งานฉาบสีขัดมัน งานผิวทราย รวมถึงใช้ในงานปูและยาแนวกระเบื้องด้วย ฉาบแต่งผนังด้วยปูนซีเมนต์ขาว ภาพ: ตัวอย่างการตกแต่งผนังด้วยการฉาบปูนซีเมนต์ขาว อ่านเพิ่มเติม: [ปูนซีเมนต์เทาและปูนซีเมนต์ขาว แตกต่างกันอย่างไร และควรเลือกอย่างไร?](https://www.scghome.com/living-ideas/articles/ปูนซีเมนต์เทาและปูนซีเมนต์ขาวแตกต่างกันอย่างไร ) 5. ปูนฉาบตกแต่งผิวบาง เรียกกันว่า ปูนสกิมโค้ท (Skim Coat) มีเนื้อละเอียดเรียบเนียน ฉาบได้บางถึง 1-3 มม. มีทั้งแบบที่ใช้สำหรับตกแต่งผิวผนังที่ฉาบไว้แล้วให้เรียบเนียนสวยงามเป็นพิเศษก่อนทาสี และแบบที่ใช้สำหรับตกแต่งลูกเล่นบนผนัง เช่น ปูนฉาบแต่งผิวสำหรับแต่งผนังแบบปูนเปลือย ปูนฉาบแต่งผิวที่มีการผสมสีสันต่างๆ (Color Skim Coat) ซึ่งช่างแต่ละคนอาจมีเทคนิคในการแต่งให้เป็นลวดลายได้ด้วย ฉาบปูนผนังลอฟต์ DIY เสือเดคอร์ ภาพ: ปูนฉาบตกแต่งผิวบางสำหรับแต่งผนังสไตล์ปูนเปลือย พร้อมชุดอุปกรณ์สำเร็จรูปให้เจ้าของบ้านสามารถลงมือฉาบเองได้ อ่านเพิ่มเติม: 6 ขั้นตอนฉาบผนังปูนขัดมัน (ปูนเปลือย) ทำเองได้ง่ายๆ ไม่ต้องพึ่งช่าง ฉาบปูนสกิมโค้ทสีเหลือง ภาพ: การประยุกต์ทำแพทเทิร์นลวดลายบนผนัง ด้วยปูนฉาบแต่งผิวบางสี (Color Skim Coat) เจ้าของบ้านคงพอเห็นภาพแล้วว่าปูนซีเมนต์มีกี่ประเภท โดยที่นิยมใช้ในงานสร้างบ้านหรือรีโนเวทบ้านก็มักไม่หนีจากที่เล่าไว้ (แม้บางครั้งอาจพบปูนซีเมนต์สำหรับการใช้งานเฉพาะ เช่น ปูนทนน้ำเค็ม ดินเค็ม ปูนทนน้ำทะเล ขึ้นอยู่กับแต่ละกรณี) ทั้งนี้สิ่งสำคัญที่ลืมไม่ได้คือ ปูนซีเมนต์แต่ละประเภทล้วนเหมาะกับการใช้งานเฉพาะด้าน ไม่ว่าจะเป็นปูนสำหรับงานโครงสร้าง งานก่อฉาบ ปูนสำเร็จรูป ปูนซีเมนต์ขาว ปูนฉาบตกแต่งผิว การเลือกใช้ปูนซีเมนต์อย่างเหมาะสมจึงส่งผลให้บ้านมีความแข็งแรง ทนทาน สวยงามตรงใจ รวมถึงลดปัญหาการซ่อมแซมที่อาจเกิดในอนาคต ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายระยะยาวได้ .stylescontent-w3BS{font-family:'Sarabun',sans-serif}.stylescontent-w3BS h1,.stylescontent-w3BS h2,.stylescontent-w3BS h3,.stylescontent-w3BS p,.stylescontent-w3BS ul,.stylescontent-w3BS.subcategoryseoContentSg9Di li,.stylescontent-w3BS a{font-size:18px;line-height:1.6;margin:0;padding:0}.stylescontent-w3BS h1{font-size:18px;margin:0 0 2px}.stylescontent-w3BS h2{font-size:18px;margin:12px 0 2px}.stylescontent-w3BS h3{font-size:18px;margin:8px 0 2px;text-indent:2em}.stylescontent-w3BS p{text-indent:2em;text-align:justify}.stylescontent-w3BS ul,.stylescontent-w3BS ol{margin-left:2em;padding-left:2em}.stylescontent-w3BS li{padding-inline-start:1em;text-indent:1em}.stylescontent-w3BS li::marker{text-indent:1em}.stylescontent-w3BS a{color:#007BFF;font-weight:600;text-decoration:none}.stylescontent_-w3BS a:hover{text-decoration:underline}
ไม่ว่าจะรีโนเวตบ้านหรือคอนโดก็ไม่ใช่เรื่องยาก ด้วยเคล็ดลับการตกแต่งบ้านที่สามารถเปลี่ยนลุคใหม่ในชั่วข้ามคืน >จากสถานการณ์โควิดสิบเก้าส่งผลให้ทุกคนต้องปรับตัวแบบนิวนอร์มอล หลายคนต้องทำงานที่บ้านและใช้ชีวิตติดบ้านมากกว่าเดิม จนอาจเกิดความจำเจและเบื่อหน่าย นำไปสู่เทรนด์การตกแต่งบ้านมากมายในโลกโซเชียล ทั้งในแง่ของการประดับประดาขนาดย่อม ไปจนถึงการปรับปรุงขนานใหญ่ ซึ่งบทความนี้เราจะมาแนะนำการแปลงโฉมบ้านและคอนโดที่ทำได้ง่ายและรวดเร็วกัน ตกแต่งห้องด้วยไม้กระถาง รีโนเวท ปรับปรุง ออกแบบ บ้าน คอนโด ตกแต่งภายใน >ภาพ: การตกแต่งห้องด้วยไม้กระถาง >## เพิ่มสีเขียวให้พื้นที่ระเบียงและภายในห้อง >การปรับปรุงคอนโดมีข้อจำกัดสำคัญคือขนาดพื้นที่และที่ตั้ง ประกอบกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทำให้การตกแต่งด้วยไม้กระถางกลายเป็นกระแสที่มาแรงมาก ๆ ในช่วงปีที่ผ่านมา เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มความร่มรื่นสบายตาแล้ว ยังสามารถโยกย้ายได้ตามต้องการ ซึ่งการจัดวางไม้กระถางให้สวยก็ควรมีระดับสูงต่ำลดหลั่นกัน อาจลองหาเก้าอี้ไม้เตี้ย ๆ หรือลังไม้มาเป็นฐานวาง จะเป็นแนวทรอปิคอลแบบบาหลีหรือมินิมอลแบบเกาหลีก็แล้วแต่ความชื่นชอบส่วนบุคคล กระจกโค้ตสี รีโนเวท ปรับปรุง ออกแบบ บ้าน คอนโด ตกแต่งภายใน >ภาพ: กระจกโค้ตสี กระจกรูปร่างฟรีฟอร์ม รีโนเวท ปรับปรุง ออกแบบ บ้าน คอนโด ตกแต่งภายใน >ภาพ: กระจกรูปร่างฟรีฟอร์ม >## สร้างมิติด้วยกระจกโค้ตสีและกระจกเงา >หนึ่งในของตกแต่งที่ช่วยเพิ่มมิติให้ห้องก็คือกระจก ซึ่งมักนำมาใช้ในการออกแบบภายในและปรับปรุงบ้าน โดยเฉพาะที่พักอาศัยที่มีพื้นที่ไม่มาก เพราะภาพสะท้อนจะช่วยลวงตาให้ห้องดูกว้างขวางขึ้นได้ ประเภทกระจกยังสามารถกำหนดสไตล์และบรรยากาศของห้อง ยกตัวอย่างเช่น กระจกโค้ตสีชาหรือสีดำจะให้บรรยากาศที่หรูหราและเคร่งขรึม ส่วนกระจกเงาธรรมดาจะช่วยให้ห้องดูสว่างและโปร่งโล่งขึ้น >การติดกระจกอาจเลือกกรุเพียงบางส่วนของผนังหรือใช้เต็มผนังก็ได้ แต่ต้องระวังการใช้บนผนังหลายด้านในห้องเดียวกัน เพราะอาจทำให้เกิดความงงมากกว่าสวย ทั้งนี้ถ้าต้องการความยืดหยุ่น ก็สามารถเลือกใช้กระจกลอยตัวมาตกแต่งแทน โดยสามารถเลือกไดคัตรูปร่างตามต้องการได้ ซึ่งกระแสมาแรงก็คือกระจกรูปร่างโค้งมนหรือฟรีฟอร์ม ที่ช่วยลดทอนความแข็งของห้องสี่เหลี่ยมได้เป็นอย่างดี การตกแต่งห้องด้วยวอลเปเปอร์แบบมีลวดลาย รีโนเวท ปรับปรุง ออกแบบ บ้าน คอนโด ตกแต่งภายใน >ภาพ: การตกแต่งห้องด้วยวอลเปเปอร์แบบมีลวดลาย >## เปลี่ยนโฉมด้วยวอลเปเปอร์ >ถ้าต้องการเปลี่ยนบรรยากาศภายในห้องให้เห็นผลชัดเจนในระยะเวลาอันสั้น การติดวอลเปเปอร์ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดอันหนึ่ง นอกจากจะติดตั้งง่ายและไม่เลอะเทอะ ยังมีรูปแบบมากมายให้เลือกสรร ทั้งผิวสัมผัสและโทนสี