ข้อแตกต่างและข้อคำนึงในการเลือกฉนวนกันความร้อนหลังคาเพื่อบ้านเย็น ว่าจะใช้ฉนวนแบบปูใต้หลังคาหรือปูบนฝ้าเพดาน เพื่อการแก้ปัญหาบ้านร้อนที่ได้ประสิทธิภาพ >ตัวช่วยแก้ปัญหาบ้านร้อน อย่างฉนวนกันความร้อนหลังคาทั้งแบบปูบนฝ้าเพดานและแบบปูใต้หลังคา ต่างก็มีคุณสมบัติป้องกันความร้อน ช่วยลดความร้อนจากโถงหลังคาที่จะเข้าสู่ตัวบ้าน ทำบ้านเย็นขึ้นได้ทั้งคู่ โดยข้อคำนึงหลักๆ ที่เจ้าของบ้านควรพิจารณาในการเลือกใช้งานก็คือ ค่าการกันความร้อน (ค่า R) ตำแหน่งการติดตั้ง รูปแบบของฉนวน และการดูแลรักษา >## ค่าการกันความร้อน หรือ ค่า R ของฉนวนกันความร้อนหลังคา >การจะปูฉนวนกันความร้อนหลังคา ไม่ว่าจะปูเหนือฝ้าเพดาน หรือปูใต้หลังคานั้น ประสิทธิภาพการกันความร้อนอาจให้ผลไม่ต่างกันมากนัก เพราะปัจจัยที่สำคัญกว่าคือ “ค่าการกันความร้อน” เป็นความสามารถในการต้านทานความร้อน หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า “ค่า R” ในการเลือกซื้อฉนวนกันความร้อน จึงควรดูค่า R เป็นหลัก โดยวัสดุแต่ละชนิดจะมีค่า R แตกต่างกัน ทั้งนี้ ค่า R จะสัมพันธ์กับความหนาของฉนวน โดยฉนวนยิ่งหนา ค่า R จะยิ่งสูง ฉนวนกันความร้อน SCG STAY COOL พร้อมบริการติดตั้ง คลิก\{.button .newtab} {.centered} >## * ตำแหน่งการติดตั้งฉนวนกันความร้อนหลังคา* >ฉนวนกันความร้อนแบบปูใต้หลังคาจะติดตั้งไปตามความลาดเอียงของหลังคา ซึ่งต้องมีวิธียึดติดตั้งฉนวนให้แนบไปกับหลังคาตามที่ผู้ผลิตกำหนด ส่วนการติดตั้งฉนวนกันความร้อนหลังคาแบบปูบนฝ้าเพดาน จะเป็นวางหรือปูฉนวนเรียงไปบนฝ้าเพดานเท่านั้น ซึ่งโดยทั่วไปมักไม่มีการยึดฉนวนเข้ากับโครงคร่าวฝ้า ฉนวนกันความร้อน SCG ฉนวนกันความร้อนหลังคา ติดฉนวนกันความร้อน แผ่นฉนวนกันความร้อน ฉนวนกันความร้อนใต้หลังคา ติดตั้งฉนวนกันความร้อน >ภาพ: การติดตั้งฉนวนกันความร้อนแบบปูใต้หลังคา ฉนวนกันความร้อน SCG ฉนวนกันความร้อนหลังคา ติดฉนวนกันความร้อน แผ่นฉนวนกันความร้อน ฉนวนกันความร้อนบนฝ้า ปูฉนวนกันความร้อนบนฝ้า ติดตั้งฉนวนกันความร้อน >ภาพ: การติดตั้งฉนวนกันความร้อนแบบปูบนฝ้าเพดาน ฉนวนกันความร้อน SCG STAY COOL พร้อมบริการติดตั้ง คลิก\{.button .newtab} {.centered} >## รูปแบบของฉนวนกันความร้อนหลังคา >- ฉนวนกันความร้อนแบบปูใต้หลังคา จะมีทั้ง วัสดุโฟม PU สำหรับพ่นใต้กระเบื้องหลังคาตามความหนาที่ต้องการ (2-3 นิ้ว โดยทั่วไป) หรือจะเป็นวัสดุแบบแผ่นหุ้มอะลูมิเนียมฟอยล์ อย่างโพลีเอธิลีนโฟม (PE หรือ โฟมพีอี) Air Bubble รวมถึงแผ่นอะลูมิเนียมฟอยล์สะท้อนรังสีความร้อนที่มีให้เลือกทั้งแบบธรรมดา และแบบมีฉนวนใยแก้วซ่อนด้านในช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการกันความร้อน >อ่านเพิ่มเติม: ฉนวนกันความร้อนแบบแผ่น เลือกแบบไหนดี? ฉนวนกันความร้อน แผ่นฉนวนกันความร้อน ติดตั้งฉนวนกันความร้อน ติดฉนวนกันความร้อน >ภาพ: ฉนวนกันความร้อนแบบแผ่น Air Bubble (บนซ้าย) โพลีเอธิลีนโฟม (ล่างซ้าย) และ แบบโฟม PU สำหรับพ่นใต้วัสดุมุงหลังคา (ขวา) แผ่นสะท้อนความร้อน SCG >ภาพ: แผ่นสะท้อนความร้อนอะลูมิเนียมฟอยล์ มีคุณสมบัติช่วยสะท้อนรังสีความร้อนจากหลังคา text >ภาพ: แผ่นสะท้อนความร้อนอะลูมิเนียมฟอยล์แบบมีฉนวนใยแก้วกันความร้อนซ่อนด้านใน ใช้สำหรับติดตั้งบนแปหลังคา >- ฉนวนกันความร้อนแบบปูบนฝ้าเพดาน อาจเลือกใช้ฉนวนกันความร้อนแบบแผ่นที่ปูใต้หลังคาได้อย่าง โพลีเอธิลีนโฟม Air Bubble หรือจะเลือกใช้ฉนวนใยแก้วแบบม้วนก็ได้ ฉนวนกันความร้อน SCG STAY COOL ฉนวนกันความร้อนหลังคา ติดฉนวนกันความร้อน ฉนวนกันความร้อนบนฝ้า ปูฉนวนกันความร้อนบนฝ้า แผ่นฉนวนกันความร้อน >ภาพ: ฉนวนกันความร้อน SCG รุ่น STAY COOL เป็นฉนวนใยแก้วหุ้มอะลูมิเนียมฟอยล์ สำหรับวางบนฝ้าเพดาน ฉนวนกันความร้อน SCG STAY COOL พร้อมบริการติดตั้ง คลิก\{.button .newtab} {.centered} >## การดูแลรักษาฉนวนกันความร้อนหลังคา >หากเทียบกันแล้ว ฉนวนกันความร้อนหลังคาที่ปูบนฝ้าเพดานมักรื้อเปลี่ยนได้ง่ายกว่า โดยสามารถลำเลียงฉนวนเข้าออกทางช่องเซอร์วิสบนฝ้าเพดานได้ ส่วนการรื้อเปลี่ยนฉนวนที่ติดตั้งใต้หลังคาส่วนใหญ่มักต้องมีการรื้อกระเบื้องหลังคา ซึ่งค่อนข้างยุ่งยากกว่า ฉนวนกันความร้อน SCG STAY COOL ฉนวนกันความร้อนหลังคา ติดฉนวนกันความร้อน ติดตั้งฉนวนกันความร้อน ฉนวนกันความร้อนบนฝ้า ปูฉนวนกันความร้อนบนฝ้า แผ่นฉนวนกันความร้อน >ภาพ: การลำเลียงฉนวนเข้าออกทางช่องเซอร์วิสบนฝ้าเพดาน >หลังจากที่ได้เห็นภาพรวมของฉนวนกันความร้อนหลังคา ทั้งแบบปูใต้หลังคาและแบบปูบนฝ้าเพดานไปแล้ว การตัดสินใจเลือกฉนวนเพื่อแก้ปัญหาบ้านร้อนครั้งต่อไปก็ไม่ใช่เรื่องยาก อย่างไรก็ตาม อีกเรื่องสำคัญที่เจ้าของบ้านจะมองข้ามไม่ได้ก็คือ การทำบ้านเย็นนั้น ไม่ใช่เพียงแค่ติดตั้งฉนวนที่มี ค่า R สูง ในหลายๆ ตำแหน่งของบ้านเท่านั้น แต่จะต้อง “มีการระบายอากาศที่ดี” มิฉะนั้นความร้อนในบ้านจะถูกฉนวนกักไว้ทำให้บ้านร้อนอบอ้าว ทำนองว่าฉนวนช่วยกันความร้อนไม่ให้เข้าบ้าน แต่ก็กันความร้อนในบ้านไม่ให้ออกไปเช่นเดียวกัน การระบายอากาศที่ดี จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยพาเอาความร้อนในบ้านออกไปได้ ฉนวนกันความร้อน SCG STAY COOL พร้อมบริการติดตั้ง คลิก\{.button .newtab} {.centered}
ฉนวนกันความร้อน เอสซีจี มีหลายประเภท ซึ่งควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เพื่อเลือกให้เหมาะสมกับบ้านของเราที่กำลังจะสร้างใหม่ให้มากที่สุด >เพราะบ้านเราขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองร้อน เมื่อคิดจะสร้างบ้านสักหลัง เจ้าของบ้านหลายคนจึงคำนึงถึงเรื่องความร้อนที่จะผ่านเข้าสู่ตัวบ้านเป็นอันดับต้นๆ หนึ่งในตัวเลือกคือการปูฉนวนกันความร้อนแบบแผ่น สำหรับใครที่กำลังสนใจหรือพิจารณาจะใช้ฉนวนกันความร้อนของเอสซีจี แนะนำให้ทำความรู้จักกับฉนวนแต่ละประเภท เลือกให้เหมาะสมกับรูปแบบหลังคา และดูความเหมาะสมและคุ้มค่าก่อนการตัดสินใจ สนใจ ฉนวนกันความร้อน STAYCOOL พร้อมบริการติดตั้ง คลิกที่นี่\{.button .newtab} {.centered} >## ฉนวนกันความร้อน เอสซีจี มีประเภทไหนบ้าง >ฉนวนกันความร้อนเอสซีจี มีหลากหลายรุ่นให้เลือก หากไม่รู้ว่าจะเลือกรุ่นไหนดี เรามาทำความรู้จักกับฉนวนกันความร้อนของเอสซีจีแต่ละรุ่นกันก่อนดีกว่า ฉนวนกันความร้อนเอสซีจีมี 3 ประเภท คือ แผ่นสะท้อนความร้อน เอสซีจี, แผ่นสะท้อนความร้อน เอสซีจี รุ่นอัลตราคูล และ ฉนวนกันความร้อนเอสซีจี รุ่น STAY COOL >1. แผ่นสะท้อนความร้อน เอสซีจี เป็นแผ่นอะลูมิเนียมฟอยล์บางๆ 2 ชั้นมาประกบกัน ตรงกลางจะมีชั้นของโพลีเอทธีลีนฟิล์ม กระดาษคราฟท์ เส้นใยแก้วสามทาง รวมถึงสารเคมีช่วยป้องกันการลามไฟ แผ่นสะท้อนความร้อน เอสซีจี จะสะท้อนรังสีความร้อนได้สูงถึง 95% สามารถติดตั้งได้กับหลังคามุงทุกประเภท ทั้งบนแปและใต้แป แผ่นสะท้อนความร้อนเอสซีจี แผ่นฉนวนกันความร้อน ฉนวนกันความร้อนหลังคา ฉนวนกันความร้อนใต้หลังคา ติดฉนวนกันความร้อน ฉนวนกันความร้อนบนฝ้า ติดตั้งฉนวนกันความร้อน ปูฉนวนกันความร้อนบนฝ้า >ภาพ: แผ่นสะท้อนความร้อน SCG >2. แผ่นสะท้อนความร้อน เอสซีจี รุ่นอัลตราคูล ประกอบด้วยแผ่นสะท้อนความร้อนและฉนวนใยแก้ว ซึ่งมีร่องพอดีกับระยะแป จึงเหมาะกับการติดตั้งบนแปตามความลาดเอียงหลังคา และด้วยความที่มีทั้งแผ่นสะท้อนความร้อนที่ช่วยสะท้อนรังสีความร้อนได้ถึง 95% กับฉนวนใยแก้วที่ช่วยหน่วงความร้อนก่อนเข้าสู่ตัวบ้าน ทำให้มีประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อนดีกว่าการติดตั้งแผ่นสะท้อนความร้อนเพียงอย่างเดียวถึง 30% >*แผ่นสะท้อนความร้อน เอสซีจี รุ่นอัลตราคูล สามารถใช้กับกระเบื้องหลังคาซีแพค / เพรสทีจ / เซลิกา เคิร์ฟ / เอกซ์เซลล่า / นิวสไตล์ >อัลตราคูล >ภาพ: แผ่นสะท้อนความร้อน รุ่น อัลตราคูล อินโนกรีน สนใจ ฉนวนกันความร้อน STAYCOOL พร้อมบริการติดตั้ง คลิกที่นี่\{.button .newtab} {.centered} >3. ฉนวนกันความร้อน เอสซีจี รุ่น STAY COOL (ฉนวนกันความร้อนใยแก้ว) เป็นฉนวนที่ผลิตจากใยแก้ว หุ้มด้วยอะลูมิเนียมฟอยล์เสริมแรง จึงช่วยทั้งสะท้อนความร้อนและหน่วงความร้อนก่อนเข้าสู่ตัวบ้าน ฉนวนกันความร้อน เอสซีจี รุ่น STAY COOLถูกออกแบบมาให้เหมาะสำหรับการติดตั้งบนฝ้าเพดาน (ทั้งฝ้าแบบฉาบเรียบและแบบที-บาร์) มีให้เลือก 2 ความหนาคือ 75 มิลลิเมตร (3นิ้ว) และ 150 มิลลิเมตร (6นิ้ว) >*ฉนวนใยแก้ว ยิ่งมีความหนามาก ก็ยิ่งสามารถป้องกันความร้อนได้ดี ทั้งนี้ควรพิจารณาการรับน้ำหนักของโครงคร่าวฝ้าเพดานประกอบการตัดสินใจด้วย ฉนวนกันความร้อนเอสซีจีรุ่นSTAYCOOL ฉนวนกันความร้อน ฝ้าเพดาน แผ่นฉนวนกันความร้อน ฉนวนกันความร้อนหลังคา ฉนวนกันความร้อนใต้หลังคา ติดฉนวนกันความร้อน ฉนวนกันความร้อนบนฝ้า ติดตั้งฉนวนกันความร้อน ปูฉนวนกันความร้อนบนฝ้า >ภาพ: ฉนวนกันความร้อน เอสซีจี รุ่น STAY COOL ความหนา 75 มม. และ 150 มม. การติดตั้งฉนวนกันความร้อน ฉนวนกันความร้อน >ภาพ: ตำแหน่งการติดตั้งฉนวนกันความร้อน เอสซีจี แต่ละประเภท >อ่านเพิ่มเติม: 5 เรื่องน่ารู้ ก่อนติดฉนวนกันความร้อน STAY COOL ให้บ้านเย็น สนใจ ฉนวนกันความร้อน STAYCOOL พร้อมบริการติดตั้ง คลิกที่นี่\{.button .newtab} {.centered} >## เลือกฉนวนกันร้อน เอสซีจี ให้เหมาะสมกับรูปแบบหลังคา >เราขอแบ่งหลังคาบ้านเป็น 2 รูปแบบใหญ่ๆ คือ หลังคาแบบมีวัสดุมุง (มีหลายรูปทรง เช่น ทรงจั่ว ทรงปั้นหยา ทรงเพิงหมาแหงน เป็นต้น) กับหลังคาคอนกรีตเสริมเหล็ก สำหรับหลังคาแบบมีวัสดุมุง จะเลือกใช้ฉนวนกันความร้อนได้ทุกประเภทข้างต้น ซึ่งอาจจะเลือกประเภทใดประเภทหนึ่ง หรือติดตั้ง 2 ประเภทควบคู่กันก็ได้ เช่น ติดตั้งแผ่นสะท้อนความร้อน เอสซีจี หรือ รุ่นอังตราคูล ควบคู่กับการปูฉนวนกันความร้อน เอสซีจี รุ่น STAY COOL (ขึ้นอยู่กับงบประมาณ ความคุ้มค่า และรุ่นกระเบื้องหลังคาที่มุงในกรณีที่เลือกใช้แผ่นสะท้อนความร้อน เอสซีจี รุ่นอัลตราคูล) ส่วนหลังคาคอนกรีตเสริมเหล็ก สามารถเลือกใช้ฉนวนกันความร้อน เอสซีจี รุ่น Stay Cool ซึ่งเป็นฉนวนแบบติดตั้งบนฝ้าเพดานเท่านั้น โดยสามารถเลือกความหนาแบบ 75 มิลลิเมตร (3 นิ้ว) หรือ 150 มิลลิเมตร (6 นิ้ว) ตามความเหมาะสมของโครงคร่าวและงบประมาณ ฉนวนกันความร้อน ฝ้าเพดาน แผ่นฉนวนกันความร้อน ฉนวนกันความร้อนหลังคา ฉนวนกันความร้อนใต้หลังคา ติดฉนวนกันความร้อน ฉนวนกันความร้อนบนฝ้า ติดตั้งฉนวนกันความร้อน ปูฉนวนกันความร้อนบนฝ้า >ภาพ: หลังคาแบบมีวัสดุมุง จะเลือกใช้ฉนวนกันความร้อนได้ทุกประเภท ส่วนหลังคาคอนกรีตเสริมเหล็ก สามารถเลือกใช้ฉนวนกันความร้อน เอสซีจี รุ่น Stay Cool ซึ่งเป็นแบบปูบนฝ้าเพดานเท่านั้น สนใจ ฉนวนกันความร้อน STAYCOOL พร้อมบริการติดตั้ง คลิกที่นี่\{.button .newtab} {.centered} >## ดูความเหมาะสมและคุ้มค่าก่อนตัดสินใจ >ประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อนของฉนวนกันความร้อนแต่ละประเภท เราดูที่ “ค่าความสามารถในการต้านทานความร้อน” หรือ ค่า R (Resistivity) เป็นหลัก ฉนวนที่มีค่า R ยิ่งสูง ประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อนจะยิ่งมาก ซึ่งค่า R หาได้จาก “ความหนาฉนวนหารด้วย ค่า K (Conductivity)” หากดูจากตารางด้านล่าง ฉนวนกันความร้อน เอสซีจี รุ่น STAY COOL ความหนา 6 นิ้ว จะมีค่า R มากสุด และเมื่อเปรียบเทียบราคาต่อตารางเมตรหารด้วยค่า R ยังถือว่าคุ้มค่ามากสุดด้วย เปรียบเทียบฉนวนแต่ละประเภท ฉนวนกันความร้อน ฝ้าเพดาน แผ่นฉนวนกันความร้อน ฉนวนกันความร้อนหลังคา ฉนวนกันความร้อนใต้หลังคา ติดฉนวนกันความร้อน ฉนวนกันความร้อนบนฝ้า ติดตั้งฉนวนกันความร้อน ปูฉนวนกันความร้อนบนฝ้า >ภาพ: ตารางเปรียบเทียบค่า R และ ราคาต่อตารางเมตร (โดยประมาณ) ของฉนวนกันความร้อน เอสซีจี แต่ละประเภท >นอกจากการติดตั้งฉนวนแต่ละประเภทแบบเดี่ยวๆ แล้ว เรายังสามารถเลือกติดตั้งควบคู่กันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อนให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย จากผลทดสอบตามตารางด้านล่าง หากดูค่า R เป็นหลัก การเลือกใช้แผ่นสะท้อนความร้อน เอสซีจี รุ่นอัลตราคูล ควบคู่กับฉนวนกันความร้อน เอสซีจี รุ่น STAY COOL ความหนา 150 มม. จะป้องกันความร้อนได้ดีสุด (เหมาะกับบ้านที่ใช้หลังคารุ่นที่สามารถติดตั้งแผ่นสะท้อนความร้อน เอสซีจี รุ่นอัลตราคูลได้เท่านั้น) ทั้งนี้ ควรเลือกใช้ฉนวนที่สอดคล้องกับงบประมาณที่เราตั้งไว้ให้สอดคล้องและคุ้มค่ากับประสิทธิภาพการกันความร้อนที่ได้ สนใจ ฉนวนกันความร้อน STAYCOOL พร้อมบริการติดตั้ง คลิกที่นี่\{.button .newtab} {.centered} เปรียบเทียบการกันความร้อน ฉนวนกันความร้อน แผ่นฉนวนกันความร้อน ฉนวนกันความร้อนหลังคา ฉนวนกันความร้อนใต้หลังคา ติดฉนวนกันความร้อน ฉนวนกันความร้อนบนฝ้า ติดตั้งฉนวนกันความร้อน ปูฉนวนกันความร้อนบนฝ้า >ภาพ: ตารางเปรียบเทียบผลการทดสอบการกันความร้อนของฉนวนกันความร้อน เอสซีจี แต่ละประเภทที่ติดตั้งร่วมกัน >อ่านเพิ่มเติม: [ฉนวนกันความร้อน เลือกอย่างไรให้คุ้มค่า](https://scghome.com/living-ideas/articles/ฉนวนกันความร้อน-เลือกให้คุ้มค่า-1-1 ) >เมื่อตัดสินใจได้แล้ว ว่าจะเลือกติดตั้งฉนวนประเภทไหนสำหรับบ้านใหม่ จะติดตั้งแบบเดี่ยวหรือแบบควบคู่กัน อย่าลืมเลือกให้สอดคล้องกับหลังคาและรูปแบบบ้านแต่ละหลัง เพื่อความคุ้มค่าและประสิทธิภาพในการกันร้อนที่สูงสุดด้วย สนใจ ฉนวนกันความร้อน STAYCOOL พร้อมบริการติดตั้ง คลิกที่นี่\{.button .newtab} {.centered}
รวบรวมวิธีการดูแลตนเองทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพใจ เพื่อป้องกันการเป็นออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) >ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) ไม่ใช่โรคที่ระบุชัดเจนทางการแพทย์ แต่เป็นกลุ่มอาการที่พบบ่อยในคนทำงานออฟฟิศ ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมการทำงานที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะการอยู่ในอิริยาบถเดิมเป็นเวลานาน เช่น การนั่งทำงานนานเกินไป และอีกหลายปัจจัยที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของคนทำงาน หากสามารถปรับพฤติกรรมการทำงานได้อย่างเหมาะสม รวมถึงการดูแลตนเองทั้งกายใจได้อย่างถูกวิธี ก็สามารถช่วยให้ห่างไกลจากออฟฟิศซินโดรมได้ >. >## อาการของออฟฟิศซินโดรม >อาการที่พบได้บ่อย ได้แก่: >๐ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะบริเวณ คอ บ่า ไหล่ หลัง และสะบัก >๐ ปวดศีรษะ โดยเฉพาะเวลาทำงานนาน ๆ >๐ อาการชาบริเวณปลายมือหรือปลายนิ้ว (มักเกิดจากการกดทับเส้นประสาท) >๐ อาการตาล้าหรือแสบตาจากการจ้องจอนาน >๐ บางคนอาจมีอาการเวียนศีรษะหรืออาการนอนไม่หลับ >อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ >ภาพ: อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะบริเวณ คอ บ่า ไหล่ >. >## สาเหตุของออฟฟิศซินโดรม >ส่วนใหญ่เกิดจาก: >๐ ท่าทางในการทำงานไม่ถูกต้อง เช่น นั่งหลังค่อม จอคอมสูงหรือต่ำเกินไป >๐ นั่งทำงานในท่าเดิมนานเกินไป โดยไม่มีการเปลี่ยนอิริยาบถ >๐ ใช้อุปกรณ์ที่ไม่เหมาะสม เช่น โต๊ะ เก้าอี้ หรือเมาส์ ที่ไม่รองรับสรีระ >๐ ความเครียดสะสม ส่งผลให้กล้ามเนื้อเกร็ง ปวดศรีษะ >๐ ไม่มีการพักเบรค หรือยืดเหยียดระหว่างวัน >การใช้เก้าอี้ทำงานที่ไม่รองรับสรีระ >ภาพ: การใช้เก้าอี้ทำงานที่ไม่รองรับสรีระ >. >## การดูแลตนเองให้ห่างไกลออฟฟิศซินโดรม >. >1. เลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมกับสรีระ และปรับท่าทางการนั่งให้ถูกต้อง >ให้สังเกตว่าโต๊ะทำงานของเรามีระดับความสูงที่สัมพันธ์กับเก้าอี้ทำงานหรือไม่ เมื่อเราลองนั่งแล้วระดับการวางแขนไม่สูงหรือต่ำเกินไป เก้าอี้ที่ใช้ควรเป็นเก้าอี้ทำงานโดยเฉพาะมีพนักพิงหลังที่รองรับสรีระของหลังได้แนบพอดี หลังตรง และวางเท้าที่พื้นได้เต็มฝ่าเท้า หรืออาจมีที่พักเท้าที่เอนขึ้นเล็กน้อยเพื่อรองรับฝ่าเท้าได้พอดี >จอคอมอยู่ระดับสายตา ห่างจากตาประมาณ 50–70 ซม. วางคีย์บอร์ดให้ตรงกับหน้าจอ และอยู่ในระดับที่ไม่ต้องยกไหล่หรือเอื้อมมือไกล และควรปรับคีย์บอร์ดให้เอียงขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้สะดวกต่อการพิมพ์ วางเมาส์ให้อยู่ด้านข้างระดับเดียวกับคีย์บอร์ด โดยให้อยู่ใกล้ตัวไม่ต้องยื่นแขนไกล >ท่านั่งทำงาน >ภาพ: (ซ้าย)ท่านั่งทำงานที่ทำให้เกิดออฟฟิศซินโดรม (ขวา)ท่านั่งทำงานที่ถูกต้อง >เก้าอี้ทำงาน >ภาพ: เก้าอี้ทำงานที่ถูกออกแบบเพื่อรองรับสรีระในการนั่งทำงาน >. >สนใจ เก้าอี้ทำงาน คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >2. ไม่นั่งนานเกินไป และยืดกล้ามเนื้อสม่ำเสมอ >ควรลุกยืนหรือเดิน เพื่อเปลี่ยนอิริยาบถทุก 30-60 นาที อาจเป็นการเดินยืดเส้นยืดสาย หรือออกกำลังกายสั้น ๆ แบบ “office yoga” และควรบริหารคอ ไหล่ หลัง มือ วันละ 2–3 ครั้ง >การยืดเส้นยืดสาย office yoga >ภาพ: ตัวอย่างการยืดเส้นยืดสายอยู่กับเก้าอี้ทำงานแบบ “office yoga” >. >3. พักสายตา และดูแลดวงตา >ในระหว่างวันสำหรับผู้ที่ทำงานกับจอคอม ให้ใช้กฎ 20 : 20 : 20 คือทุกๆ 20 นาที ให้มองออกไปไกลระยะ 20 ฟุต นาน 20 วินาที ส่วนในเวลากลางคืนก่อนนอน ควรหลับตาแล้วประคบอุ่นเพื่อช่วยผ่อนคลาย ลดอาการตึงรอบดวงตา และลดภาวะตาล้าจากการใช้คอมพิวเตอร์ อาจเป็นเจลประคบตาแช่น้ำร้อน หรือผ้าขนหนูสะอาดแช่น้ำร้อนบิดหมาด หรือปัจจุบันมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยอย่างเครื่องนวดผ่อนคลายรอบดวงตาด้วยระบบนวดถุงลมพร้อมความร้อนที่ให้อุณหภูมิคงที่ >เครื่องนวดผ่อนคลายรอบดวงตา >ภาพ: ตัวอย่างเครื่องนวดผ่อนคลายรอบดวงตาด้วยระบบนวดถุงลมพร้อมความร้อน อุณหภูมิคงที่ 38–42 องศา >. >สนใจ เครื่องนวดตาไร้สาย Homemi คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >## 4. หมั่นออกกำลังกายอย่างเหมาะสม >ในที่นี้หมายถึงความเหมาะสมทั้งเวลาที่มีเหลือจากการทำงาน สมรรถภาพร่างกาย และความชอบ เพราะการออกกำลังมีให้เลือกหลากหลาย อาจเล่นโยคะยืดเหยียดคลายกล้ามเนื้อ การเดินหรือวิ่งในสวน ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ ตีแบต เวทเทรนนิ่ง ฯลฯ ซึ่งควรออกกำลังกายให้ได้ 3-5 วัน/สัปดาห์ ครั้งละ 30-50 นาที นอกจากทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดจากการทำงานทำให้สมองปลอดโปร่งได้อีกด้วย >การเดินหรือวิ่งด้วยลู่วิ่งไฟฟ้า >ภาพ: การเดินหรือวิ่งด้วยลู่วิ่งไฟฟ้าที่บ้านสะดวกสบายไม่ต้องออกเดินทางไปไหน >การเล่นพิลาทิส (Pilates) >ภาพ: การเล่นพิลาทิส (Pilates) ช่วยเสริมสร้างสุขภาพกายใจ รวมถึงคุณภาพการหายใจ และยังเป็นการฝึกสมาธิด้วย >. >สนใจ ลู่วิ่งไฟฟ้า Homefittools คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >สนใจ จักรยานออกกำลังกาย คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >สนใจ อุปกรณ์ออกกำลังกาย คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >5. นอนหลับให้เพียงพอ >การนอนหลับเป็นพื้นฐานสำคัญของสุขภาพกายและใจที่หลายคนมองข้าม โดยเฉพาะคนวัยทำงานที่นอนน้อยเป็นประจำ ตามคำแนะนำของ National Sleep Foundation แนะนำให้แต่ละช่วงวัยนอนหลับให้เพียงพอต่อคืน ดังนี้ >๐ วัยรุ่น (14–17 ปี) ประมาณ 8–10 ชั่วโมง/คืน >๐ ผู้ใหญ่ (18–64 ปี) ประมาณ 7–9 ชั่วโมง/คืน >๐ ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) ประมาณ 7–8 ชั่วโมง/คืน >หากเรานอนไม่เพียงพอ จะส่งผลให้สมองล้า ความจำสั้น ภูมิคุ้มกันลดลง ฮอร์โมนและอารมณ์แปรปรวน เสื่อมสมรรถภาพทางกาย ซึ่งมีผลทำให้เป็นออฟฟิศซินโดรมได้ เนื่องจากกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นฟื้นตัวช้าลง กล้ามเนื้อเกร็งโดยไม่รู้ตัวเกิดความเครียดสะสม >สำหรับคนทำงานออฟฟิศทั่วไป ควรนอนให้ได้อย่างน้อย 7 ชั่วโมง/คืน และควรนอนหลับให้สนิท ไม่ฝันบ่อย ไม่ตื่นกลางดึก อาจมีวิธีช่วยให้เราหลับได้ดีขึ้น เช่น การเปิดเพลงบรรเลงคลอเบาๆ ใช้กลิ่นหอมอโรม่าช่วยในการผ่อนคลาย หรืออาจใช้อุปกรณ์ช่วยแก้ปัญหานอนไม่หลับ ซึ่งเป็นนวัตกรรมคลื่นเสียงอัจฉริยะ ช่วยให้หลับลึก มีสมาธิ ผ่อนคลาย และลดความเครียด >กลิ่นหอมอโรม่า >ภาพ: ใช้กลิ่นหอมอโรม่าช่วยในการผ่อนคลาย >อุปกรณ์ช่วยแก้ปัญหานอนไม่หลับ >ภาพ: การใช้อุปกรณ์ช่วยแก้ปัญหานอนไม่หลับ ช่วยให้หลับลึก >. >สนใจ ก้านไม้หอม-และเครื่องกระจายกลิ่นหอม คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >สนใจ อุปกรณ์ช่วยแก้ปัญหานอนไม่หลับ Banala คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >6. การนวดผ่อนคลาย >การนวดช่วยลดความตึงของกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะบริเวณคอ บ่า ไหล่ หลัง ที่เป็นจุดยอดฮิตของออฟฟิศซินโดรม และบรรเทาอาการปวดเมื่อยจากการนั่งทำงาน ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ทำให้กล้ามเนื้อได้รับออกซิเจนดีขึ้น ลดอาการอักเสบ ลดอาการปวดศีรษะจากความเครียดหรือไมเกรน และช่วยปรับสมดุลระบบประสาท ทำให้ผ่อนคลาย หลับดีขึ้น ลดความเครียดสะสม หากมีเวลาอาจไปนวดผ่อนคลายหรือนวดแผนไทย ส่วนระหว่างวันการทำงานที่เหนื่อยล้าอาจมีเครื่องนวดพกพาเล็กๆ ไว้ใช้งาน เช่น หมอนนวดคอไฟฟ้า ปืนนวดพกพาแบบประคบร้อน-เย็น ฯลฯ >หมอนนวดคอไฟฟ้า >ภาพ: หมอนนวดคอไฟฟ้าช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงานระหว่างวัน >เครื่องนวดขนาดเล็กพกพาสะดวก >ภาพ: เครื่องนวดขนาดเล็กพกพาสะดวก ติดกระเป๋าไว้ใช้งานได้ทุกที่ >. >สนใจ อุปกรณ์นวดไฟฟ้า คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >หากมีอาการออฟฟิศซินโดรมแล้ว อาจแก้ไขด้วยการยืดเหยียดและทำกายภาพบำบัด ช่วยคลายกล้ามเนื้อลดอาการปวด อาจทานยาแก้ปวดหรือยาคลายกล้ามเนื้อ หรืออาจนวดผ่อนคลาย นวดบำบัด ฝังเข็ม โดยผู้เชี่ยวชาญ ในกรณีที่มีอาการยาวนานรบกวนการทำงานหรือการทำกิจกรรมต่างๆ ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการรักษาอย่างถูกวิธี เหนือสิ่งอื่นใดควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นวิธีรักษาที่สำคัญที่สุด เพื่อไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ >. >. >อ่านเพิ่มเติม: ยืนทำงานแก้ออฟฟิศซินโดรมได้ ยืนอย่างไรให้ถูกวิธี >อ่านเพิ่มเติม: 7 วิธีเลือกเก้าอี้นวดไฟฟ้าให้สบาย ปลอดภัย ใช้ดีคุ้มค่า
เล่าถึงข้อดีของพื้นลดแรงกระแทกลายไม้\{.newtab} เป็นวัสดุปูพื้นภายในบ้านรูปแบบม้วน พื้นผิวฝืด ไม่ลื่น ช่วยลดแรงกระแทกเมื่อพลัดตกหกล้ม รูปลักษณ์ลายไม้สวยงามลุคอบอุ่นเป็นธรรมชาติ เหมาะกับบ้านที่มีเด็ก ผู้สูงอายุ รวมถึงสัตว์เลี้ยง > 1) พื้นลดแรงกระแทกลายไม้ ช่วยลดความเสี่ยงลื่นล้ม > พื้นประเภทนี้มีค่าการกันลื่นสูงประมาณ R10-R11 ช่วยเพิ่มความมั่นคงในการยืนและการเดิน ลดความเสี่ยงการลื่นล้มภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ห้องนั่งเล่น ห้องนอนสำหรับเด็ก ผู้สูงวัย ห้องออกกำลังกาย นอกจากนี้ยังให้สัมผัสที่นุ่มสบาย ไม่แข็งกระด้าง ไม่เย็นเท้า สากเท้า > พื้นกันกระแทก ห้องเด็ก ห้องผู้สูงอายุ ภาพ: พื้นลดแรงกระแทกลายไม้ มีผิวสัมผัสที่ฝืด ไม่ลื่น เหมาะกับห้องผู้สูงวัย ห้องเด็ก และห้องทำกิจกรรมต่างๆ > 2) พื้นลดแรงกระแทกลายไม้ ลดความเสี่ยงการบาดเจ็บ > พื้นลดแรงกระแทกโดยทั่วไปมักหนา 2.3-4.5 มม. ผลิตจากวัสดุไวนิล ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับที่ใช้ผลิตกระเบื้องยาง โดยมีชั้น Layer ที่เป็นลวดลาย ชั้นเคลือบผิว และชั้นวัสดุต่างๆ ที่ช่วยดูดซับแรงกระแทก เช่น FU-VPT โพลิเมอร์ โฟม EVA ยางพารา ยางสังเคราะห์ จึงมีส่วนช่วยลดแรงปะทะ ลดความรุนแรงของการบาดเจ็บเมื่อพลัดตกหกล้ม > พื้นลดแรงกระแทก พื้นกันกระแทก ลายไม้ ภาพ: (บน) ตัวอย่างพื้นลดแรงกระแทก ที่ประกอบด้วยชั้น Layer ต่างๆ และ (ล่าง) เปรียบเทียบการกระทบของไข่ที่ตกบนพื้นลดแรงกระแทกและพื้นกระเบื้องทั่วไป > 3) พื้นลดแรงกระแทกลายไม้ ลดความเสี่ยงปัญหาข้อสะโพกน้องหมา หลายคนอาจไม่รู้มาก่อนว่า สัตว์เลี้ยงในบ้านโดยเฉพาะอย่างยิ่งน้องหมา การวิ่ง เดิน กระโดด บนพื้นในบ้านที่แข็งลื่น จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาข้อสะโพกเสื่อมในระยะยาว ดังนั้นหากเราปูพื้นลดแรงกระแทกซึ่งมีความฝืด นุ่ม ยืดหยุ่น บริเวณพื้นที่ที่มีสัตว์เลี้ยง จะช่วยถนอมข้อเข่า ข้อสะโพก และลดความเสี่ยงปัญหาสุขภาพตรงนี้ได้ดีกว่า > พื้นลดแรงกระแทก พื้นกันกระแทก ลายไม้ ห้องสัตว์เลี้ยง ภาพ: ตัวอย่างการปูพื้นลดแรงกระแทกลายไม้สำหรับพื้นที่ที่มีสัตว์เลี้ยง ช่วยลดแรงกระแทกข้อต่อ ข้อสะโพก ช่วยลดความเสี่ยงปัญหาข้อเสื่อมในระยะยาว เลือกซื้อ พื้นลดแรงกระแทกลายไม้ คลิก\{.button .newtab} {.centered} > 4) พื้นลดแรงกระแทกลายไม้ มาเป็นม้วน ปูทับพื้นเดิมได้ง่าย > พื้นลดแรงกระแทกลายไม้มีรูปแบบเป็นม้วนผืนขนาดใหญ่ โดยทั่วไปหากพื้นของเดิมอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ก็สามารถปูทับได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องรื้อพื้นเก่า ทั้งนี้ พื้นลดแรงกระแทกลายไม้จะมีทั้งแบบที่ติดตั้งด้วยกาว และแบบที่ติดตั้งระบบสุญญากาศโดยไม่ใช้กาว > พื้นลดแรงกระแทก พื้นกันกระแทก ลายไม้ peel place ระบบสุญญากาศ ภาพ: ตัวอย่างพื้นลดแรงกระแทกลายไม้ ที่ปูแบบสุญญากาศ > พื้นลดแรงกระแทก พื้นกันกระแทก ทากาว > 5) พื้นลดแรงกระแทกลายไม้ทำความสะอาดง่าย กันน้ำ รอยต่อน้อย > เนื่องด้วยพื้นผิวเป็นวัสดุกันน้ำ ทำให้สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย และด้วยลักษณะของวัสดุม้วนขนาดใหญ่ จึงเกิดรอยต่อที่เป็นแหล่งสะสมฝุ่นหรือสิ่งสกปรกน้อย รวมถึงมีรอยต่อแนบเนียนสวยงามต่อเนื่องไปกับลวดลายที่ดูคล้ายไม้จริง > พื้นลดแรงกระแทก พื้นกันกระแทก ลายไม้ รอยต่อน้อย ภาพ: (ซ้าย) ตัวอย่างการเก็บงานรอยต่อขณะติดตั้งพื้นลดแรงกระแทกลายไม้ที่ดูเรียบเนียน และ (ขวา) พื้นผิวกันน้ำ ทำให้สามารถใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย > เลือกซื้อ พื้นลดแรงกระแทกลายไม้ คลิก\{.button .newtab} {.centered} > จะเห็นได้ว่า พื้นลดแรงกระแทกลายไม้สามารถลดความเสี่ยงและความรุนแรงจากอุบัติเหตุลื่นล้ม เหมาะสำหรับทุกสมาชิกในบ้าน ทั้งเด็ก ผู้สูงวัย รวมถึงสัตว์เลี้ยง และการติดตั้งก็ไม่ยุ่งยากเพราะเป็นแบบม้วนปูทับพื้นเดิมได้ รอยต่อน้อยทำความสะอาดง่าย ตอบโจทย์การใช้งานในบ้านทั้งความสวยงาม สะดวก ปลอดภัย > > อ่านเพิ่มเติม: บ้านเราพื้นลื่นหรือไม่ ? ตรวจสอบ แก้ไข เพื่อผู้สูงอายุปลอดภัย\{.newtab} >