ผลิตภัณฑ์ของบางเจ้ามีลวดลายสวยงามไม่แพ้ภาพวาด จึงนิยมนำมาใช้ในการออกแบบบ้านเพื่อเพิ่มเอกลักษณ์พิเศษแก่ห้อง กระเบื้องไวนิล ไม้พื้นไวนิล รีโนเวท ปรับปรุง ออกแบบ บ้าน คอนโด ตกแต่งภายใน >ภาพ: กระเบื้องไวนิล ไม้พื้นไวนิล Click Lock UNIX รีโนเวท ปรับปรุง ออกแบบ บ้าน คอนโด ตกแต่งภายใน >ภาพ: ตัวอย่างไม้พื้นไวนิล Click Lock UNIX ไม้พื้นลามิเนต UNIX รีโนเวท ปรับปรุง ออกแบบ บ้าน คอนโด ตกแต่งภายใน >ภาพ: ตัวอย่างไม้พื้นลามิเนต UNIX ไม้พื้น SPC UNIX รีโนเวท ปรับปรุง ออกแบบ บ้าน คอนโด ตกแต่งภายใน >ภาพ: ตัวอย่างไม้พื้น SPC UNIX >## ปรับปรุงพื้นด้วยไม้พื้นไวนิล ไม้พื้นลามิเนต หรือไม้พื้น SPC >หากต้องการเลี่ยงงานก่อสร้างที่เลอะเทอะ การเปลี่ยนพื้นด้วยไม้พื้นไวนิล ไม้พื้นลามิเนต หรือไม้พื้น SPCถือเป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็ว เพราะสามารถจบงานได้ภายในวันเดียวเท่านั้น ปัจจุบันวัสดุเหล่านี้มีหลากหลายมาก โดยเฉพาะลวดลายไม้ที่ให้สีสันกับพื้นผิวที่สมจริง ราคาไม่แพง สามารถปรับเปลี่ยนง่าย และยังสามารถปูทับบนพื้นผิวเดิมได้ แต่ต้องระวังเรื่องความหนาพื้นที่จะเพิ่มขึ้นด้วย ข้อจำกัดของวัสดุก็คือไม่ทนทานต่อน้ำและความชื้นนัก จึงไม่นิยมใช้ในห้องน้ำหรือครัวไทย สนใจ วัสดุตกแต่งปูพื้นภายใน พร้อมบริการติดตั้ง คลิก\{.button .newtab} {.centered} ห้องโฮมเธียเตอร์ วัสดุอะคูสติก Cylence Zoundblock กันเสียง Cylence Zandera ดูดซับเสียง >ภาพ: ห้องโฮมเธียเตอร์ ที่ใช้วัสดุอะคูสติก Cylence Zoundblock ช่วยกั้นเสียงไม่ให้ออกไปรบกวนคนภายนอก และเลือกติดตั้งวัสดุอะคูสติก Cylence Zandera ช่วยดูดซับเสียงในห้อง >## เสริมกิจกรรมยามว่างด้วยโฮมเธียเตอร์ >พิษโควิดทำให้การดูภาพยนตร์ในโรงกลายเป็นเรื่องลำบากขึ้น และเชื่อว่าเจ้าของบ้านหลายท่านเคยนึกอยากมีโฮมเธียเตอร์ส่วนตัว ซึ่งการปรับปรุงห้องธรรมดาหนึ่งห้องให้เป็นโฮมเธียเตอร์นั้นไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด หลักการสำคัญคือต้องเก็บเสียงด้านในและกันเสียงด้านนอกได้ วิธีง่าย ๆ ก็คือการบุฉนวนกันเสียงสำเร็จรูปจากส่วนผนังเดิม แล้วปิดทับด้วยผนังเบาอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งการบุฉนวนนี้ต้องบุในส่วนด้านบนฝ้าเพดานด้วยจึงจะให้ผลดียิ่งขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม จุดที่เสียงมักจะรั่วไหลออกไปมากที่สุดก็คือบานประตู สามารถเลือกใช้เทปกันเสียงติดตั้งตามวงกบประตูเพื่อช่วยลดเสียงรบกวนระหว่างห้อง ถ้าต้องการโฮมเธียเตอร์ที่สมบูรณ์แบบ ปัจจุบันมีผู้ผลิตหลายเจ้าที่รับออกแบบทำโฮมเธียเตอร์โดยเฉพาะ ซึ่งสามารถคำนวณรายละเอียดเรื่องเสียงได้ถี่ถ้วนกว่า สนใจ ออกแบบ และติดตั้ง ห้องกันเสียง ห้องโฮมเธียเตอร์ คลิก\{.button .newtab} {.centered} >การรีโนเวตบ้านไม่ใช่เรื่องยาก ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณ หากเป็นงานรีโนเวตคอนโดก็ต้องคำนึงเรื่องกระบวนการก่อสร้าง มักจะนิยมใช้งานแห้งมากกว่างานเปียกดังที่ได้กล่าวมาแล้ว เพราะทำได้สะดวกรวดเร็วและเรียบร้อยกว่า แต่หากเจ้าของบ้านท่านใดไม่อยากปวดหัวกับขั้นตอนมากมาย ก็สามารถติดต่อสถาปนิกหรือผู้ผลิตสินค้าต่าง ๆ โดยตรง ซึ่งบางเจ้าก็จะมีบริการออกแบบตกแต่งภายในบ้านร่วมด้วย หากมีการจำลองภาพสามมิติออกมาก่อนก่อสร้างก็จะช่วยให้ภาพในใจของเจ้าของบ้านชัดเจนมากขึ้น สนใจ บริการออกแบบ ปรับปรุงบ้าน คลิก\{.button .newtab} {.centered}
รวมคำถามพบบ่อยจากปัญหาหลังคารั่วซึม ทั้งสาเหตุและแนวทางแก้ไขอย่างถูกต้อง รวมถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการซ่อมหลังคารั่วซึม >เพราะปัญหาหลังคารั่วเป็นเรื่องน่าหนักใจ ทั้งยังอยู่ในตำแหน่งที่ยากในการตรวจสอบสำหรับเจ้าของบ้าน การหาสาเหตุและซ่อมแซมแก้ไขด้วยตัวเองจึงเป็นเรื่องลำบาก บางครั้งให้ช่างซ่อมแล้วก็ไม่หาย ปัญหาเหล่านี้เป็นที่มาของคำถามยอดฮิตซึ่ง SCG HOME จะขอนำมาเล่าสู่กันฟังพร้อมกับคำตอบให้หายข้องใจ >## 1) หลังคารั่ว เกิดจากอะไร ? >A: หลังคารั่วโดยทั่วไปเกิดจาก 4 สาเหตุ >1. วัสดุมุงและอุปกรณ์หลังคาเสื่อมสภาพ เนื่องด้วยหลังคาเป็นส่วนที่ต้องเผชิญสภาพอากาศ โดนแดดและฝนอยู่ตลอด พอใช้งานไปหลายปี ก็มีโอกาสที่วัสดุอุปกรณ์จะเสื่อมตามกาลเวลา เช่น กระเบื้องหลังคาแตกร้าว หรือโดนลมพัดหลุดเผยอ ปูนยึดครอบสันและตะเข้สันเกิดรอยร้าวรั่วซึม แผ่นปิดรอยต่อเสื่อมสภาพ วัสดุโลหะอย่างสกรูยึดกระเบื้อง หรือตะเข้ราง รางน้ำฝน เกิดการผุพังเป็นสนิม >2. ครอบหลังคา หรือปีกนก ค.ส.ล. แตกร้าว ส่วนประกอบหลังคาที่เป็นปูน หากใช้งานไปนาน หรือติดตั้งปูนครอบไม่ถูกวิธี ก็อาจเกิดการแตกร้าวเป็นช่องทางให้น้ำซึมเข้าจนกลายเป็นปัญหาหลังคารั่วซึมได้ >3. การติดตั้งที่ผิดวิธี ถึงแม้จะเป็นหลังคาบ้านที่สร้างใหม่ได้ไม่นาน หากช่างมุงกระเบื้องและติดตั้งอุปกรณ์ผิดวิธี เช่น ใส่อุปกรณ์ไม่ครบ การสลับแผ่นกระเบื้อง ระยะซ้อนทับกระเบื้อง และองศาหลังคาไม่เป็นไปตามคู่มือติดตั้ง เป็นต้น ก็อาจทำให้หลังคารั่วซึมได้ >4. รางน้ำบนหลังคาอุดตัน บางครั้งอาจมีเศษกิ่งไม้ ใบไม้ หลุดร่วงลงมาอุดขวางในรางน้ำฝนหรือตะเข้รางบริเวณเชิงชาย พอน้ำฝนในรางระบายได้ไม่ดี ก็อาจล้นไหลย้อนเข้าใต้กระเบื้องหลังคาและหยดลงในบ้าน กลายเป็นปัญหาหลังคารั่วซึมได้ หลังคารั่ว ซ่อมหลังคารั่ว อุดรอยรั่วหลังคา หลังคารั่วซึม หลังคาบ้านรั่ว แก้ปัญหาหลังคารั่ว ซ่อมหลังคารั่วscg กระเบื้องหลังคาแตกร้าว >ภาพ: ปัญหากระเบื้องแตกร้าวบริเวณรอยต่อสันหลังคากับตะเข้ราง ทำให้หลังคารั่วซึมได้ หลังคารั่ว ซ่อมหลังคารั่ว อุดรอยรั่วหลังคา หลังคารั่วซึม หลังคาบ้านรั่ว แก้ปัญหาหลังคารั่ว ซ่อมหลังคารั่วscg ปีกค.ส.ล.แตกร้าว ครอบหลังคารั่ว ปูนยึดครอบหลังคา >ภาพ: รอยแตกร้าวของปีกนก ค.ส.ล. (บน) และการใส่ปูนครอบหลังคาล้นเกินไป (ล่างซ้าย) หรือบางเกินไป (ขวา) ซึ่งเป็นต้นเหตุให้หลังคารั่วซึมได้ หลังคารั่ว ซ่อมหลังคารั่ว อุดรอยรั่วหลังคา หลังคารั่วซึม หลังคาบ้านรั่ว แก้ปัญหาหลังคารั่ว ซ่อมหลังคารั่วscg รางน้ำฝนตัน >ภาพ: เศษใบไม้หลุดร่วงลงไปอุดตันในตะเข้รางและรางน้ำเชิงชาย ทำให้น้ำระบายไม่ทัน จนอาจล้นไหลย้อนเข้าในบ้าน กลายเป็นปัญหาหลังคารั่วซึมได้ สนใจ บริการปรับปรุงซ่อมแซมหลังคาบ้าน โดยผู้เชี่ยวชาญ คลิก\{.button .newtab} {.centered} >## 2) เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเกิดปัญหาหลังคารั่ว อยากทราบวิธีสังเกต ? >A: เราสามารถสังเกตอาการหลังคารั่วซึมได้ 2 ระยะ คือ >- ระยะที่ 1 เห็นคราบน้ำบนแผ่นฝ้าเพดานบริเวณที่เกิดเสียง แสดงว่าน้ำจากหลังคารั่วสะสมบนฝ้ามาระยะหนึ่ง >- ระยะที่ 2 น้ำไหลหยดจากฝ้าเพดาน แผ่นฝ้าเพดานเริ่มบวมพอง เสียหายมาก ควรให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบและซ่อมแซมหลังคาโดยเร็ว ก่อนที่ปัญหาหลังคารั่วครั้งนี้จะสร้างปัญหาอื่นตามมา เช่น ไฟฟ้าลัดวงจร พื้น/ผนัง/เฟอร์นิเจอร์ บวมพอง อับชื้น เป็นเชื้อรา หลังคารั่ว ซ่อมหลังคารั่ว อุดรอยรั่วหลังคา หลังคารั่วซึม หลังคาบ้านรั่ว แก้ปัญหาหลังคารั่ว ซ่อมหลังคารั่วscg ฝ้าเพดานเป็นรอยด่าง >ภาพ: ตัวอย่างคราบน้ำบนฝ้าเพดานจากปัญหาหลังคารั่ว >หากเจ้าของบ้านอยากสำรวจเบื้องต้นเองก่อน ให้ลองเปิดฝ้าขึ้นไปดูโถงหลังคา หาจุดที่แสงลอดหรือไล่ดูรอยคราบน้ำตามโครงหลังคา ก็อาจพบจุดรั่วซึมเบื้องต้นที่เห็นด้วยตาเปล่าได้ อย่างไรก็ตาม ในการแก้ไขควรให้ทีมผู้เชี่ยวชาญเป็นคนตรวจสอบและลงมือ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหารั่วซ้ำในระยะยาว สนใจ บริการปรับปรุงซ่อมแซมหลังคาบ้าน โดยผู้เชี่ยวชาญ คลิก\{.button .newtab} {.centered} >## 3) ซ่อมหลังคารั่วแล้วไม่หาย กลับมารั่วซ้ำอีก เป็นเพราะอะไร ? >A: สาเหตุหลักที่ซ่อมหลังคารั่วแล้วไม่หายขาด คือ >1) ช่างไม่มีความรู้ความชำนาญเรื่องหลังคารั่วมากพอ วิเคราะห์ปัญหาผิด จึงซ่อมแซมแก้ไขได้ไม่ตรงจุด >2) ใช้วิธีซ่อมแบบชั่วคราว เช่น ยาซิลิโคน ทาน้ำยากันซึม ใข้ปูนอุดในจุดรั่วซึม เป็นวิธีซ่อมหลังคารั่วที่เปรียบเสมือนการปฐมพยาบาลเท่านั้น ผ่านไป 1-2 ปี พอวัสดุซ่อมเสื่อมสภาพ ก็มีโอกาสที่หลังคาจะกลับมารั่วอีก หลังคารั่ว ซ่อมหลังคารั่ว อุดรอยรั่วหลังคา หลังคารั่วซึม หลังคาบ้านรั่ว แก้ปัญหาหลังคารั่ว ซ่อมหลังคารั่วscg ซิลิโคนอุดหลังคา ซิลิโคนซ่อมหลังคา >ภาพ: ตัวอย่างการซ่อมหลังคารั่วโดยใช้วัสดุอุดตามรอยต่อ รอยแตกร้าว ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาแบบชั่วคราว และมีโอกาสกลับมารั่วซ้ำได้ง่าย >## 4) ควรซ่อมหลังคารั่วอย่างไร ปัญหาถึงจะหายขาด ? >A: การจะซ่อมหลังคารั่วให้หายขาด ต้องพึ่งทีมผู้ชำนาญในการตรวจสอบ และซ่อมแซมอย่างตรงจุดด้วยวิธีที่แก้ไขได้ในระยะยาว เช่น หากกระเบื้องหรือวัสดุอุปกรณ์เสื่อมสภาพ จะต้องรื้อเปลี่ยนใหม่ หากเป็นปัญหาที่การติดตั้งก็ต้องหาวิธีแก้ไขเฉพาะ เช่น ระยะระหว่างปีกนก ค.ส.ล. สั้นไป หรือห่างจากกระเบื้องมากเกินไป อาจต้องติดวัสดุเสริม เป็นต้น กรณีตำแหน่งรั่วซึมมีหลายจุด การรื้อเปลี่ยนกระเบื้องหลังคาใหม่ทั้งหมด (Re-roof) อาจเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่าการซ่อมหลังคารั่วในระยะยาว หรือหากเป็นหลังคาบ้านทาวน์เฮาส์มุงกระเบื้องลอนคู่ อาจใช้วิธีมุงแผ่นเมทัลชีททับ (Top Up Roof) ก็ช่วยแก้ปัญหารั่วซึมได้ด้วยเช่นกัน หลังคารั่ว ซ่อมหลังคารั่ว อุดรอยรั่วหลังคา หลังคารั่วซึม หลังคาบ้านรั่ว แก้ปัญหาหลังคารั่ว ซ่อมหลังคารั่วsc >ภาพ: ตัวอย่างหลังจากการซ่อมหลังคารั่วเฉพาะตำแหน่ง สนใจ บริการปรับปรุงซ่อมแซมหลังคาบ้าน โดยผู้เชี่ยวชาญ คลิก\{.button .newtab} {.centered} เปลี่ยนหลังคาบ้าน Re Roof หลังคารั่ว ซ่อมหลังคารั่ว อุดรอยรั่วหลังคา หลังคารั่วซึม หลังคาบ้านรั่ว แก้ปัญหาหลังคารั่ว ซ่อมหลังคารั่วscg >ภาพ: ตัวอย่างเปรียบเทียบหลังคาเดิมที่มีปัญหารั่วซึม (ซ้าย) และกับหลังคาที่เปลี่ยนกระเบื้องใหม่ทั้งผืนเรียบร้อยแล้ว (Re-Roof) สนใจ บริการเปลี่ยนกระเบื้องหลังคาใหม่ทั้งผืน (Re-Roof) คลิก\{.button .newtab} {.centered} หลังคารั่ว ซ่อมหลังคารั่ว ทาวน์เฮาส์ อุดรอยรั่วหลังคา หลังคารั่วซึม หลังคาบ้านรั่ว แก้ปัญหาหลังคารั่ว ซ่อมหลังคารั่วscg Top Up Roof >ภาพ: ตัวอย่างการซ่อมหลังคารั่วสำหรับบ้านทาวน์เฮาส์ โดยใช้แผ่นเมทัลชีทมุงทับกระเบื้องลอนคู่เดิม (Top Up Roof) สนใจ บริการซ่อมรั่วหลังคาทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม (Top Up roof)\{.button .newtab} {.centered} >## 5) ซ่อมหลังคารั่วใช้เวลากี่วัน? >A: ระยะเวลาจะขึ้นอยู่กับปริมาณงานและความยากง่ายในการซ่อม อาจเป็นระยะสั้น 1-3 วัน หรือระยะยาว 5-7 วัน >## 6) ขณะซ่อมหลังคารั่ว หรือเปลี่ยนกระเบื้องหลังคา สมาชิกในบ้านต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นหรือไม่ ? >A: หากเป็นบริการซ่อมหลังคาหรือรื้อเปลี่ยนกระเบื้องหลังคาโดย SCG ทีมงานจะแบ่งการทำงานทีละส่วน ทำให้เจ้าของบ้านสามารถอยู่อาศัยบ้านได้ตามปกติ ไม่ต้องย้ายออกจากบ้านในขณะที่ช่างกำลังดำเนินงาน เปลี่ยนหลังคาบ้าน Re Roof หลังคารั่ว ซ่อมหลังคารั่ว ทาวน์เฮาส์ อุดรอยรั่วหลังคา หลังคารั่วซึม หลังคาบ้านรั่ว แก้ปัญหาหลังคารั่ว ซ่อมหลังคารั่วscg >ภาพ: ตัวอย่างการทำงานของช่างขณะรื้อเปลี่ยนกระเบื้องหลังคา (Re-Roof) ซึ่งเจ้าของบ้านยังสามารถอยู่อาศัยในบ้านได้ >## 7) จะซ่อมหลังคารั่วหรือเปลี่ยนกระเบื้องหลังคาในฤดูฝนได้หรือไม่ ? >A: หากเป็นบริการซ่อมหลังคารั่ว หรือรื้อเปลี่ยนกระเบื้องหลังคาโดย SCG สามารถให้บริการในฤดูฝนได้ เนื่องจากทีมช่างจะวางแผนแบ่งการทำงานเป็นส่วนๆ ไม่ได้รื้อกระเบื้องออกทีเดียวทั้งหมด และมีการคลุมผ้าใบกันฝนกันฝุ่นเมื่อจบงานแต่ละวัน ![เปลี่ยนหลังคาบ้าน Re Roof หลังคารั่ว ซ่อมหลังคารั่ว ทาวน์เฮาส์ อุดรอยรั่วหลังคา หลังคารั่วซึม หลังคาบ้านรั่ว แก้ปัญหาหลังคารั่ว ซ่อมหลังคารั่วscg(https://storage.googleapis.com/prod-dam-products/e6d98548ad044f358300c5fc2a2dd2ca.jpg) >ภาพ: ตัวอย่างการใช้ผ้าใบคลุมปิดหลังจากดำเนินงานเปลี่ยนกระเบื้องหลังคาเสร็จในแต่ละวัน >## 8) บริการซ่อมหลังคารั่วโดย SCG แพงหรือไม่ ? >A : บริการซ่อมหลังคารั่วโดย SCG เป็นการซ่อมแบบถาวรโดยช่างผู้ชำนาญ พร้อมรับประกันผลงานเป็นเวลา 1 ปี ราคาค่าบริการจึงสูงกว่าการซ่อมแบบชั่วคราวทั่วไป อย่างไรก็ตาม ทางทีมฯ จะมีการสำรวจหลังคาก่อน เพื่อนำเสนอข้อมูลพร้อมชี้แจงปัญหาและแนวทางแก้ไข รวมถึงราคาค่าบริการที่ชัดเจน ให้เจ้าของบ้านทราบเพื่อทำการตัดสินใจก่อนจะรับบริการ ดังนั้น ปัญหางบบานปลายที่คาดเดาไม่ได้ระหว่างซ่อมแซมจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน สนใจ บริการปรับปรุงซ่อมแซมหลังคาบ้าน โดยผู้เชี่ยวชาญ คลิก\{.button .newtab} {.centered}
แนวทางและสิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการย้ายห้องน้ำหรือเพิ่มห้องน้ำในบ้านหลังเดิม >ห้องน้ำเป็นพื้นที่ที่ต้องมีการจัดวางตำแหน่งตั้งแต่เริ่มการออกแบบ เพราะมีผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นและงานระบบน้ำดี-น้ำเสีย แต่หากมีความจำเป็นในการเปลี่ยนย้ายตำแหน่งหรือเพิ่มเติม เช่น เพิ่มห้องน้ำไว้ในห้องนอน อาจจะทำได้ยากแต่ก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งต้องพิจารณา 3 เรื่อง ดังนี้ >. >## 1: ตำแหน่งห้องน้ำ >ควรเลือกตำแหน่งห้องน้ำที่สามารถเดินงานระบบประปาและระบายน้ำได้ เช่น ติดกับภายนอกบ้านเพื่อให้ง่ายต่อการเดินท่อน้ำต่างๆ หรือใกล้กับถังบำบัดเพื่อสะดวกในการเดินท่อน้ำโสโครก >เลือกตำแหน่งห้องน้ำที่สามารถเดินงานระบบประปาและระบายน้ำได้ >ภาพ: เลือกตำแหน่งห้องน้ำที่สามารถเดินงานระบบประปาและระบายน้ำได้ >. >## 2: พื้นโครงสร้างเดิม >ตรวจสอบระบบพื้นโครงสร้างเดิมว่าเป็นแบบหล่อในที่หรือเป็นแผ่นพื้นสำเร็จรูป >๐ ระบบพื้นหล่อในที่ สามารถเจาะ (Coring) พื้นเพื่อเดินท่อระบายน้ำลงสู่ด้านล่างได้ แต่ควรแยกส่วนแห้ง ส่วนเปียก และทำระบบกันซึมให้เรียบร้อย >กรณีเพิ่มห้องน้ำที่มีโครงสร้างพื้นเป็นระบบพื้นหล่อในที่ >ภาพ: กรณีเพิ่มห้องน้ำที่มีโครงสร้างพื้นเป็นระบบพื้นหล่อในที่ >. >๐ ระบบพื้นสำเร็จรูป ไม่ควรเจาะพื้น เพราะเหล็กเสริมในพื้นอาจสูญเสียความแข็งแรง การเดินท่อควรใช้วิธีเจาะผนังเท่านั้นโดยทำระบบพื้นโครงเบายกระดับพื้นเพิ่มเติมเพื่อให้เดินระบบท่อระบายน้ำใต้พื้นที่เพิ่มขึ้นได้ ถ้ามีส่วนอาบน้ำต้องเลือกใช้ถาดอาบน้ำหรือตู้อาบน้ำสำเร็จรูปแทนการกั้นพื้นที่ส่วนเปียกตามปกติด้วย >กรณีเพิ่มห้องน้ำที่มีโครงสร้างพื้นเป็นระบบพื้นสำเร็จรูป >ภาพ: กรณีเพิ่มห้องน้ำที่มีโครงสร้างพื้นเป็นระบบพื้นสำเร็จรูป >. >## 3: ผนังห้องน้ำใหม่ >หากต้องการก่อผนังห้องน้ำใหม่ให้ตรวจสอบพื้นว่ามีแนวคานรองรับหรือไม่ ถ้ามีสามารถก่อผนังอิฐได้เลย แต่ถ้าไม่มีต้องเลือกใช้เป็นผนังเบาเพื่อลดน้ำหนักกดทับบริเวณนั้น อาจเป็นซีเมนต์บอร์ดหรือไฟเบอร์ซีเมนต์ก็ได้ โดยผนังทั้งสองแบบควรทำขอบคอนกรีตสูงจากพื้นประมาณ 10 ซม. รอบห้องน้ำใหม่เพื่อกันน้ำ/ความชื้นด้วย แต่หากต้องการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเพิ่มเติมคานบริเวณด้านล่างเพื่อรับน้ำหนักต้องปรึกษาวิศวกรก่อน >ก่อขอบคอนกรีตสูงจากพื้น 10 ซม. >ภาพ: ก่อขอบคอนกรีตสูงจากพื้นประมาณ 10 ซม. รอบห้องน้ำใหม่เพื่อกันน้ำ/ความชื้น >. >ในการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งห้องน้ำไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มหรือย้าย หากไม่กระทบกระเทือนโครงสร้างของบ้านก็สามารถให้ช่างที่เกี่ยวข้องทำได้เลย แต่หากมีการเพิ่มน้ำหนักโดยไม่มีคานรองรับ หรือจำเป็นต้องเจาะพื้นสำเร็จรูปเพื่อเดินท่อน้ำต่างๆ แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือวิศวกรเพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย >. >สนใจ พื้นสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >สนใจ ซีเมนต์บอร์ด เอสซีจี คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >อ่านเพิ่มเติม: แผ่นสมาร์ทบอร์ด กับซีเมนต์บอร์ด SCG ต่างกันอย่างไร ใช้อันไหนดี ? >อ่านเพิ่มเติม: 5 เรื่องสำคัญก่อนปรับปรุงห้องน้ำ
รวมเรื่องสำคัญที่ควรรู้หากคิดจะปรับปรุงห้องน้ำ ซึ่งเป็นพื้นที่เล็กที่มีองค์ประกอบหลายอย่างทั้งงานระบบน้ำ ระบบไฟ งานตกแต่ง และอาจกระทบถึงงานโครงสร้างด้วยในบางกรณี >ห้องน้ำอาจเป็นห้องที่เล็กที่สุดในบ้านสำหรับใครหลายคน แต่การปรับปรุงรีโนเวตห้องน้ำกลับเป็นเรื่องสำคัญ เพราะมักเกี่ยวพันกับงานระบบสุขาภิบาลหากมีการเปลี่ยนตำแหน่งโถสุขภัณฑ์หรือฝักบัว รวมถึงระบบไฟตกแต่งและการเปลี่ยนกระเบื้องปูพื้น/ผนังใหม่ และอาจเกี่ยวพันกับงานโครงสร้างหากมีการขยายพื้นที่ หรือแม้แต่การซ่อมแซมโครงสร้างที่เสียหายจากปัญหารั่วซึมที่เป็นมายาวนาน SCGHOME.COM จึงมีเรื่องสำคัญที่ต้องคำนึงถึงในการรีโนเวตห้องน้ำมาแชร์ดังนี้ >. >## 1. การขยายพื้นที่ห้องน้ำควรพิจารณาระบบโครงสร้างพื้น >พื้นห้องน้ำ และพื้นระเบียง มักเป็นพื้นหล่อในที่ คือ การทำแบบสำหรับหล่อพื้น ผูกเหล็กเชื่อมกับเหล็กในคาน แล้วจึงเทคอนกรีตเพื่อให้พื้นเป็นเนื้อเดียวกับคาน ส่วนพื้นห้องทั่วไปในบ้านมักใช้แผ่นพื้นสำเร็จรูปวางเรียงกันและเทคอนกรีตทับหน้า ซึ่งรอยต่อระหว่างแผ่นพื้นสำเร็จรูปเป็นจุดเสี่ยงน้ำรั่วซึมจึงไม่เหมาะกับพื้นห้องน้ำ/พื้นระเบียง ดังนั้น หากต้องการขยายพื้นที่ห้องน้ำต้องทราบให้แน่ชัดก่อนว่าโครงสร้างพื้นที่จะขยายไปเป็นพื้นประเภทใด เพื่อจะได้ทำให้ถูกวิธี >หากพื้นที่ส่วนขยายเป็นพื้นหล่อในที่ จะสามารถเจาะพื้น (Coring) เพื่อเดินท่อระบายน้ำเพิ่มเติมได้ และต้องทำระบบกันซึมที่พื้นก่อนปูกระเบื้อง เช่น ทา/ฉาบด้วยซีเมนต์กันซึม ผนังแนวใหม่หากไม่มีคานรองรับ ควรก่อด้วยอิฐมวลเบาหรือทำระบบผนังเบา นอกจากนี้ต้องคำนึงถึงระดับพื้นที่อาจจะต่างกันด้วย (พื้นห้องน้ำมักจะลดระดับพื้นต่ำกว่าระดับห้องทั่วไป) >หากพื้นที่ส่วนขยายเป็นแผ่นพื้นสำเร็จรูป แนะนำให้ใช้พื้นที่ที่ขยายเพิ่มเติมเป็นพื้นที่ส่วนแห้ง มีการทำระบบกันซึมอย่างมีประสิทธิภาพ หากต้องเดินระบบท่อระบายน้ำที่พื้น อาจทำพื้นโครงเบาเพิ่มเติมและเดินระบบท่อใต้แผ่นพื้น >ยกตัวอย่างการขยายพื้นที่ห้องน้ำเดิมให้กว้างขึ้น โดยการก่อขอบปูนกั้นพื้นส่วนเปียกของน้ำเดิม จากนั้นทำการยกระดับพื้นส่วนที่จะขยับขยายให้เป็นพื้นห้องน้ำใหม่ โดยติดตั้งโครงเหล็กแล้ววางแผ่นพื้นสมาร์ทบอร์ด SCG จากนั้นติดแผ่นยางกันรั่วซึมก่อนจะปูกระเบื้องทับซึ่งรวมถึงบริเวณขอบปูนกั้นที่ก่อไว้ด้วย >ตัวอย่างการขยายพื้นที่ห้องน้ำเดิมให้กว้างขึ้น >ภาพ : ตัวอย่างการขยายพื้นที่ห้องน้ำเดิมให้กว้างขึ้น >. >## 2. การทำระบบกันซึม (การป้องกันน้ำซึม) >มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการรั่วซึมจากการอาบน้ำหรือการล้างห้องน้ำ เนื่องจากความชื้นหรือน้ำจะสะสมบริเวณพื้นใต้กระเบื้องห้องน้ำ โดยการซึมผ่านยาแนวกระเบื้อง (ที่เสื่อมสภาพหรือหลุดล่อน) ลงไปสะสมที่พื้นคอนกรีต เมื่อสะสมมากเข้าจนอิ่มน้ำ ก็จะเกิดการการรั่วซึมตามมา ถึงแม้คอนกรีตที่ใช้เทพื้นห้องน้ำตั้งแต่ตอนก่อสร้างจะเป็นคอนกรีตกันซึม แต่ก็สามารถเกิดการรั่วซึมได้ขึ้นอยู่กับอายุการใช้งาน การดูแลรักษา เช่น การใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ไม่กัดกร่อนพื้นผิว หมั่นยาแนวกระเบื้องอย่างน้อยทุก 5 ปี ฯลฯ หรือแม้แต่รอยแตกร้าวในเนื้อคอนกรีต บางกรณี (บ้านเก่าอายุเกิน 20 ปี) อาจพบคอนกรีตใต้พื้นกะเทาะออกจนเห็นเหล็กเสริม กรณีนี้ต้องซ่อมแซมพื้นผิวใต้พื้นคอนกรีตนี้ให้เรียบร้อยด้วย (อาจปรึกษาวิศวกรเพิ่มเติม) >ดังนั้น การรีโนเวตห้องน้ำจึงจำเป็นอย่างยิ่งในการใช้ซีเมนต์กันซึมหรือปูนกันซึมเคลือบผิวคอนกรีตก่อนการปูกระเบื้องเพื่อป้องกันการรั่วซึมดังกล่าว โดยการทากันซึมหรือซีเมนต์ให้ทั่วพื้นห้องน้ำทั้งหมด และในส่วนอาบน้ำควรทาทั่วผนังด้วย (ตามขั้นตอนหรือวิธีการของผลิตภัณฑ์นั้น) แล้วทดสอบขังน้ำ 24 ชั่วโมง เพื่อทดสอบการรั่วซึมของน้ำ หากเกิดการรั่วซึม ให้ทาซีเมนต์กันซึมซ้ำอีกเที่ยว และควรตรวจสอบการยึดเกาะประสานกันได้ดี ไม่มีการหลุดล่อน หลังทดสอบควรให้ซีเมนต์กันซึมบ่มตัวประมาณ 7 วัน แล้วค่อยปูกระเบื้อง >คอนกรีตใต้พื้นกระเบื้องกะเทาะออกจนเห็นเหล็กเสริม >ภาพ : คอนกรีตใต้พื้นกระเบื้องกะเทาะออกจนเห็นเหล็กเสริม >ทาซีเมนต์กันซึมก่อนปูกระเบื้องในการรีโนเวตห้องน้ำ >ภาพ : ทาซีเมนต์กันซึมก่อนปูกระเบื้องในการรีโนเวตห้องน้ำ >. >## 3. ใช้แนวท่อเดิม (ท่อน้ำดี น้ำเสีย น้ำโสโครก) หรือเปลี่ยนแนวท่อใหม่ >ในการปรับปรุงรีโนเวตห้องน้ำ โดยปกติควรคงตำแหน่งสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้า และส่วนอาบน้ำไว้ เนื่องจากมีท่อระบายน้ำที่ฝังในพื้นตามการใช้งานอยู่ การปรับปรุงจะได้ไม่ยุ่งยากและสิ้นเปลืองงบประมาณมากนัก แต่หากต้องการเปลี่ยนตำแหน่งสุขภัณฑ์ ฝักบัว หรืออ่างล้างหน้าจริง หรือมีท่อเดิมเป็นท่อเหล็กที่ขึ้นสนิม ส่งผลให้ต้องเปลี่ยนใช้แนวท่อใหม่ไม่ว่าจะท่อประปา (ท่อน้ำดี) หรือท่อระบายน้ำ (ท่อน้ำทิ้ง/ท่อน้ำเสีย) >สำหรับท่อประปาและท่อน้ำทิ้งที่เดินตามแนวผนังสามารถตัดต่อท่อใหม่เพิ่มจากแนวท่อเดิมได้ โดยเดินท่อประปาขึ้นฝ้าเพดานและสกัดผนังเพื่อฝังท่อใหม่ ที่สำคัญต้องดูเรื่องความลาดเอียงท่อระบายน้ำแนวใหม่จะเชื่อมสู่ระบบระบายน้ำของบ้านอย่างไรให้ไม่เกิดการอุดตัน ส่วนสุขภัณฑ์หรือส่วนอาบน้ำที่มักมีท่อระบายน้ำที่พื้น หากต้องเจาะพื้นเพื่อฝังท่อในตำแหน่งใหม่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญและมีอุปกรณ์เฉพาะทางในการเจาะ รวมถึงอุดปิดรูท่อเดิมและรอยต่อระหว่างท่อใหม่กับพื้นให้สนิท >การสกัดพื้นผนังเพื่อพิจารณาการใช้งานของแนวท่อเดิม >ภาพ : การสกัดพื้นผนังเพื่อพิจารณาการใช้งานของแนวท่อเดิม >. >## 4. การเลือกสุขภัณฑ์ให้สัมพันธ์กับท่อโสโครกเดิม >ก่อนการเลือกซื้อสุขภัณฑ์ ให้ดูสุขภัณฑ์เดิมก่อนว่าท่อโสโครกลงพื้นหรือออกผนัง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วห้องน้ำบ้านมักใช้สุขภัณฑ์ที่มีท่อโสโครกลงพื้น การเลือกซื้อนั้นก็ไม่ยาก ให้คำนึงถึงขนาดของสุขภัณฑ์ที่เมื่อวางลงตำแหน่งแล้ว ต้องมีระยะจากกึ่งกลางท่อโสโครกถึงผนังเท่ากับระยะเดิมพอดี หรือห่างกันเล็กน้อยไม่เกิน 2 ซม. (ช่างสามารถสกัดพื้นปรับแต่งระยะได้เล็กน้อย) ปกติแล้วจะมีระยะอยู่ที่ 30.5 ซม. ดังนั้นหากมีระยะเท่ากัน ก็สามารถซื้อมาติดตั้งแทนที่ได้เลย สำหรับสุขภัณฑ์ที่มีท่อโสโครกออกผนังก็พิจารณาเรื่องระยะความสูงท่อให้เท่าเดิมเช่นกัน >สุขภัณฑ์ชนิดที่ท่อโสโครกเข้าผนัง >ภาพ : สุขภัณฑ์ชนิดที่ท่อโสโครกเข้าผนัง >ระยะจากกึ่งกลางท่อโสโครกถึงผนัง 30.5 ซม. >ภาพ : ระยะจากกึ่งกลางท่อโสโครกถึงผนัง 30.5 ซม. โดยประมาณ >. >## 5. การพิจารณาปูกระเบื้องพื้นผนังทับของเดิม >สำหรับใครที่ต้องการเปลี่ยนกระเบื้องพื้นผนังในห้องน้ำ ก็สามารถทำได้ไม่ยุ่งยาก ไม่กระทบกับโครงสร้างหรืองานระบบอื่นใด จึงเป็นการปรับปรุงรีโนเวตห้องน้ำที่ทำได้เลย มี 2 วิธีการ คือ การปูกระเบื้องใหม่ทับของเดิม และ การรื้อกระเบื้องเดิมออกแล้วปูใหม่ >## ๐ การปูกระเบื้องใหม่ทับของเดิม >เป็นที่นิยมในปัจจุบัน ช่วยประหยัดค่าแรงในการรื้อกระเบื้องเดิม ร่นระยะเวลาในการทำงาน ลดการสั่นสะเทือนจากการรื้อ และไม่มีเสียงดัง โดยการปูกระเบื้องจะต้องเลือกใช้กาวซีเมนต์รุ่นพิเศษสำหรับปูทับหน้ากระเบื้องเดิมโดยเฉพาะ เพื่อช่วยในการยึดเกาะกับกระเบื้องเดิม >ในกรณีนี้ควรพิจารณาด้วยว่า โครงสร้างเดิมสามารถรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นได้ หากเป็นบ้านเก่าที่มีอายุการใช้งานยาวนาน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือวิศวกรจะดีกว่า และสังเกตระยะห่างของประตูกับพื้นด้วย เนื่องจากพื้นจะมีระดับสูงขึ้น อาจต้องตัดประตูหรือเปลี่ยนประตูใหม่ >จุดสำคัญที่สุด คือ ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าพื้นผนังกระเบื้องเดิมไม่แตกร้าว ยังยึดเกาะได้ดี โดยการเคาะและฟังเสียงที่กระเบื้อง หากมีกระเบื้องแตกร้าวหรือเคาะแล้วกลวง ๆ ควรรื้อกระเบื้องเดิมออก ไม่ควรปูทับอย่างเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้เกิดปัญหารั่วซึม และหลุดล่อนได้ในอนาคต นอกจากนี้การปูกระเบื้องที่พื้นทับของเดิม ต้องมั่นใจว่าระดับความลาดเอียงพื้นเพื่อระบายน้ำดีอยู่แล้ว ไม่เคยเกิดน้ำขัง และอย่าลืมลงกันซึมก่อนปูกระเบื้องทับด้วย >ใช้กาวซีเมนต์รุ่นพิเศษในการติดตั้งกระเบื้องใหม่ทับพื้นกระเบื้องเดิม >ภาพ : ใช้กาวซีเมนต์รุ่นพิเศษในการติดตั้งกระเบื้องใหม่ทับพื้นกระเบื้องเดิม >. >## ๐ การรื้อกระเบื้องเดิมออกแล้วปูใหม่ >เป็นวิธีการที่รอบคอบและปลอดภัยที่สุด แต่อาจเสียเวลาในการรื้อกระเบื้องเดิมออกเพราะนอกจากรื้อกระเบื้องเดิมออกแล้ว ยังมีความจำเป็นต้องสกัดปูนกาวที่พื้นผนังออกให้หมด แล้วทำระบบกันซึมที่พื้นอีกครั้งก่อนการติดตั้งกระเบื้องใหม่ >รอยปูนกาวที่ผนังหลังจากรื้อกระเบื้องออกต้องสกัดออกให้หมดจนถึงพื้นผิวปูนฉาบ >ภาพ : รอยปูนกาวที่ผนังหลังจากรื้อกระเบื้องออกต้องสกัดออกให้หมดจนถึงพื้นผิวปูนฉาบ >. >อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว น่าจะพอนึกภาพออกว่าห้องน้ำใหม่ที่เราต้องการส่งผลกระทบกับโครงสร้างหรืองานระบบบ้างหรือไม่ หรือหากเพียงเปลี่ยนกระเบื้องพื้นผนังใหม่ ห้องน้ำของเราควรรื้อกระเบื้องเดิมออกก่อนแล้วปูใหม่ หรือปูทับไปได้เลย ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการ ความจำเป็น และงบประมาณที่ตั้งไว้ด้วยเช่นกัน >. >สนใจ กระเบื้องห้องน้ำ คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >สนใจ สุขภัณฑ์ คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >สนใจ บริการติดตั้งกระเบื้องเซรามิก และสุขภัณฑ์ คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >อ่านเพิ่มเติม: 12 เรื่องน่ารู้ก่อนทำห้องน้ำ >อ่านเพิ่มเติม: กั้นสัดส่วนห้องอาบน้ำอย่างไรได้บ้าง?
แนะนำหลักการวางแผนก่อนปรับปรุงบ้านหรือรีโนเวตบ้าน ตั้งแต่การกำหนดวัตถุประสงค์ เตรียมงบประมาณ การรวบรวมข้อมูล ไปจนถึงการพิจารณารายละเอียดเดิมของบ้าน ทั้งเรื่องโครงสร้าง งานระบบ พื้นที่ และวัสดุ > การปรับปรุงบ้านหรือรีโนเวตบ้านแต่ละครั้ง อาจมีขอบเขตงานที่เล็กหรือใหญ่แตกต่างกันไป แต่สิ่งที่ต้องทำเหมือนกันก็คือการวางแผนที่ดีและรัดกุม โดยอาจเริ่มต้นด้วยการพิจารณาทีละประเด็นดังต่อไปนี้ > 1) กำหนดวัตถุประสงค์ในการปรับปรุงบ้านหรือรีโนเวตบ้าน . เพื่อใช้ในการวางแผนดำเนินงาน และประเมินงบประมาณในการปรับปรุง ยกตัวอย่างเช่น > ปรับปรุงบ้าน อาจเป็นการปรับปรุงแบบรีโนเวตบ้านทั้งหลังเนื่องจากสภาพเก่าทรุดโทรม หรือปรับปรุงให้ใช้งานได้ดีขึ้น เช่น การติดแผงบังแดดไม่ให้ห้องร้อน บางครั้งอาจเป็นการปรับปรุงเพิ่มเติมฟังก์ชันการใช้งาน เช่น กั้นห้องโฮมเธียเตอร์ในห้องนั่งเล่น ซ่อมแซมหรือปรับปรุงส่วนต่างๆ ที่พังหรือเสียหาย เช่น ซ่อมหลังคารั่ว รื้อทำผนังห้องน้ำแก้ท่อประปาที่รั่ว ตกแต่งให้สวยงาม ให้ตรงตามสไตล์ที่เราชอบ เช่น การฉาบผนังปูนแต่งผิว ติดวอลล์เปเปอร์ ปูกระเบื้องใหม่ ปูไม้ลามิเนต ไวนิล หรือ SPCทับพื้นขัดมันหรือพื้นกระเบื้องเดิม การทำผนังต้นไม้แนวตั้ง ฯลฯ > Singleimage ก่อนและหลังปรับปรุงบ้านภายนอก ภาพ: ตัวอย่างการปรับปรุงบ้านแบบรีโนเวททั้งบ้าน ได้ลุคบ้านภายนอกที่ดูสวยใหม่และทันสมัยมากขึ้น > Singleimage ซ่อมหลังคารั่ว ซ่อมหลังคาดาดฟ้า ภาพ: ตัวอย่างการซ่อมแซมบ้านในส่วนของหลังคาและดาดฟ้า เพื่อแก้ปัญหารั่วซึม > Singleimage ทำผนังขัดมัน ผนังปูนเปลือย ด้วยปูนลอฟต์ ภาพ: ตัวอย่างการปรับปรุงบ้านด้วยการใช้ปูนฉาบตกแต่งผนังในห้อง เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ > รวมบริการปรึกษาเรื่องบ้าน คลิก\{.button .newtab} {.centered} 2) เตรียมงบประมาณในการปรับปรุงบ้านหรือรีโนเวตบ้าน > ซึ่งโดยทั่วไปมักพิจารณา 3 รายการ ได้แก่ > ค่าใช้จ่ายในการปรับปรุง ทั้งค่าวัสดุ และค่าแรงช่าง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าบริการออกแบบ โดยสถาปนิกหรือมัณฑนากร ค่าออกแบบคำนวณโครงสร้างโดยวิศวกร ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าเช่าโกดังเก็บของ ค่าเช่าบ้านอยู่ชั่วคราว ค่าดำเนินการขออนุญาตปรับปรุงบ้านกับหน่วยงานราชการ > 3) รวบรวมข้อมูลตามความต้องการ > เช่น สไตล์บ้านที่ชอบ สไตล์การตกแต่งห้องต่างๆ รูปแบบพื้นที่ที่ประทับใจ รวมถึงวัสดุที่ใช้ ซึ่งเราอาจพบเห็นจากสถานที่หรือหนังสือ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุง หรือเพื่อให้สถาปนิก/มัณฑนากร นำข้อมูลไปใช้ในการออกแบบให้ตรงความต้องการของเรา 4) พิจารณาโครงสร้างเดิมก่อนปรับปรุงบ้านหรือรีโนเวตบ้าน > เพื่อดูว่าการปรับปรุงบ้านหรือรีโนเวตบ้านครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างบ้านเดิมหรือไม่ เช่น การกั้นห้องใหม่โดยการก่ออิฐฉาบปูน ต้องพิจารณาว่ามีแนวคานรองรับอยู่หรือไม่ การยกระดับพื้นภายในบ้านให้สูงขึ้นเพื่อให้พ้นระดับน้ำท่วม ต้องใช้โครงสร้างและวัสดุที่มีน้ำหนักเบา การทุบพื้น/คาน เพื่อเป็นโถงโล่ง กรณีจะเพิ่มอ่างอาบน้ำจะต้องคำนึงว่าโครงสร้างบริเวณนั้นสามารถรับน้ำหนักน้ำในอ่างขณะใช้งานได้หรือไม่ ซึ่งควรปรึกษาวิศวกรโครงสร้างก่อนทำการปรับปรุง > รวมบริการปรึกษาเรื่องบ้าน คลิก\{.button .newtab} {.centered} > 5) พิจารณางานระบบเดิม > เพื่อดูว่าการปรับปรุงบ้านที่วางแผนไว้จะกระทบต่องานระบบน้ำ และระบบไฟฟ้าหรือไม่ เช่น การปรับปรุงห้องน้ำใหม่ที่มีการย้ายตำแหน่งสุขภัณฑ์ หรือเปลี่ยนสุขภัณฑ์จากท่อน้ำทิ้งลงพื้นเป็นท่อน้ำทิ้งออกผนัง ซึ่งส่งผลต่อตำแหน่งท่อประปา และท่อระบายน้ำ หากเป็นการทำห้องน้ำเพิ่มเติมเนื่องจากมีคนอยู่อาศัยมากขึ้น ควรพิจารณาขนาดถังเก็บน้ำ ปั๊มน้ำ และถังบำบัด รวมถึงการเปลี่ยนจากระบบบ่อเกรอะ-บ่อซึมเป็นถังบัดน้ำเสียสำเร็จรูป ซึ่งอาจส่งผลให้ต้องเดินระบบท่อระบายน้ำและระบบระบายน้ำรอบบ้านด้วย ส่วนการเพิ่มงานระบบไฟฟ้า เช่น เครื่องทำน้ำอุ่น ต้องคำนึงเรื่องการเดินสายไฟ แนวสายไฟ การติดตั้งสายดิน การแบ่งเฟสไฟฟ้า ทั้งหมดนี้เจ้าของบ้านควรปรึกษาวิศวกรงานระบบเพื่อความราบรื่นและปลอดภัยในการใช้งาน > Singleimage ปรับปรุงห้องน้ำ ขยายพื้นที่ห้องน้ำ ภาพ: ตัวอย่างการปรับปรุงบ้านด้วยการขยายพื้นที่ห้องน้ำในบ้าน > รวมบริการปรึกษาเรื่องบ้าน คลิก\{.button .newtab} {.centered} > อ่านเพิ่มเติม: ปรับปรุงห้องน้ำผู้สูงอายุอย่างไรให้เหมาะสม > 6) พิจารณาพื้นที่เดิมที่มีอยู่ > เพื่อจัดสรรพื้นที่ในการปรับปรุงให้คุ้มค่าและได้ประโยชน์สูงสุด ซึ่งต้องอาศัยการออกแบบของสถาปนิกหรือมัณฑนากร เช่น พื้นที่บริเวณโถงบันได ใต้บันได สามารถต่อเติมหรือปรับให้เป็นห้องเก็บของได้ ผนังที่ว่างเปล่าสามารถทำชั้นวางของ Built-in ติดขอแขวนของ หรือปรับเป็นที่นั่งพักผ่อนติดกระจก Skylight ลูกตั้งบันไดทำให้เป็นลิ้นชักสำหรับใส่ของ หรือใช้สอดเก็บรองเท้าใต้ขั้นบันไดได้ นอกจากนี้ บ้านแบบเดิม ๆ สามารถเปลี่ยนเป็นสไตล์บ้านแบบอื่นเพียงการรื้อถอนบางส่วน เช่น รื้อฝ้าเพดานแล้วพบว่าท้องพื้นชั้นบนเป็นตงไม้กับพื้นไม้ ซึ่งสามารถโชว์ท้องพื้นสวย ๆ เดินสายไฟแบบโชว์ในสไตล์ลอฟต์ได้ > Singleimage จัดสรรพื้นที่ให้คุ้ม พื้นที่เก็บของใต้บันได ตะขอแขวนติดผนัง ชั้น Built-in ภาพ: ตัวอย่างการทำพื้นที่ใต้บันไดเป็นพื้นที่เก็บของ และการทำผนังให้สามารถเก็บหรือแขวนของได้โดยติดตะขอหรือทำชั้น Built-in > Singleimage ปรับปรุงผนังเป็นที่นั่งพักผ่อนติดกระจก Skylight ภาพ: ตัวอย่างการปรับปรุงผนังบ้านเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนติดกระจก Skylight > รวมบริการปรึกษาเรื่องบ้าน คลิก\{.button .newtab} {.centered} > 7) เลือกใช้วัสดุที่มีความคุ้มค่าในการใช้งาน > ทั้งในเรื่องอายุการใช้งานที่ยาวนาน ง่ายต่อการดูแลรักษา รวมไปถึงเป็นวัสดุที่ช่วยประหยัดพลังงานในบ้าน เช่น หลอดไฟ ก๊อกหรือสุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ นอกจากนี้ ของบางอย่างสามารถนำไปใช้ใหม่ได้ (Reuse) เช่น บานประตูไม้สามารถดัดแปลงเป็นโต๊ะ บางวัสดุอย่างโครงหลังคาเหล็ก แผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ หากรื้อถอนอย่างระมัดระวังสามารถนำไปใช้ซ้ำได้ หรือแม้แต่ของใช้บางอย่างที่ยังใช้งานได้ดีก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่อย่าง ประตู/หน้าต่าง ก๊อกน้ำ สุขภัณฑ์ หลอดไฟ ฯลฯ > อ่านเพิ่มเติม: รีวิวปรับปรุงบ้านไม้เก่า กับ 5 เรื่องที่ต้องเตรียมความพร้อม > จะเห็นว่าการปรับปรุงบ้านนั้น เราต้องกำหนดวัตถุประสงค์ให้ชัดเจนว่าจะเป็นการรีโนเวตบ้านในพื้นที่หลายส่วน หรือเป็นแค่การซ่อมแซมปรับปรุงเพียงบางส่วนเล็กน้อย โดยให้สอดคล้องกับความต้องการใช้งาน รูปแบบที่ชื่นชอบ และที่สำคัญคือ งบประมาณ โดยหากมีงบประมาณจำกัด เจ้าของบ้านอาจต้องวางแผนแบ่งงานปรับปรุงเป็นส่วนๆ ตามช่วงเวลาที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาถึงรายละเอียดต่างๆ ทั้งโครงสร้าง งานระบบ พื้นที่ที่เป็นอยู่ให้ถี่ถ้วน เพื่อวางแผนงานปรับปรุงที่เหมาะสมและคุ้มค่า รวมถึงวัสดุของเดิมที่อาจมีการนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้อีกครั้ง > รวมบริการปรึกษาเรื่องบ้าน คลิก\{.button .newtab} {.centered}
ปรับปรุงบ้านเก่าที่มีอายุกว่า 50 ปี เปลี่ยนโฉมจากบ้านยุคเก่าหลังคาทรงเตี้ยให้สวยโดดเด่นแบบวินเทจในสไตล์โคโลเนียล >โคโลเนียลสไตล์ หลายคนน่าจะเคยได้ยินว่าเป็นสถาปัตยกรรมในยุคที่ทางตะวันตกขยายอำนาจหรือล่าอาณานิคม ส่งผลให้บ้านเรือนหรืออาคารได้รับอิทธิพลไปด้วย สถาปัตยกรรมจึงถูกผสมผสานระหว่างตะวันตกและพื้นถิ่นนั้นๆ ทำให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สำหรับประเทศไทยเริ่มมีสถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียลในสมัยรัชกาลที่ 5 จุดเด่นของงานอย่างประตูและหน้าต่าง ที่นิยมใช้ทรงโค้งรูปเกือกม้า ระเบียงกว้างและมีเสามารองรับชายคาแต่งเป็นซุ้มโค้งเรียงต่อกัน หลังคารูปทรงจั่วหรือปั้นหยา ตัวอาคารมักใช้โทนสีอ่อนพาสเทลอย่างสีขาวหรือสีครีมแล้วตัดขอบหรือเน้นเส้นสายด้วยสีเขียวหัวเป็ดหรือน้ำเงิน ตกแต่งด้วยพื้นหินอ่อนหรือกระเบื้องลายโบราณ >สำหรับบ้านสไตล์โคโลเนียลหลังนี้ มีเนื้อที่ 135 ตารางวา พื้นที่อาคาร 250 ตร.