แนวทางทำบ้านที่เราอาศัยให้อยู่ได้อย่างสบาย ปลอดภัย และมีสุขภาพดี ไม่ว่าจะเป็นบ้านเก่าหลังเดิมหรือบ้านสร้างใหม่ >บ้านของเรา นอกจากจะถูกออกแบบก่อสร้างและตกแต่งในแบบที่เราชอบแล้ว การทำบ้านให้สะอาด สบายตา รวมถึงการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ทำให้อยู่อาศัยแล้วมีสุขภาพดีทั้งกายและใจ ก็มีความสำคัญไม่แพ้กันเลย ซึ่งเรามี 7 วิธีที่สามารถทำได้ง่ายๆ มาฝากกัน >## 1. สร้างสภาวะอยู่สบาย ระบายอากาศดี >การสร้างสภาวะอากาศให้เหมาะสม อยู่อาศัยได้อย่างสบายกายภายในบ้านนั้น สามารถเริ่มได้ตั้งแต่การป้องกันความร้อนจากภายนอกที่จะผ่านเข้ามาภายในบ้าน ไม่ให้อากาศในบ้านอับชื้นจนเกินไป รวมถึงให้มีการระบายไหลเวียนถ่ายเทอากาศที่ดี >1.1 เลือกใช้วัสดุที่สะสมความร้อนน้อย เช่น เลือกใช้วัสดุหลังคาที่อมความร้อนน้อย เลือกใช้อิฐมวล เบาก่อผนัง ทาสีสะท้อนความร้อนที่ผนังภายนอกและหลังคาดาดฟ้า ใช้อิฐมวลเบา-Q-CON-ก่อผนัง >ภาพ: ตัวอย่างการเลือกใช้อิฐมวลเบา Q-CON ก่อผนังที่สะสมความร้อนน้อยกว่าอิฐมอญ >1.2 ติดตั้งฉนวนกันความร้อน เพื่อช่วยลดความร้อนที่จะผ่านเข้ามาภายในบ้านตามส่วนต่างๆ เช่น การติดตั้งฉนวนบริเวณหลังคา ฝ้าชายคา รวมถึงผนังบ้าน เป็นต้น ติดตั้งฉนวนกันความร้อนเหนือฝ้าเพดาน >ภาพ: ตัวอย่างการติดตั้งฉนวนกันความร้อนเหนือฝ้าเพดาน เพื่อช่วยลดความร้อนก่อนผ่านเข้าสู่ภายในบ้าน สนใจฉนวนกันความร้อน STAYCOOL พร้อมบริการติดตั้ง คลิก\{.button .newtab} {.centered} >1.3 ทำสวนแนวตั้ง การปลูกต้นไม้ภายในบ้าน ก็เป็นหนึ่งในวิธีช่วยสร้างอากาศสดชื่นในบ้าน นอกจากการเลือกไม้กระถาง ก็สามารถเลือกทำสวนแนวตั้งที่สามารถติดตั้งเองได้ง่ายๆ ที่สำคัญควรเลือกต้นไม้ประเภทที่เหมาะกับปลูกภายในบ้าน ช่วยดูดซับสารพิษ และช่วยฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ ทำสวนแนวตั้ง >ภาพ: ทำสวนแนวตั้ง แนวทางหนึ่งที่ช่วยสร้างอากาศดีภายในบ้าน >1.4 ติดตั้ง Active AIRflow™ System นวัตกรรมเร่งการถ่ายเทอากาศ ระบายความร้อนออกจากตัวบ้านและโถงหลังคา เพิ่มการหมุนเวียนอากาศในบ้านแบบอัตโนมัติ ลดการสะสมเชื้อโรคและความอับชื้นภายในบ้าน รวมถึงลดความเสี่ยงในการเกิดอาการภูมิแพ้ ผ่านอุปกรณ์ที่ติดตั้งตามจุดต่างๆ ในบ้าน ควบคุมการทำงานผ่านกล่องประมวลผลอัจฉริยะ (Smart Control Box) แสดงผลผ่านแอพพลิเคชัน “SmartLiving” ที่ควบคุมได้จากสมาร์ทโฟน >ระบบนี้เป็นหลักการที่อาศัยอากาศภายนอกให้ไหลเวียนเข้าสู่ตัวบ้านผ่าน “ช่องระบายอากาศติดผนัง” (Intake Air Grille) และดึงความร้อนจากภายในตัวบ้านขึ้นสู่โถงใต้หลังคาด้วย “ระบบระบายอากาศฝ้าเพดาน” (Ceiling Ventilator) และระบายออกสู่นอกตัวบ้านผ่าน “ระบบระบายความร้อนในโถงหลังคา” (Solar Roof Tile Ventilator) ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้ จะทำให้บ้านมีอากาศถ่ายเทตลอดเวลา ไม่อบอ้าวอับชื้น แม้จะปิดบ้านไว้ทั้งวันก็ตาม อีกทั้งช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าจากการใช้เครื่องปรับอากาศ Active-AirflowTM-System >ภาพ: ระบบเร่งการระบายความร้อนและเพิ่มการหมุนเวียนของอากาศภายในบ้าน สนใจติดตั้งระบบระบายอากาศ Active Airflow คลิก\{.button .newtab} {.centered} >1.5 วางเฟอร์นิเจอร์ไม่ขวางทางลม โดยจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้อยู่ในตำแหน่งเหมาะสม นอกจากจะไม่กีดขวางทางเดินแล้ว ยังไม่กีดขวางทางลม เพื่อให้ลมสามารถพัดผ่านได้สะดวก ระบายอากาศในห้องได้อย่างดี ห้องที่ลมสามารถพัดผ่านช่วยให้อากาศถ่ายเท >ภาพ: ตัวอย่างห้องที่ลมสามารถพัดผ่าน ช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดี >## 2. สร้างอากาศบริสุทธิ์ในบ้าน >อากาศบริสุทธิ์ในบ้านสร้างได้ ด้วยการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ หมั่นล้างแอร์และดูดฝุ่นเป็นประจำ >2.1 ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ ซึ่งเป็นตัวช่วยฟอกกรองฝุ่น กรองกลิ่น สารก่อภูมิแพ้ต่างๆ ทำให้อากาศภายในบ้านสะอาด สดชื่น ปลอดภัย สามารถอาศัยได้อย่างสบายใจและมีสุขภาพดี ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ >ภาพ: ตัวอย่างการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศภายในบ้านเพื่อสุขภาพที่ดีของสมาชิกในบ้าน >ขอบคุณภาพล่าง: www.scmp.com ดูสินค้า เครื่องฟอกอากาศ คลิก\{.button .newtab} {.centered} >## 2.2 ล้างแอร์ ดูดฝุ่นสปา >การหมั่นล้างแอร์เป็นประจำอย่าน้อยปีละ 2 ครั้ง จะช่วยให้อากาศในห้องสะอาดสดชื่น นอกจากนี้ แนะนำให้ดูดไรฝุ่น สปาฆ่าเชื้อตามที่นอน ปลอกหมอน ผ้าม่าน มุ้งลวด ขอบประตูหน้าต่าง รวมถึงอบโอโซนภายในห้อง ให้มีอากาศที่บริสุทธิ์เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง ล้างแอร์-ดูดฝุ่น-สปา-อบโอโซน >ภาพ: การล้างแอร์ ดูดฝุ่น สปา หรืออบโอโซน แนะนำให้เลือกช่างที่มีความชำนาญเพื่องานคุณภาพ สนใจบริการ ล้างแอร์ ดูดฝุ่น สปา คลิก\{.button .newtab} {.centered} >## 3. มีแสงสว่างเหมาะสม >ไม่มืดหรือสว่างจนเกินไป โดยการให้แสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามาได้นั้นต้องไม่ร้อน มีติดตั้งโคมไฟตามจุดต่างๆ เผื่อว่าหากบางจุดที่แสงธรรมชาติส่องไม่ถึงหรือมืดเกินไปก็เลือกเปิดไฟให้มีแสงสว่างเพียงพอได้ ห้องที่มีแสงสว่างเหมาะสม >ภาพ: ตัวอย่างห้องที่แสงสว่างจากธรรมชาติส่องผ่านได้ และเปิดไฟให้มีแสงสว่างเพียงพอ >## 4. จัดบ้านให้เป็นที่เป็นทาง เมื่อจัดบ้านเป็นระเบียบเรียบร้อย ของอยู่ถูกที่ทางแล้ว นอกจากจะทำให้เราหยิบจับใช้สอยของต่างๆ ได้อย่างสะดวกแล้ว ยังดูแลทำความสะอาดง่าย ที่สำคัญ อย่าลืมหมั่นจัดเก็บของ เคลียร์ของที่ไม่ใช้โดยทิ้งหรือบริจาคของอย่างสม่ำเสมอ จัดเก็บบ้านให้เป็นที่เป็นทาง >ภาพ: ควรหมั่นจัดเก็บบ้านให้เป็นที่เป็นทางและเป็นระเบียบอยู่สม่ำเสมอ >## 5. เลือกใช้วัสดุที่ปลอดภัย >วัสดุตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ในบ้าน ควรเลือกที่ปลอดภัย ไร้สารตกค้าง พื้นผิวทำความสะอาดง่าย ไม่กักเก็บสิ่งสกปรก เช่น เลือกใช้กระเบื้องและสุขภัณฑ์ไฮยีน (Hygiene) ที่ช่วยลดคราบและทำความสะอาดง่าย, สีทาบ้านที่ลดปริมาณสารระเหยอินทรีย์ (VOCs) หรือสารเคมีให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ เลือกใช้วัสดุที่สะอาดปลอดภัย >ภาพ: ตัวอย่างการเลือกใช้วัสดุที่สะอาดปลอดภัยต่อทุกคนในบ้าน และทำความสะอาดง่าย >## 6 เลี่ยงปัจจัยเสี่ยงโรค >เลี่ยงปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้เกิดสัตว์รบกวน หรือเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค เช่น รก ขยะเศษอาหาร โพรงใต้บ้าน และแหล่งเพาะยุง ที่เราควรหลีกเลี่ยง หรือลดให้น้อยที่สุด >6.1 จัดบ้านให้ไม่รก เพราะความรกจะทำให้เราดูแลทำความสะอาดได้ไม่ทั่วถึงทุกซอกมุม ดูไม่สวยงามสบายตาแล้ว ยังเป็นแหล่งสะสมฝุ่นและเพาะเชื้อโรคอีกด้วย ห้องที่รกเป็นแหล่งสะสมฝุ่นและเพาะเชื้อโรค >ภาพ: ตัวอย่างห้องที่รกเป็นแหล่งสะสมฝุ่นและเพาะเชื้อโรค >6.2 ทิ้งขยะ/เศษอาหารให้มิดชิดเรียบร้อย ไม่ให้มีแมลงมาตอม หรือสัตว์มาคุ้ยเขี่ย ที่อาจทำให้พื้นที่สกปรกเลอะเทอะเน่าเหม็น ทิ้งเศษอาหารแบบไม่มิดชิดอาจนำมาซึ่งเชื้อโรค >ภาพ: ตัวอย่างการทิ้งเศษอาหารแบบไม่มิดชิด ซึ่งอาจนำมาซึ่งเชื้อโรคต่างๆ ได้ >6.3 ปิดโพรงใต้บ้านให้เรียบร้อยดูดี เพราะโพรงใต้บ้าน นอกจากจะดูไม่สวยงามเท่าไรนักแล้ว ยังอาจเป็นแหล่งซ่อนตัวของสัตว์ตัวเล็กๆ ทั้งที่ไม่อันตรายและที่สามารถทำอันตรายกับเราได้ จึงแนะนำให้ปิดโพรงให้เรียบร้อยเพื่อความปลอดภัยของคนในบ้าน โพรงใต้บ้านที่อาจทำให้สัตว์ตัวเล็กๆเข้าไปหลบซ่อนตัว >ภาพ: ตัวอย่างโพรงใต้บ้านที่อาจทำให้สัตว์ตัวเล็กๆ เข้าไปหลบซ่อนตัวได้ สนใจ บริการเติมเต็ม ปิดโพรงใต้บ้าน (FillGood) คลิก\{.button .newtab} {.centered} >6.4 กำจัดแหล่งเพาะยุง เพราะยุงเป็นตัวนำโรคมาสู่คนได้ เราจึงควรป้องกันโดยการกำจัดแหล่งเพาะยุงทั้งหมด เพื่อลดโรคจากยุง น้ำขังในโอ่งที่อาจเป็นแหล่งเพาะยุง ภาพ: ตัวอย่างน้ำขังในโอ่งที่เป็นแหล่งเพาะยุงได้ >## 7. ควบคุมเสียงให้เหมาะสม เราควรควบคุมเสียงต่างๆ ทั้งจากภายในและภายนอกให้เหมาะสม เพื่อให้สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ภายในบ้านได้ดี และไม่รบกวนเพื่อนบ้านข้างเคียง >7.1 กันเสียงรบกวนจากภายนอก สำหรับห้องหรือพื้นที่ที่ต้องการความเงียบหรือใช้สมาธิ เช่น ห้องทำงาน ห้องอ่านหนังสือ แต่มีปัญหาเสียงจากภายนอกรบกวน เราควรทำผนังกันเสียงเพิ่มเติม รวมถึงปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด ห้องที่ต้องการความสงบควรทำผนังให้กันเสียงรบกวนจากภายนอก >ภาพ: สำหรับห้องที่ต้องการความสงบ ควรทำผนังให้กันเสียงรบกวนจากภายนอก >7.2 ใช้วัสดุซับเสียง สำหรับห้องที่ต้องมีการใช้เสียงหรือมีเสียงดัง ควรติดตั้งวัสดุกันเสียงและดูดซับเสียงเพื่อลดเสียงก้อง สร้างคุณภาพเสียงที่ดี ทั้งยังไม่รบกวนการทำกิจกรรมอื่นของสมาชิกในบ้านตลอดจนเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน ห้องที่ต้องใช้เสียงควรทำห้องให้ซับเสียงและดูดซับเสียง >ภาพ: สำหรับห้องที่ต้องใช้เสียง ควรทำห้องให้ซับเสียงและดูดซับเสียง เพื่อป้องกันเสียงรบกวนเพื่อนบ้าน สนใจ ผนังกันเสียง พร้อมติดตั้ง คลิก\{.button .newtab} {.centered}
รวมไอเดียตกแต่งผนังบ้าน ภายนอก ภายใน ด้วย 10 วัสดุจาก เอสซีจี ทั้งกลุ่มไม้เทียม ปูนฉาบ กระเบื้องคอนกรีต ผนังกรวดล้าง ทรายล้าง จะชื่นชอบสไตล์ไหนก็ตอบโจทย์ได้อย่างมีเอกลักษณ์ >ผนังบ้าน เป็นส่วนที่สามารถดึงดูดสายตา หรือเปลี่ยนอารมณ์และบรรยากาศให้กับบ้านได้เป็นอย่างดี หากใครกำลังมองหาไอเดียตกแต่งผนังบ้านอยู่ละก็ เราได้รวบรวมไอเดียตกแต่งผนังบ้านด้วย 10 วัสดุคุณภาพจาก เอสซีจี เชื่อว่าถ้าอ่านจบแล้ว คงได้ไอเดียกลับไปตกแต่งผนังทั้งภายในและภายนอกบ้านอย่างแน่นอน >. >## 1. ผนังสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี >แผ่นผนังสมาร์ทบอร์ด SCG ถือเป็นวัสดุที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลาย ทั้งในด้านงานโครงสร้างและงานตกแต่ง เนื่องจากเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงและยืดหยุ่นในตัว ผลิตจากไฟเบอร์ซีเมนต์ จึงมีคุณสมบัติเด่นคือ ไม่เป็นอาหารของปลวก อีกทั้งยังทนความเปียกชื้นได้ดี จึงสามารถใช้ได้ทั้งภายในและภายนอก >ผนังสมาร์ทบอร์ด SCG รัสติค แผ่นสมาร์ทบอร์ด ผนังสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี เดคคอร์ สมาร์ทบอร์ดSCG สมาร์ทบอร์ดลายไม้ >ภาพ: แต่งผนังสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี เดคคอร์ รุ่น รัสติค สวยงามให้ลุคที่เป็นธรรมชาติด้วยลายเสี้ยนไม้ที่ชัดลึก แม้ทาสีก็ยังเห็นลายเสี้ยนไม้ >ผนังสมาร์ทบอร์ด SCG รัสติค แผ่นสมาร์ทบอร์ด ผนังสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี เดคคอร์ สมาร์ทบอร์ดSCG สมาร์ทบอร์ดลายไม้ >ภาพ: เชื่อมสเปซให้เป็นหนึ่งเดียวกันด้วย ผนังสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี เดคคอร์ รุ่น รัสติค ที่ใช้ตกแต่งได้ทั้งผนังภายในและฝ้า เติมเต็มความอบอุ่นอย่างเป็นธรรมชาติด้วยลายเสี้ยนไม้ >สมาร์ทบอร์ด แผ่นสมาร์ทบอร์ด ผนังสมาร์ทบอร์ด SCG สมาร์ทบอร์ดSCG >ภาพ: ผนังตกแต่งด้วย แผ่นสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี ที่สั่งตัดพิเศษ นำมาวางเรียงตัวสอดประสานกันในแนวตั้ง เพื่อให้เกิดมิติผนังที่สวยงาม >สมาร์ทบอร์ด แผ่นสมาร์ทบอร์ด ผนังสมาร์ทบอร์ด SCG ชั้นวางของ สมาร์ทบอร์ดSCG >ภาพ: เพิ่มพื้นที่เก็บของให้ผนังห้องครัว โดยทำชั้นวางของจากแผ่นผนัง สมาร์ทบอร์ด เอสซีจี >สมาร์ทบอร์ด แผ่นสมาร์ทบอร์ด ผนังสมาร์ทบอร์ด SCG เซาะร่อง สมาร์ทบอร์ดSCG >ภาพ: ผนังภายนอกใช้ สมาร์ทบอร์ด เอสซีจี แบบเซาะร่อง ทาสีน้ำตาล ให้ลุคอบอุ่นคล้ายไม้ฝา >ผนังสมาร์ทบอร์ด SCG เว้นร่อง แผ่นสมาร์ทบอร์ด ผนังสมาร์ทบอร์ด สมาร์ทบอร์ดSCG >ภาพ: ติดตั้งแผ่นผนังสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี แบบเว้นร่อง เพิ่มลูกเล่นด้วยการเจาะช่องซ่อนไฟ ให้แสงตามรูปแบบที่ต้องการ สนใจ ปรึกษาออกแบบบ้านกับสถาปนิกผู้เชี่ยวชาญ คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >## 2. ไม้ฝา เอสซีจี >ไม้ฝา SCG เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของวัสดุทดแทนไม้ ผลิตจากไฟเบอร์ซีเมนต์ จึงมีความทนทาน ใช้งานได้ทั้งภายนอก-ภายใน และไม่เป็นอาหารของปลวก มีหลายผิวสัมผัสให้เลือก (ผิวเรียบ ลายไม้ ลายเสี้ยนไม้) เนื้อวัสดุเป็นสีซีเมนต์สามารถทาสีทับได้ตามต้องการ โดยบางรุ่นจะมีแบบเคลือบสีสำเร็จมาจากโรงงาน (ส่วนใหญ่จะเป็นสีน้ำตาลเฉดต่างๆ) และยังมีรุ่นที่ช่วยลดความร้อนให้กับบ้านด้วย เช่น ไม้ฝา เอสซีจี รุ่น คูลพลัส ที่ช่วยลดอุณหภูมิในบ้านได้สูงสุด 5 องศาเมื่อเทียบกับไม้ฝาทั่วไป >ผนังไม้เทียม ผนังไม้ฝา ไม้ฝา SCG ไม้ฝาสมาร์ทวูด สมาร์ทวูด >ภาพ: ให้บรรยากาศใกล้เคียงธรรมชาติสไตล์บ้านไม้กลางป่า ด้วย ไม้ฝา เอสซีจี สีสักทอง ที่ถ่ายทอดอารมณ์เทียบเคียงไม้จริงได้อย่างลงตัว >ผนังไม้เทียม ผนังไม้ฝา ไม้ฝา SCG ไม้ฝาสมาร์ทวูด สมาร์ทวูด ไม้ฝาบังใบSCG >ภาพ: แต่งผนังห้องนั่งเล่นให้สวยหวานสไตล์วินเทจ ด้วยไม้ฝา เอสซีจี รุ่นบังใบ ทาสีฟ้าพาสเทล ที่นำมาติดตั้งในแนวตั้ง >ผนังไม้เทียม ผนังไม้ฝา ไม้ฝา SCG ไม้ฝาสมาร์ทวูด สมาร์ทวูด >ภาพ: แต่งผนังภายนอกให้สวยในสไตล์โคโลเนียล ด้วยไม้ฝา เอสซีจี รุ่นโคโลเนียล ในโทนสีอบอุ่นอย่างสีงาช้าง >ผนังไม้เทียม ผนังไม้ฝา ไม้ฝา SCG คูลพลัส ไม้ฝาสมาร์ทวูด สมาร์ทวูด วินเทจ >ภาพ: ช่วยลดความร้อนที่จะเข้าสู่ตัวบ้าน ด้วย ไม้ฝา เอสซีจี สีเทาแพลตินัม รุ่น คูลพลัส สนใจ ผนังภายนอก ไม้ฝา/ไม้ตกแต่ง เอสซีจี พร้อมติดตั้ง คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >## 3. ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิน่า >เป็นไม้ตกแต่งผนังที่ดูทันสมัยด้วยการเล่นระดับสูงต่ำของการออกแบบ ช่วยเพิ่มมิติให้การตกแต่งผนังโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ ผลิตจากไฟเบอร์ซีเมนต์จึงมีความแข็งแรง ทนทาน ปลวกไม่กิน สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลาย ทั้งงานตกแต่งภายนอกและภายในอาคารเหมือนอย่างเช่น 2 วัสดุที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น ระบบการติดตั้งเป็นแบบบังใบและคลิปล็อก จึงช่วยปกปิดหัวสกรู สามารถติดตั้งได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน >ผนังโมดิน่า โมดิน่า SCG Modeena ไม้ตกแต่ง SCGโมดิน่า modina SCG ไม้โมดิน่า >ภาพ: ผนังด้านขวาตกแต่งด้วย ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิน่า วางลายตามตั้ง ให้ความรู้สึกที่ทันสมัยและเรียบง่ายในเวลาเดียวกัน >ผนังโมดิน่า โมดิน่า SCG Modeena ไม้ตกแต่ง SCGโมดิน่า modina SCG ไม้โมดิน่า >ภาพ: เปลี่ยนผนังภายนอกบ้านให้มีลูกเล่นมากขึ้นด้วย ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิน่า ที่ช่วยให้ผนังดูมีมิติ และเพิ่มความโมเดิร์นให้บ้านได้เป็นอย่างดี >ผนังโมดิน่า โมดิน่า SCG Modeena ไม้ตกแต่ง SCGโมดิน่า modina SCG ไม้โมดิน่า >ภาพ: ตกแต่งผนังในส่วนพื้นที่นั่งเล่นข้างบ้านให้โดดเด่นด้วย ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิน่า ที่นำมาติดตั้งในแนวนอน และเล่นระดับเฉดสีอ่อนสลับเข้ม >ผนังโมดิน่า โมดิน่า SCG Modeena ไม้ตกแต่ง SCGโมดิน่า modina SCG ไม้โมดิน่า >ภาพ: ตกแต่งผนังชั้นสองของบ้านด้วย ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิน่า ทำสีน้ำตาล เพิ่มรายละเอียดที่น่าสนใจในสไตล์ที่ดูเป็นธรรมชาติ สนใจ ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิน่า คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >## 4. ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น วูด-ดี >ผนังไม้ฝาไฟเบอร์ซีเมนต์พิมพ์ลายดิจิทัล (Digital Printing) ให้ความสมจริงของลวดลายและสีสันที่เหมือนไม้จริง สีสวยทนทานนานกว่า 5 ปีด้วยเทคโนโลยีการเคลือบผิวเฉพาะ สามารถใช้ตกแต่งได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ใช้ตกแต่งผนังและฝ้าเพดาน >หน้าบ้านสวยโดดเด่น >ภาพ: หน้าบ้านสวยโดดเด่นด้วย ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น วูด-ดี ไทย ทีค ซีรีย์ สีสัก >เพิ่มดีไซน์ให้บ้าน >ภาพ: เพิ่มดีไซน์ให้บ้านสวยสว่างด้วย ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น วูด-ดี เท็กซัส วูด ซีรีย์ สีเบจ >ลดความแข็งของบ้านโมเดิร์น >ภาพ: ลดความแข็งของบ้านโมเดิร์นด้วย ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น วูด-ดี ไทย ทีค ซีรีย์ สีสัก >ห้องนั่งเล่นอบอุ่นสบายตา >ภาพ: ห้องนั่งเล่นอบอุ่นสบายตาด้วย ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น วูด-ดี ไทย ทีค เซาะร่อง สนใจ ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น วูด-ดี คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >## 5. ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น โคเต้ >เป็นผนังบังใบสีสำเร็จ สวยมีมิติด้วยลายเสี้ยนไม้ไล่เฉดสีที่เป็นสีโปร่งแสง มีสองเฉดสีให้เลือกใช้ สีวอร์มเกรย์สไตล์โมเดิร์น และสีโคซี่บีชสไตล์มินิมอล เซาะร่อง 4 นิ้วกลางแผ่น ร่องสวยมีดีไซน์รูปคางหมู เอกลักษณ์เฉพาะเอสซีจี ติดตั้งด้วยระบบคลิปล็อคทำให้ผนังเรียบเนียนสวยงามไร้รอยหัวสกรู >ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น โคเต้ สีโคซี่บีช >ภาพ: บ้านโมเดิร์นอบอุ่นด้วย ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น โคเต้ สีโคซี่บีช >ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น โคเต้ สีวอร์มเกรย์ >ภาพ: บ้านนอร์ดิกลุคทันสมัยด้วย ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น โคเต้ สีวอร์มเกรย์ สนใจ ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น โคเต้ คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >## 6. ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิช >ผนังตกแต่งเซาะร่องดีไซน์ใหม่ (Splendid Curve Design) เพิ่มมิติให้ผนังตื้น-ลึกเด่นชัดกว่า ด้วยเทคโนโลยี X-Trusion มีรูปลอนให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ Modish-V: ลอนสามเหลี่ยม และ Modish-U: ลอนโค้งครึ่งวงกลม สามารถใช้ตกแต่งได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ใช้ตกแต่งผนังและฝ้าเพดาน ติดตั้งได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน มีบังใบช่วยซ่อนหัวสกรูและอุปกรณ์คลิปล็อค ได้งานสวยเนี้ยบเรียบร้อย >ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิช-วี >ภาพ: ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิช-วี ให้ลอนสามเหลี่ยม โฉบเฉี่ยว สวยคม โดดเด่น >เพิ่มมิติให้กับผนังด้วย ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิช-วี >ภาพ: เพิ่มมิติให้กับผนังด้วย ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิช-วี >ตกแต่ง Facade สวยด้วย ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิช-วี >ภาพ: ตกแต่ง Facade สวยด้วย ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิช-วี >ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิช-ยู >ภาพ: ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิช-ยู ให้ลอนโค้งครึ่งวงกลม สร้างสุนทรียศาสตร์ให้งานออกแบบ >เพิ่มลอนให้ผนังเรียบดูมีดีไซน์ >ภาพ: เพิ่มลอนให้ผนังเรียบดูมีดีไซน์ด้วย ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิช-ยู สนใจ ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิช คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >## 7. ผนังบังใบ เอสซีจี รุ่นรัสติค >ผนังไม้ฝา ลายเสี้ยนไม้สมจริงให้อารมณ์ธรรมชาติ ด้วยลายเสี้ยนชัดลึก เป็นเส้นยาวและถี่ แม้ทาสีก็ยังเห็นลาย ใช้ตกแต่งผนังได้ทั้งภายนอกและภายใน มีระยะบังใบที่ยาวพิเศษซ่อนหัวสกรูได้พอดี ให้ผนังแนบสนิทเป็นผืนเดียวกันไม่ต้องกังวลเรื่องการเก็บงาน ทาสีได้ตามสไตล์ที่ต้องการ >ผนังบังใบ เอสซีจี รุ่นรัสติค ทำสีเทาเข้ม >ภาพ: ให้บ้านสวยมีสไตล์ด้วย ผนังบังใบ เอสซีจี รุ่นรัสติค ทำสีเทาเข้ม >ผนังบังใบ เอสซีจี รุ่นรัสติค ทำสีเทาขาว >ภาพ: ให้อารมณ์บ้านไม้เรียบๆ ดูน้อยแต่ทันสมัยด้วย ผนังบังใบ เอสซีจี รุ่นรัสติค ทำสีเทาขาว สนใจ ผนังบังใบ เอสซีจี รุ่นรัสติค คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >## 8. ซีเมนต์บอร์ด เอสซีจี >เป็นแผ่นไม้อัดซีเมนต์ (Wood Cement Board หรือ Cement Bonded Particle Board) ประกอบด้วยปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ผสมกับชิ้นไม้ขนาดเล็ก โดยพื้นผิวทั้งสองด้านจะเหมือนผิวปูนเปลือยเรียบเนียนสวยงาม ตรงกลางเป็นชั้นของชิ้นไม้ผสมกับเนื้อปูน ดังนั้นจึงเหมาะกับงานตกแต่งเสมือนผนังปูนเปลือย ดิบเท่ สไตล์ลอฟต์ ใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ติดตั้งง่ายจบงานไว เพราะมาเป็นแผ่นขนาด 120 x 240 ซม. >ผนังตกแต่งสไตล์ลอฟต์ >ภาพ: ผนังตกแต่งสไตล์ลอฟต์ >ตกแต่งผนังหัวเตียงแนวดิบเท่ >ภาพ: ตกแต่งผนังหัวเตียงแนวดิบเท่ >ผนังภายนอกอาคารสวยเท่จบงานไว >ภาพ: ผนังภายนอกอาคารสวยเท่จบงานไว สนใจ ซีเมนต์บอร์ด เอสซีจี คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >## 9. กระเบื้องคอนกรีตตกแต่งผนัง เอสซีจี >ตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบการแต่งบ้านในสไตล์ลอฟต์ ด้วยกระเบื้องคอนกรีตตกแต่งผนังที่ถูกออกแบบให้มีความดิบเท่ จากลวดลายของอิฐโบราณก่อแบบโชว์แนว มีการใส่ดินมวลเบาลงไปในตัวก้อน เพื่อลดน้ำหนักของตัวก้อน ทำให้ติดตั้งง่าย >กระเบื้องคอนกรีตตกแต่งผนัง SCG กระเบื้องคอนกรีต scg กระเบื้องแต่งผนัง >ภาพ: ตกแต่งผนังห้องนั่งเล่นให้เท่ แฝงไว้ด้วยความเคร่งขรึม ด้วย กระเบื้องคอนกรีตตกแต่งผนัง เอสซีจี รุ่น ทรู เนเจอร์ โอลด์บริค สีดำ >กระเบื้องคอนกรีตตกแต่งผนัง SCG กระเบื้องคอนกรีต scg กระเบื้องแต่งผนัง >ภาพ: เพิ่มเสน่ห์ให้กับห้องทานข้าว ด้วยลวดลายและสีสันแบบอิฐโบราณก่อโชว์แนวของ กระเบื้องคอนกรีตตกแต่งผนัง เอสซีจี รุ่น ทรู เนเจอร์ โอลด์บริค สีส้ม >กระเบื้องคอนกรีตตกแต่งผนัง SCG กระเบื้องคอนกรีต scg กระเบื้องแต่งผนัง >ภาพ: แต่งผนังภายนอกบ้านให้เป็นมุมพักผ่อนในสวนสไตล์อังกฤษ ด้วยกระเบื้องคอนกรีตตกแต่งผนัง เอสซีจี รุ่น ทรู เนเจอร์ โอลด์บริค สีขาว >. >## 10. แต่งผนังปูนฉาบด้วย เสือ เดคอร์ ปูนซีเมนต์สำเร็จรูป >เปลี่ยนผนังเรียบๆ ธรรมดาๆ ให้ดูดิบเท่สไตล์ลอฟท์ หรือตกแต่งให้มีสีสันสดใส ด้วย เสือเดคอร์ ฉาบสีผิวเรียบ, ฉาบสีเท็กซ์เจอร์ และ เสือ เดคอร์ โพลิเมอร์ซีเมนต์ Loft Wall สำหรับการฉาบตกแต่งผนังขั้นสุดท้าย สามารถนำมาสร้างสรรค์ลวดลายปลี่ยนบรรยากาศของห้องได้แบบไม่รู้จบ >และผนังตกแต่งอีก 2 แบบที่น่าสนใจ ผลิตมาจากหินอ่อนที่บดย่อยให้มีขนาดพอเหมาะสำหรับการแต่งผนังที่ต้องการใช้งานร่วมกับ ปูนซีเมนต์ขาว เสือ เดคอร์ ฉาบตกแต่ง ได้แก่ งานเทอร์ราซโซ (เม็ดหินชัดเจน) และงานมาเบิ้ลเรนเดอร์ (หินละเอียดเหมือนเม็ดทราย) สามารถนำมาออกแบบลวดลายได้อย่างอิสระตามต้องการ ไม่ว่าจะชื่นชอบสไตล์ไหนก็สามารถตอบโจทย์ได้อย่างมีเอกลักษณ์ >ปูนลอฟท์ สกิมโค้ท ฉาบปูนลอฟ skim coat สีปูนเปลือย สีลอฟท์ loft ทาผนัง ปูน loft ผนังปูนสี เสือ เดคอร์ โพลิเมอร์ ซีเมนต์ >ภาพ: เติมความสดใสให้ผนังห้องนั่งเล่น ด้วย เสือ เดคอร์ Color Skim Coat ฉาบสีผิวเรียบ โดยใช้สีเหลืองเป็นสีรองพื้น และฉาบสีฟ้าตามขณะที่ปูนยังมีเนื้อหมาดๆ จนเกิดลวดลายสนุกๆ >ปูนลอฟท์ สกิมโค้ท ผนังปูนขัดมัน ฉาบปูนลอฟ skim coat สีปูนเปลือย สีลอฟท์ loft ทาผนัง ปูน loft ผนังปูนสี เสือ เดคอร์ โพลิเมอร์ ซีเมนต์ >ภาพ: แต่งผนังห้องนั่งเล่นให้ดูน่าสนใจ ด้วย เสือ เดคอร์ Color Skim Coat ฉาบสีผิวเรียบ สีขาว ทาทับด้วยสีน้ำอะคริลิกสีส้ม จากนั้นขัดด้วยกระดาษทราย ก็จะได้ผนังที่มีลวดลายและผิวสัมผัสที่ไม่เหมือนใคร >ปูนลอฟท์ ผนังปูนขัดมัน ฉาบปูนลอฟ skim coat สีปูนเปลือย สีลอฟท์ loft ทาผนัง ปูน loft ผนังปูนสี เสือ เดคอร์ โพลิเมอร์ ซีเมนต์ >ภาพ: มุมนั่งเล่นกับผนังภายนอกสีสันโดดเด่นด้วย เสือ เดคอร์ Texture Render ฉาบสีเท็กซ์เจอร์ สีแดง ใช้เทคนิคการทำลวดลายริ้วหิน >ปูนลอฟท์ ผนังปูนขัดมัน ฉาบปูนลอฟ สีปูนเปลือย สีลอฟท์ loft ทาผนัง ปูน loft เสือ เดคอร์ โพลิเมอร์ ซีเมนต์ >ภาพ: ตกแต่งผนังโรงจอดรถให้ดิบเท่ด้วย เสือ เดคอร์ โพลิเมอร์ซีเมนต์ ลอฟท์วอลล์ สีเทาเข้ม และเพิ่มลูกเล่นด้วยการเจาะผนังให้เป็นช่องซ่อนเพื่อเก็บของ >ผนังกรวดล้าง ผนังทรายล้าง มาร์เบิ้ล เรนเดอร์ scg marble render SCG >ภาพ: เพิ่มความน่าสนใจให้กับผนังสไตล์โมเดิร์น ด้วยแพทเทิร์นและการใช้โทนสีเทาเข้มสลับกับเทาอ่อน จาก เสือ เดคอร์ ปูนซีเมนต์สำเร็จรูป มาเบิ้ลเรนเดอร์ >ผนังกรวดล้าง ผนังทรายล้าง มาร์เบิ้ล เรนเดอร์ scg marble render SCG >ภาพ: กำแพงบ้านที่ตกแต่งด้วย เสือ เดคอร์ ปูนซีเมนต์สำเร็จรูป มาเบิ้ลเรนเดอร์ กับแพทเทิร์นที่ดูเรียบง่าย ทันสมัย เสริมให้พื้นที่พักผ่อนภายนอกบ้านน่านั่งมากยิ่งขึ้น >ผนังกรวดล้าง ผนังทรายล้าง มาร์เบิ้ล เรนเดอร์ scg marble render SCG >ภาพ: สร้างแพทเทิร์นที่โดดเด่นและสนุกสนานให้กับกำแพงบ้าน ด้วยสีสันและรูปทรงเรขาคณิต จาก เสือ เดคอร์ ปูนซีเมนต์สำเร็จรูป มาเบิ้ลเรนเดอร์ สนใจ บริการฉาบผนังปูนซีเมนต์ตกแต่ง คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. ตกแต่งผนังกรวดล้าง ทรายล้าง มาเบิ้ลเรนเดอร์ คลิก\{.button .newtab} {.centered}
เล่าถึงข้อดีของการฝึกพิลาทิส ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสมาธิ เหมาะกับทั้งบุคคลทั่วไป ผู้สูงวัย รวมไปถึงนักกีฬา ผู้ที่มีปัญหาปวดเมื่อยร่างกาย > พิลาทิส (Pilates) เป็นอีกหนึ่งรูปแบบการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยม ช่วยเสริมสร้างสุขภาพทั้งกาย สุขภาพจิต รวมไปถึงคุณภาพการหายใจ และยังเป็นการฝึกสมาธิในตัวด้วย ใครที่สงสัยว่าประโยชน์หลากหลายจากการฝึกพิลาทิสที่ว่านี้มีรายละเอียดเป็นอย่างไร สรุปมาให้แล้วใน 10 ข้อตามนี้เลย > 1. เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว (Core Muscles) > การฝึกพิลาทิสอย่างสม่ำเสมอจะทำให้เรามีแกนกลางลำตัวที่แข็งแรง ทั้งกล้ามเนื้อหน้าท้อง กล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง และกล้ามเนื้อสะโพก ส่งผลให้มีท่าทางที่ดีขึ้น ลดอาการปวดหลัง และสามารถเคลื่อนไหวท่าทางต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ > 2. ปรับปรุงร่างกายให้มีท่าทางที่ถูกต้องและทรงตัวได้ดี > การฝึกพิลาทิสช่วยสร้างความตระหนักรู้ในร่างกาย (Body Awareness) และการจัดวางร่างกายที่ถูกต้องขณะฝึก ทำให้เรามีท่าทางที่ดีขึ้นโดยธรรมชาติ และช่วยยืดกล้ามเนื้อที่หดสั้นรวมถึงเสริมสร้างกล้ามเนื้อที่อ่อนแอ เพิ่มความสมดุลของโครงสร้างร่างกายให้เรามีท่วงท่าสง่างาม ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงอาการบาดเจ็บที่เกิดจากการมีท่าทางที่ไม่ถูกต้อง เช่น อาการปวดบริเวณช่วงไหล่ คอ หรือปวดหลังเรื้อรัง > 3. เพิ่มความยืดหยุ่นคล่องตัวของร่างกาย > ท่าทางที่ใช้ในการฝึกพิลาทิสจะเน้นการเคลื่อนไหวแบบควบคุมและการยืดกล้ามเนื้อขณะมีแรงต้าน จึงได้ทั้ง “ความยืดหยุ่น” และ “ความแข็งแรง” ไปในขณะเดียวกัน ร่างกายที่ยืดหยุ่นดีช่วยให้เคลื่อนไหวได้คล่องแคล่ว ลดความเสี่ยงการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา ออกกำลังกาย และกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ทั้งยังช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยบริเวณกล้ามเนื้อและข้อต่อได้ด้วย > Pilates พิลาทิส เครื่องพิลาทิส พิลาทีส > เลือกซื้อ เครื่องออกกำลังพิลาทิส คลิก\{.button .newtab} {.centered} > 4. พัฒนาการหายใจและการไหลเวียนของเลือด > การฝึกพิลาทิสเน้นการหายใจที่ลึกและถูกต้อง เป็นการเพิ่มออกซิเจนในเลือด ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น จึงช่วยเร่งกระบวนการฟื้นฟูของร่างกาย ลดอาการบวมน้ำ และเพิ่มประสิทธิภาพการขจัดของเสียออกจากร่างกาย นอกจากนี้ การหายใจอย่างถูกวิธียังช่วยเพิ่มสมาธิ ลดความเครียด และทำให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลายขึ้น > 5. ส่งเสริมสุขภาพจิต ลดความเครียด > การฝึกพิลาทิสจะเน้นให้ผู้ฝึกมีการเชื่อมโยงระหว่างร่างกายกับจิตใจ โดยจดจ่อสมาธิเข้ากับการเคลื่อนไหวและลมหายใจ ช่วยลดความเครียด วิตกกังวล หากฝึกสม่ำเเสมอจะช่วยกระตุ้นการหลั่งเอนดอร์ฟิน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุขในร่างกาย เสริมสร้างพลัง ทำให้อารมณ์ดีขึ้น เพิ่มคุณภาพการนอนหลับ และเมื่อเห็นพัฒนาการทางร่างกายที่ดูดีขึ้นจากการฝึกสม่ำเสมอ ก็จะทำให้เรารู้สึกมั่นใจต่อภาพลักษณ์ของตนเองด้วย > 6. ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงได้โดยไม่ต้องมีกล้ามเนื้อขนาดใหญ่ > สำหรับผู้ที่ต้องการมีรูปร่างกระชับแบบไม่ดูบึกบึน การฝึกพิลาทิสถือว่าตอบโจทย์ เพราะเน้นการใช้น้ำหนักตัวเองและแรงต้านจากอุปกรณ์เฉพาะ ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง กระชับ และยืดหยุ่น ต่างจากการเพิ่มของกล้ามเนื้อที่ดูมีขนาดใหญ่ขึ้นจากการยกน้ำหนัก > 7. ปรับปรุงการทำงานของระบบย่อยอาหารและการขับถ่าย > การฝึกพิลาทิสเน้นการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว ซึ่งรวมถึงกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องและอุ้งเชิงกราน เป็นการช่วยนวดอวัยวะภายในและกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหารไปในตัว และสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องการขับถ่าย เช่น ผู้สูงอายุที่กลั้นปัสสาวะยาก คุณแม่ที่เพิ่งคลอดบุตร การฝึกพิลาทิสสม่ำเสมอยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ซึ่งมีส่วนสำคัญในการควบคุมการขับถ่ายด้วย > Pilates พิลาทิส เครื่องพิลาทิส พิลาทีส > เลือกซื้อ เครื่องออกกำลังพิลาทิส คลิก\{.button .newtab} {.centered} > 8. ช่วยฟื้นฟูและป้องกันการบาดเจ็บ > ท่วงท่าในการการฝึกพิลาทิส จะเน้นการควบคุมและการทำงานที่ประสานกันของกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย ซึ่งช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่นอย่างสมดุล ช่วยฟื้นฟูและป้องกันร่างกายจากบาดเจ็บได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักกายภาพบำบัดและแพทย์หลายท่านจึงใช้พิลาทิส เป็นส่วนหนึ่งของการฟื้นฟูอาการบาดเจ็บที่หลัง คอ ไหล่ หรือเข่า เนื่องจากสามารถปรับระดับความหนักเบาได้ตามความเหมาะสมของผู้ป่วย > 9. มีส่วนช่วยในการส่งเสริมสมรรถภาพทางเพศ > การฝึกพิลาทิส ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อการควบคุมการทำงานของอวัยวะเพศและความรู้สึกทางเพศ ส่งเสริมประสบการณ์ด้านกิจกรรมทางเพศที่ดีขึ้น นอกจากนี้ความยืดหยุ่นและการไหลเวียนของเลือดที่ดีขึ้นจากการฝึกพิลาทิส ยังส่งผลดีต่อสุขภาพทางเพศโดยรวมได้ > 10. ช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย และสมองในผู้สูงอายุ > การฝึกพิลาทิสในผู้สูงอายุ ช่วยรักษามวลกระดูก เพิ่มความหนาแน่นของกระดูก ซึ่งสำคัญมากในการป้องกันโรคกระดูกพรุน ช่วยให้ร่างกายยืดหยุ่น เคลื่อนไหวคล่องแคล่วและเป็นอิสระ กล้ามเนื้อแข็งแรง ทรงตัวดี ลดความเสี่ยงต่อการหกล้ม นอกจากนี้ การฝึกพิลาทิสยังพัฒนาเรื่องสมาธิและการหายใจไปในตัว ช่วยส่งเสริมเรื่องสุขภาพจิตและความจำได้ > จะเห็นได้ว่าการฝึกพิลาทิส เป็นรูปการออกกำลังกายที่มีประโยชน์หลากหลาย เสริมสร้างความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และยังมีส่วนช่วยในการปรับปรุงสุขภาพโดยรวม ทั้งทางร่างกายและจิตใจ อย่างไรก็ตาม การฝึกพิลาทิสช่วงแรกควรอยู่ในความดูแลของครูผู้สอนที่มีประสบการณ์ ยิ่งถ้าเรามีปัญหาสุขภาพหรืออาการบาดเจ็บอยู่ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ประโยชน์จากการฝึกอย่างเต็มที่และ และป้องการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นจากการฝึกที่ผิดวิธี > Pilates พิลาทิส เครื่องพิลาทิส พิลาทีส > เลือกซื้อ เครื่องออกกำลังพิลาทิส คลิก\{.button .newtab} {.centered} > ขอบคุณข้อมูลจาก www.homefittools.com/
เล่าที่มาของครัวต่อเติมทรุด รวมถึงปัญหาที่ตามมาหลังจากครัวทรุด ทั้งการแตกร้าวของพื้นผนัง และปัญหาด้านโครงสร้าง > การต่อเติมครัวหลังบ้าน เป็นหนึ่งในการต่อเติมบ้านที่นิยมกันมาก ตามมาด้วย “ครัวต่อเติมทรุด” ที่มักกลายเป็นปัญหายอดนิยมด้วยเช่นกัน ซึ่งในวันนี้เราจะมาพูดถึงที่มาว่าทำไมครัวต่อเติมถึงทรุด และปัญหาที่ตามมาเมื่อครัวทรุดจะมีอะไรได้บ้าง > ครัวต่อเติมทรุดเพราะลงเสาเข็มสั้น > อธิบายกันก่อนว่าพื้นที่ทั่วไปที่ไม่ใช่บริเวณภูเขา ชั้นดินแข็งจะอยู่ลึกลงไปด้านล่าง สำหรับกทม. ปริมณฑล ส่วนใหญ่ชั้นดินแข็งจะอยู่ลึกประมาณ 17-23 ม. ส่วนดินที่อยู่เหนือจากนั้นขึ้นมาจนถึงผิวดินจะเป็นชั้นดินอ่อนซึ่งมีแรงพยุงน้อย การสร้างบ้านทั่วไปจึงต้องลงเสาเข็มให้ลึกไปถึงชั้นดินแข็งเพื่อพยุงบ้านไม่ให้ทรุดตัว การลงเสาเข็มต่อเติมครัวก็เช่นกัน หากไม่ลงลึกถึงชั้นดินแข็ง หรือไม่ได้ลงเสาเข็มเลย เหตุการณ์ครัวต่อเติมทรุดย่อมเกิดขึ้นได้ และมักตามมาซึ่งปัญหาต่างๆ ได้แก่... > ครัวต่อเติมทรุด พื้นผนังแยก แตกร้าว รั่วซึม > การต่อเติมครัวโดยลงเสาเข็มสั้นนั้น หากมีการหล่อพื้น ก่อผนัง ชนกับตัวบ้าน เมื่อครัวต่อเติมทรุด รอยต่อพื้นรวมถึงกระเบื้องพื้นและรอยต่อผนังมักเกิดการแตกร้าว แยกออก จนเกิดเป็นช่องทำให้น้ำรั่วซึมเข้ามาได้ และหากยึดโครงสร้างครัวต่อเติมไว้กับตัวบ้านก็มักจะเกิดการทรุดเอียง เนื่องจากครัวต่อเติมด้านที่ไม่ได้ยึดกับตัวบ้านจะถูกน้ำหนักดึงลงไปอย่างรวดเร็วมากกว่า > ครัวทรุด ครัวต่อเติมทรุด แก้ปัญหาครัวทรุด ต่อเติมครัว ต่อเติมครัวหลังบ้าน ภาพ: (ซ้าย) ส่วนต่อเติมทรุด แยกออกจากตัวบ้านเป็นช่องทางให้น้ำรั่ว รวมถึงฝุ่น แมลงเข้ามารบกวนจากภายนอกได้ และ (ขวา) ครัวต่อเติมทรุดจนกระเบื้องพื้นแตกร้าวและพื้นเอียงจนไม่สามารถปิดประตูได้ > บริการต่อเติมครัวโดยทีมงานมืออาชีพ จาก HomeSmile คลิก\{.button .newtab} {.centered} > โครงสร้างเสียหาย เพราะต่อเติมครัวยึดเข้ากับตัวบ้าน > การต่อเติมครัวโดยยึดโครงสร้างเข้ากับโครงสร้างบ้านเดิมนั้น นอกจากจะเกิดปัญหาการทรุดเอียง พื้นผนังแตกร้าวแล้ว อีกเรื่องสำคัญที่เจ้าของบ้านจะต้องตระหนักคือ โครงสร้างบ้านจะต้องรับภาระน้ำหนักส่วนต่อเติมที่เพิ่มมาโดยไม่ได้ถูกคำนวณไว้แต่แรก และเมื่อครัวต่อเติมทรุด โครงสร้างอาจถูกดึงรั้งกันจนเสียหาย นำมาซึ่งปัญหาอันตรายด้านโครงสร้างได้ในอนาคต > text ครัวทรุด ครัวต่อเติมทรุด แก้ปัญหาครัวทรุด ต่อเติมครัว ต่อเติมครัวหลังบ้าน ลงเสาเข็มต่อเติมครัว เสาเข็มต่อเติมบ้านภาพ: ครัวต่อเติมลงเสาเข็มสั้นยึดกับตัวบ้าน เมื่อครัวทรุดจะดึงรั้งตัวบ้านจนกระทบกับโครงสร้างได้ > ครัวทรุด ครัวต่อเติมทรุด แก้ปัญหาครัวทรุด ต่อเติมครัว ต่อเติมครัวหลังบ้าน ภาพ: รอยร้าวแนวเฉียงบนผนัง เป็นหนึ่งในสัญญาณแสดงปัญหาการทรุดที่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้าง ถือเป็นรอยร้าวอันตรายซึ่งควรรีบปรึกษาวิศวกร > แก้ปัญหาครัวต่อเติมทรุดแตกร้าว > รอยแตกร้าวบริเวณพื้น ผนังที่เกิดขึ้น อาจซ่อมแซมเฉพาะจุดโดยใช้วัสดุอุดยาแนวปิดรอยแตก ไปจนถึงทุบรื้อ ทำใหม่บางส่วนหรือทั้งหมด ขึ้นอยู่กับความเสียหายมากน้อยตามสภาพที่เกิดขึ้น ส่วนกรณีที่โครงสร้างบ้านเสียหายด้วยเพราะโดนส่วนต่อเติมดึงรั้ง ถือว่าอันตราย ควรรีบปรึกษาวิศวกรเพื่อทำการแก้ไขโดยเร็ว ต่อเติมครัวครั้งถัดไป กันไว้ดีกว่าแก้ > การลงเสาเข็มครัวต่อเติมเข็มให้ลึกถึงชั้นดินแข็งเพื่อป้องกันครัวต่อเติมทรุด ถือเป็นเรื่องดี กรณีพื้นที่จำกัดอาจเลือกเสาเข็มไมโครไพล์ซึ่งใช้เครื่องตอกขนาดเล็กและเกิดแรงสั่นสะเทือนน้อยกว่าเสาเข็มเจาะ แม้จะเป็นทางเลือกที่ค่าใช้จ่ายสูง แต่ก็ดูคุ้มค่าในระยะยาว อย่างไรก็ตาม หากเจ้าของบ้านไม่สะดวกจะจัดสรรงบประมาณในส่วนนี้ และยอมรับการทรุดในอนาคตได้ จะต้องปฏิบัติตามหลักการต่อเติมบ้านที่ถูกต้องอย่างเคร่งครัด นั่นคือ ส่วนต่อเติมกับตัวบ้านจะต้องแยกจากกันทั้งส่วนของวัสดุและโครงสร้าง หมายถึงจะต้องมีเสา คาน อีกชุดสำหรับรองรับส่วนต่อเติมทั้งหมด โดยไม่ไปฝากน้ำหนักไว้กับเสาคานของตัวบ้าน นอกจากนี้วัสดุต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น พื้น ผนัง ไม่ควรก่อหรือหล่อชนกับตัวบ้าน แต่ให้ใช้วัสดุที่ยืดหยุ่นได้ เช่น โฟมยาง คั่นรอยต่อแทน > เสาเข็มไมโครไพล์ ไมโครไพล์ micropile ลงเสาเข็มต่อเติมครัว เสาเข็มต่อเติมบ้าน ภาพ: การลงเสาเข็มไมโครไพล์ซึ่งใช้เครื่องมือตอกขนาดเล็ก เหมาะกับการต่อเติมบ้านในพื้นที่จำกัด ตัวเสาเข็มยาวท่อนละ 1.5 ม. สามารถตอกต่อกันลึกไปถึงชั้นดินแข็งได้ > ครัวทรุด ครัวต่อเติมทรุด แก้ปัญหาครัวทรุด ต่อเติมครัว ต่อเติมครัวหลังบ้าน ลงเสาเข็มต่อเติมครัว เสาเข็มต่อเติมบ้าน ภาพ: การต่อเติมครัวหรือต่อเติมบ้านแบบลงเสาเข็มสั้นสำหรับรองรับส่วนต่อเติมโดยเฉพาะ ไม่ฝากน้ำหนักไว้กับตัวบ้าน > ทั้งนี้ หลักการที่ว่าจะต้องแยกส่วนต่อเติมกับตัวบ้านนั้น ไม่ได้ใช้เฉพาะกรณีลงเสาเข็มสั้นอย่างเดียว แต่รวมถึงการต่อเติมบ้านโดยลงเสาเข็มลึกถึงชั้นดินแข็งด้วย เผื่อมีการการขยับเขยื้อนของชั้นดินในอนาคต โครงสร้างและฐานรากเสาเข็มของส่วนต่อเติมกับบ้านจะได้ไม่กระทบหรือสร้างความเสียหายซึ่งกันและกัน อีกข้อสำคัญที่จะลืมไม่ได้ คือการต่อเติมครัวหรือต่อเติมบ้านแต่ละครั้งควรเลือกทีมช่าง ผู้รับเหมา ที่มีความชำนาญ ทำงานได้มาตรฐานและต่อเติมอย่างถูกต้องตามหลักการ เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดปัญหาในระยะยาว > แก้ปัญหาครัวทรุด ต่อเติมครัว ต่อเติมครัวหลังบ้าน ลงเสาเข็มต่อเติมครัว เสาเข็มต่อเติมบ้าน ภาพ: ตัวอย่างการต่อเติมบ้านที่มีโครงสร้าง เสา คาน สำหรับรองรับน้ำหนักของส่วนต่อเติมโดยเฉพาะ โดยไม่มีการฝากน้ำหนักส่วนต่อเติมไว้กับตัวบ้าน (ขอบคุณภาพจาก HomeSmile) > บริการต่อเติมครัวโดยทีมงานมืออาชีพ จาก HomeSmile คลิก\{.button .newtab} {.centered} > อ่านเพิ่มเติม: จะต่อเติมครัวหลังบ้าน ลงเสาเข็มอย่างไรดี ?