ม. เป็นการเปลี่ยนโฉมบ้านยุคเก่าหลังคาเพิงแหงนทรงเตี้ยที่มีอายุกว่า 50 ปี ให้ตรงกับความต้องการของเจ้าของบ้านที่มีความชอบแนววินเทจ หลงใหลบ้านรุ่นเก่าสมัยเจ้าขุนมูลนายที่มีกลิ่นอายตะวันตก สะท้อนความเรียบง่ายแต่ประณีตด้วยการตกแต่งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดังนั้นการตกแต่งหลายจุดเจ้าของบ้านจึงมีส่วนร่วมคิดกับสถาปนิกให้ลงตัวและออกมาในแบบที่ชอบ ภายนอกเปลี่ยนหน้าตาไปอย่างชัดเจนจนแทบจำบ้านหลังเดิมไม่ได้ อย่างการเปลี่ยนรูปทรงหลังคา เพิ่มระเบียงกว้างและเสารับหลังคาทรงจั่ว เปลี่ยนฟังก์ชันเดิมภายในที่มีการต่อเติมและกั้นห้องจนดูแคบมืดให้กว้างและโปร่งขึ้น การตกแต่งภายในบ้านรวมถึงสวนที่ยิ่งส่งเสริมให้บ้านดูโดดเด่นในสไตล์โคโลเนียลอย่างแท้จริง >Before & After ภายนอกบ้าน >ภาพ: Before & After ภายนอกบ้านเปลี่ยนโฉมบ้านยุคเก่าให้เป็นสไตล์โคโลเนียล >Before & After เปลี่ยนภายในบ้าน >ภาพ: Before & After เปลี่ยนภายในบ้านเดิมมีการกั้นห้องจนดูแคบมืดให้กว้างและโปร่งขึ้น >. >## แนวคิดในการออกแบบ >ด้วยความที่เจ้าของบ้านชอบงานอนุรักษ์ ชอบความคลาสสิกกลิ่นอายโคโลเนียล จึงให้โจทย์กับสถาปนิกไปเพื่อเป็นแนวทางในการออกแบบปรับปรุงบ้านหลังนี้ เมื่อสถาปนิกเข้ามาสำรวจบ้านเดิมพบว่า ด้วยความที่เป็นบ้านเก่าที่ถนนภายนอกสูงกว่าบริเวณบ้าน จึงเกิดปัญหาน้ำท่วมหลังฝนตก ส่วนตัวเรือนยังแข็งแรง มีแค่ความสูงของฝ้าที่ค่อนข้างเตี้ย ดังนั้นสถาปนิกจึงแก้ปัญหาระบบการระบายน้ำร่วมกับวิศวกรควบคู่ไปกับการปรับปรุงบ้านให้สูงโปร่งขึ้นและดีไซน์ที่ตรงตามเจ้าของบ้านต้องการ >การออกแบบปรับปรุงบ้าน สถาปนิกเปลี่ยนรูปทรงบ้านเล็กน้อยเพื่อให้ดูโดดเด่นขึ้น โดยการเปลี่ยนเป็นหลังคาทรงจั่วหันหน้ารับหน้าบ้าน เพิ่มเสารับแนวระเบียงเดิมทอดยาวขึ้นไปถึงหลังคา เสา 4 ต้นถูกวางอย่างสมมาตร เผยให้เห็นซุ้มโค้ง 3 ช่วง รับกับสระบัวด้านหน้าดูสวยสะดุดตา ประตูและหน้าต่างชั้นบนปรับเป็นทรงโค้งรูปเกือกม้าเน้นบานกรอบและวงกบด้วยสีเขียวหัวเป็ด ฝ้าเพดานเหนือระเบียงดีไซน์เป็นฝ้าหลุมและเลือกใช้โคมไฟห้อยแบบโบราณ >ส่วนภายในมีปรับการพื้นที่ชั้นล่างใหม่ โดยรื้อผนังระหว่างห้องครัวที่ต่อเติมไว้กับห้องรับแขกออก เปลี่ยนเป็นซุ้มโค้งแบ่งสัดส่วนการใช้งานแทนการกั้นห้องเพื่อให้ภายในบ้านดูกว้างขึ้น และดีไซน์ช่องเปิดเกือบเต็มผนังในฝั่งหน้าบ้านและข้างบ้านที่เป็นต้นไม้ ช่วยเพิ่มความสว่าง ยิ่งทำให้บ้านโปร่งสบายตา ช่องเปิดชั้นล่างเลือกใช้บานเกล็ดไม้ช่วยในการกรองแสงแทนการติดผ่าม่าน ซึ่งเป็นดีไซน์ที่มาพร้อมกับชุดประตูหน้าต่าง ใช้งานง่าย ดูแลง่าย ที่สำคัญทำให้บ้านดูดีแนวคลาสสิกลงตัวยิ่งขึ้น >ชั้นบนยังคงตกแต่งตามสไตล์ของบ้าน ห้องนอนเน้นฝ้าหลุม ตกแต่งลวดลายเพิ่มความหรูหรา ห้องน้ำดีไซน์โบราณ ซุ้มโค้ง อ่างล้างมือ อ่างอาบน้ำ หรือแม้แต่โคมไฟ ที่ทำให้นึกถึงฉากหนังย้อนยุค >หลังคาทรงจั่วหันหน้ารับหน้าบ้าน >ภาพ: หลังคาทรงจั่วหันหน้ารับหน้าบ้าน เสารับระเบียง 4 ต้นถูกวางอย่างสมมาตร เผยให้เห็นซุ้มโค้ง 3 ช่วง รับกับสระบัว >หน้าต่างทรงโค้งรูปเกือกม้า >ภาพ: หน้าต่างทรงโค้งรูปเกือกม้า >ดีไซน์ซุ้มโค้งกั้นระหว่างห้องครัวกับห้องรับแขก >ภาพ: ดีไซน์ซุ้มโค้งกั้นระหว่างห้องครัวกับห้องรับแขก พื้นปูกระเบื้องลายโบราณ >บานเกล็ดไม้ช่วยในการกรองแสงแทนการติดผ่าม่าน >ภาพ: บานเกล็ดไม้ช่วยในการกรองแสงแทนการติดผ่าม่าน ดีไซน์มาพร้อมกับชุดประตูหน้าต่าง >ห้องนอนชั้นบนที่เป็นฝ้าหลุม >ภาพ: ฝ้าห้องนอนชั้นบนเป็นฝ้าหลุม และตกแต่งลวดลายฉลุโบราณ >ห้องน้ำที่ออกแบบได้เข้ากับบรรยากาศของบ้าน >ภาพ: ห้องน้ำที่ออกแบบได้เข้ากับบรรยากาศของบ้าน >. >## การเลือกใช้วัสดุและการตกแต่ง >บ้านสไตล์โคโลเนียลหนีไม่พ้นการเลือกใช้สีอ่อนอย่างสีครีม สีงาช้าง ตัดกับเส้นสายของกรอบประตูหน้าต่างที่เป็นสีเขียวหัวเป็ด พื้นกระเบื้องลวดลายโบราณถูกนำมาใช้กับพื้นที่ชั้นล่างเป็นส่วนใหญ่ ตัดขอบด้วยกระเบื้องลายเรียบ เพื่อไม่ให้ลายตาจนเกินไป พื้นชั้นบนเป็นห้องนอนเป็นพื้นไม้ของเดิมคงความรู้สึกอบอุ่น >พื้นที่หน้าบ้านเลือกใช้กระเบื้องลวดลายโบราณ >ภาพ: พื้นที่หน้าบ้านเลือกใช้กระเบื้องลวดลายโบราณ >กระเบื้องลายเรียบปูตัดขอบเป็นแนวกรอบสีเหลี่ยมตัดกับกระเบื้องลวดลายโบราณ >ภาพ: กระเบื้องลายเรียบปูตัดขอบเป็นแนวกรอบสีเหลี่ยมตัดกับกระเบื้องลวดลายโบราณ >. >สนใจ กระเบื้องปูพื้นและผนัง คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >ฝ้าเพดานชายคาตั้งใจทำให้ดูเรียบง่าย จึงเลือกใช้ฝ้าแผ่นเรียบแบบที่มีรูระบายอากาศและมีมุ้งกันแมลงมาในตัว เพื่อช่วยระบายความร้อนที่สะสมใต้หลังคาและป้องกันแมลงต่างๆ มุดเข้าไปทำรัง >ฝ้าชายคาแผ่นเรียบแบบมีรูระบายอากาศ >ภาพ: ฝ้าชายคาแผ่นเรียบแบบมีรูระบายอากาศ ช่วยระบายความร้อนที่สะสมใต้หลังคา >. >พื้นที่ด้านข้างที่ต่อเนื่องจากห้องรับแขกเพื่อเดินมายังสวน ต่อเติมหลังคากันสาดออกมาเพื่อให้สามารถออกมาใช้งานได้โดยไม่เปียกฝน เลือกใช้เป็นแผ่นโปร่งแสงสีขาวขุ่น เพื่อให้แสงสว่างส่องลงมาอย่างนวลตาไม่ดูมืดทึบ >แผ่นโปร่งแสงสีขาวขุ่น >ภาพ: แผ่นโปร่งแสงสีขาวขุ่น ให้แสงสว่างส่องลงมาอย่างนวลตา >. >สำหรับงานตกแต่งอื่นๆ ก็มีส่วนสำคัญมากที่ทำให้บ้านยังคงสไตล์โคโลเนียล อย่างโคมไฟ พัดลม ที่เจ้าของบ้านไปเดินเลือกซื้อกับสถาปนิกเองตามแหล่งขายของโบราณต่างๆ เฟอร์นิเจอร์บางชิ้นที่ตกทอดมาจากบ้านหลังเดิมและเจ้าของบ้านยังคงเก็บไว้อย่างชุดโซฟาไม้หน้าบ้าน หรือแม้แต่การตกแต่งสวน สระน้ำ ที่ยิ่งช่วยส่งให้บ้านหลังนี้สวยคลาสสิกมากขึ้น >พัดลมแขวนแนววินเทจตกแต่งในพื้นที่หน้าบ้าน >ภาพ: พัดลมแขวนแนววินเทจตกแต่งในพื้นที่หน้าบ้าน >text >ภาพ: โคมไฟโบราณหลากหลายแบบ >. >บ้านสไตล์โคโลเนียลหลังนี้ตอบโจทย์เจ้าของบ้านอย่างมาก อาจเพราะด้วยความหลงใหลแนววินเทจจึงทำให้เจ้าของบ้านเองใส่ใจในทุกรายละเอียดของการออกแบบ รวมถึงได้สถาปนิกที่มีความชอบตรงกันและถนัดในการออกแบบสไตล์นี้จึงช่วยให้การรีโนเวตบ้านเก่าที่ยังคงโครงสร้างและพื้นที่ใช้งานเท่าเดิมนั้น ถูกเปลี่ยนโฉมใหม่ไปอย่างสิ้นเชิงจนสวยคลาสสิกถูกใจเจ้าของบ้านจำบ้านหลังเดิมแทบไม่ได้ >. >ขอขอบคุณ >เจ้าของบ้าน: คุณดนุชา วีระพงษ์ >สถาปนิก: คุณอลงกรณ์ ชาไชย และ คุณเชษฐพรรณ สินเจิมสิริ >Design Connext คอมมูนิตี้แหล่งรวมสถาปนิก/นักออกแบบ ที่ช่วยเชื่อมต่อทุกองศาของงานออกแบบ >. >รับชมวิดิโอบ้านหลังนี้ คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >อ่านเพิ่มเติม: รีโนเวตบ้านเก่า เล่าเรื่องใหม่ ด้วยสเปซและแสงเงา >อ่านเพิ่มเติม: ปรับโฉมผนังปูนขัดมันเก่า ด้วยไอเดียตกแต่งผนังลุคใหม่