รีโนเวตบ้านเก่าอายุกว่า 50 ปีให้ทันสมัยและตอบโจทย์การอยู่อาศัยของครอบครัว ด้วยแนวคิดหลักของการออกแบบที่ใช้แสงและลมธรรมชาติให้เกิดประโยชน์มากที่สุดบนบริบทต่าง ๆ ที่เป็นข้อจำกัด เพื่อให้เกิดสภาวะน่าสบายอย่างยั่งยืน >. >ใครจะนึกว่าบ้านเก่าที่ถูกปิดไว้มานานจะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง และรูปโฉมก็เปลี่ยนไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง จากบ้านชั้นเดียวกลายเป็นบ้าน 2 ชั้นที่ปลูกเต็มพื้นที่ แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะมีสวนเล็กๆ หน้าบ้านเพื่อใช้หย่อนใจและคอยต้อนรับผู้มาเยือน บ้านสไตล์โมเดิร์นทรอปิคอลกลิ่นอายญี่ปุ่นหลังนี้ มีชื่อว่า “บ้านแสงสบาย (Warmbright House)” เป็นบ้านหลังเล็กที่มีสมาชิกในบ้านเพียง 3 คน คือ คุณพ่อ คุณแม่ และลูกสาว โดยมีคุณพ่อซึ่งเป็นสถาปนิกรุ่นเก๋าทำหน้าที่หลักในการออกแบบปรับปรุงบ้าน พร้อมด้วยลูกสาวสถาปนิกป้ายแดงที่ช่วยกันเติมเต็มจนได้บ้านของครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ >สวนเล็กๆ หน้าบ้าน ภาพ: สวนเล็กๆ หน้าบ้านเพื่อหย่อนใจและคอยต้อนรับผู้มาเยือน >. >## แนวคิดหลักในการออกแบบปรับปรุง >บ้านหลังเดิมเป็นบ้านชั้นเดียวที่คุณแม่อยู่มาตั้งแต่เด็กกับคุณตา คุณยาย และพี่น้อง รวมกัน 5 คน พอโตขึ้นก็ขยับขยายแยกย้ายกันออกไปอยู่ที่อื่น ด้วยเพราะพื้นที่ใช้สอยที่ไม่เพียงพอ บ้านหลังนี้จึงถูกปิดไว้ไม่มีใครใช้งานราว 30 ปี จนกระทั่งคุณตาและคุณยายตัดสินใจยกให้หลานสาว ครอบครัวจึงคิดอยากรีโนเวตบ้านเพื่อให้กลับมาอยู่อาศัยได้เช่นเคย โดยมีแนวคิดหลักจากการแก้ปัญหาที่พบจากบ้านหลังเดิม ได้แก่ พื้นที่ใช้งานที่ไม่เพียงพอ แสงธรรมชาติที่เข้าถึงได้น้อย และพื้นที่ต่ำทำให้น้ำท่วมเข้าบ้านได้เวลาฝนตก >บ้านเดิมเป็นบ้านชั้นเดียว ภาพ: บ้านเดิมเป็นบ้านชั้นเดียว >ภายในบ้านเดิม ภาพ: ภายในบ้านเดิมที่มีแสงสว่างเข้ามาได้น้อย >. >ก่อนเริ่มต้นออกแบบ สถาปนิกให้ทีมงานเข้ามาสำรวจบ้านโดยละเอียดเพื่อตรวจสอบความแข็งแรงของโครงสร้าง และตัดสินใจใช้ระบบโครงสร้างฐานรากเดิมแทนการรื้อทั้งหมดเพื่อสร้างใหม่ เนื่องจากบ้านที่มีอายุกว่า 50 ปีหลังนี้ทรุดตัวเต็มที่หนาแน่นเพียงพอแล้วและยังช่วยลดขยะก่อสร้างด้วย โดยเพิ่มระดับความสูงของพื้นชั้นล่างเพื่อป้องกันน้ำท่วมถึง และเพิ่มพื้นที่ใช้สอยชั้นบนเป็นห้องนอน ห้องน้ำ และห้องทำงาน โครงสร้างใหม่ที่เพิ่มขึ้นทั้งโครงสร้างเหล็กและพื้นไม้ ถูกคำนวณวัสดุที่เลือกใช้ทั้งหมดให้มีน้ำหนักรวมไม่เกินน้ำหนักของบ้านเดิม ซึ่งสุดท้ายแล้ว ถึงแม้จะมีพื้นที่เพิ่มขึ้นมาอีก 1 ชั้น แต่น้ำหนักรวมของบ้านหลังใหม่นี้กลับน้อยกว่าเดิมถึง 1 ตัน >เตรียมพื้นที่เพิ่มระดับความสูง ภาพ: เตรียมพื้นที่เพิ่มระดับความสูงของพื้นชั้นล่างพร้อมวางงานระบบใหม่ >โครงสร้างเหล็ก ภาพ: โครงสร้างพื้นชั้นบนที่เพิ่มขึ้นใช้เป็นโครงสร้างเหล็ก >. >บ้านถูกออกแบบมาให้ทุกห้องมีแสงธรรมชาติเข้าถึงทั้งหมด ซึ่งถือเป็นแนวคิดหลักเพื่อแก้ปัญหาจากบ้านเดิมที่มีแสงเข้าได้น้อยเนื่องจากพื้นที่จำกัดและมีผนังใกล้กับเพื่อนบ้าน แสงจากทางทิศเหนือซึ่งเป็นทิศที่แสงแดดไม่ส่องเข้ามาโดยตรง จึงถูกนำมาใช้เป็นแสงสว่างหลักในบ้านทั้งหลังผ่าน “แผ่นหลังคาโปร่งแสง” ความน่าสนใจอยู่ที่รายละเอียดในการออกแบบเพื่อลดความร้อนที่ยังคงผ่านเข้ามาได้จากด้านบน ซึ่งสถาปนิกเลือกใช้แผ่นหลังคาโปร่งแสงซ้อนกัน 2 ชั้นคั่นด้วยโครงหลังคา เพื่อให้เกิดช่องว่างอากาศ (Air Gap) ตรงกลางเป็นฉนวนกันร้อนด่านแรก ระแนงไม้ใต้หลังคาเป็นฉนวนกันร้อนด่านต่อมาที่ช่วยกรองแสงให้ดูอบอุ่นรำไรคล้ายแสงที่ลอดผ่านพุ่มไม้ลงมาสร้างบรรยากาศที่สบายตา “ห้องทำงาน” ซึ่งเป็นห้องที่ใช้งานเป็นประจำและต้องการแสงที่ดีที่สุดถูกจัดวางไว้ทางทิศนี้ด้วย ส่วนแสงจากทางทิศใต้ที่ได้รับแสงแดดโดยตรงตลอดทั้งวัน ถูกนำมาใช้เป็นพลังงานไฟฟ้าทดแทนสำหรับใช้ในบ้านผ่าน “ระบบหลังคาโซลาร์” ...ทั้งหมดนี้จึงเป็นที่มาของชื่อ “บ้านแสงสบาย (Warmbright House)” นั่นเอง >แสงธรรมชาติเข้าได้ทั่วถึงภายในบ้าน ภาพ: แสงธรรมชาติเข้าได้ทั่วถึงภายในบ้านจากทางทิศเหนือผ่าน “แผ่นหลังคาโปร่งแสง” >ระบบหลังคาโซลาร์ ภาพ: เปลี่ยนแสงแดดทางทิศใต้เป็นพลังงานไฟฟ้าทดแทนผ่าน “ระบบหลังคาโซลาร์” >. >สนใจ บริการติดตั้งระบบหลังคาโซลาร์ คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >ลมธรรมชาติส่วนใหญ่ที่มาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ถูกดักเข้ามาใช้ถ่ายเทอากาศในบ้านผ่านระบบหน้าต่างบานเกล็ดปรับมุม ที่สามารถเปิดได้เต็มกรอบเพื่อให้ลมเข้าได้อย่างเต็มที่ และพัดออกทางด้านหน้าบ้านซึ่งเป็นหน้าต่างบานเปิดกว้างตลอดช่วงเสา ผนังภายในบ้านเกือบทั้งหมดถูกออกแบบให้เปิดในลักษณะ Wall to Wall เพื่อเปิดพื้นที่เชื่อมต่อระหว่างห้องได้อย่างอิสระ ไม่กีดขวางทางผ่านลม อากาศจึงสามารถผ่านและระบายออกไปได้อย่างต่อเนื่องตลอดวัน >หน้าต่างบานเกล็ดปรับมุม ภาพ: หน้าต่างบานเกล็ดปรับมุม ที่เปิดได้เต็มกรอบเพื่อให้ลมเข้าได้อย่างเต็มที่ >. >## การจัดการพื้นที่ >ถึงแม้พื้นที่ค่อนข้างจำกัด แต่ภายในบ้านถูกออกแบบอย่างมีสัดส่วนระหว่างพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่ส่วนรวม โดยพื้นที่ชั้นบนที่เพิ่มขึ้นมาเป็นพื้นที่ของห้องนอนสไตล์ญี่ปุ่นจำนวน 2 ห้องที่ใช้วิธีการปูฟูกนอนบนพื้นเสื่อทาทามิ ไม่มีการติดตั้งเตียงถาวร เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานพื้นที่ได้อย่างยืดหยุ่น โดยมีห้องทำงานด้านหน้าเชื่อมต่อกับห้องนอนฝั่งทิศเหนือ ในขณะที่ชั้นล่างเป็นห้องนั่งเล่น รับประทานอาหาร และครัวขนาดย่อม ที่ออกแบบในลักษณะ Open Plan เชื่อมโยงถึงกัน >โถงสูงแบบ Double Space 3 จุดถูกออกแบบมาให้ทำหน้าที่เชื่อมต่อแนวความคิดของบ้านหลังนี้ “โถงกลาง” ซึ่งเป็นโถงหลักที่สูงที่สุดเชื่อมโยงพื้นที่ชั้นบนกับชั้นล่าง ผู้ที่อยู่ชั้น 2 สามารถมองเห็นกิจกรรมด้านล่างได้ ทั้งยังเป็นโถงที่นำแสงสว่างและลมผ่านเข้ามามากที่สุดด้วย ส่วน “โถงทางทิศใต้” และ “โถงทางทิศเหนือ” ช่วยให้แสงส่องลงมาชั้นล่างได้อย่างทั่วถึง ช่องเปิดที่ผนังก็ทำให้ลมพัดพาเอาความร้อนที่ลอยตัวสูงขึ้นด้านบนจากทิศใต้ออกทางทิศเหนือได้อย่างสม่ำเสมอ ภายในบ้านหลังนี้จึงดูโปร่งกว้าง สบายกาย สบายตากว่าที่จินตนาการได้เมื่อมองจากภายนอก >ห้องนอนสไตล์ญี่ปุ่น ภาพ: ห้องนอนสไตล์ญี่ปุ่นเชื่อมต่อกับห้องทำงานด้านหน้าบ้านในทิศเหนือ >แสงที่ส่องลงมาจากโถงกลางและโถงทิศใต้ ภาพ: แสงที่ส่องลงมาจากโถงกลางและโถงทิศใต้ ช่วยให้บ้านสว่างสบายตา >. >## การเลือกใช้วัสดุ >หลังคาบ้านเลือกใช้ “แผ่นหลังคาโปร่งแสง” เพราะต้องการให้แสงภายนอกเข้าถึงภายในบ้าน โดยทำหลังคาซ้อนกัน 2 ชั้นเพื่อสร้างช่องว่างตรงกลางเป็น Air Gap ลดการสะสมความร้อนที่จะถ่ายเทสู่ภายในบ้าน >ฝ้าเพดานทางด้านทิศเหนือที่ต้องการให้แสงเข้าถึง เลือกใช้ระแนงไม้ช่วยกรองแสงธรรมชาติที่ส่องผ่านหลังคาโปร่งแสงลงมาในบ้าน และยังลดความร้อนจากการปะทะแสงแดดโดยตรงได้ด้วย ส่วนด้านทิศใต้เลือกใช้ฝ้าเพดานทึบแบบมีฉนวนกันความร้อนในตัวเพื่อป้องกันความร้อนสะสมใต้หลังคา >ผนังใช้ “แผ่นสมาร์ทบอร์ด” เป็นหลัก เพราะน้ำหนักเบา แข็งแรงทนทาน ส่วนผนังกั้นระหว่างห้องเลือกใช้ฉากกั้น-มุ้งจีบที่สามารถเลื่อนเปิด-ปิดทั้งแบบทึบ-โปร่งได้ นอกจากช่วยทำให้พื้นที่เป็นสัดส่วนแล้ว ยังช่วยควบคุมระบบปรับอากาศได้ด้วย ผนังบางส่วนตกแต่งด้วยไม้ ซึ่งมีหลักการเลือกใช้ไม้จริงสำหรับพื้นที่ที่ต้องสัมผัส และไม้เทียม (Wood Plastic Composite) สำหรับส่วนที่อยู่สูงและต้องเจอกับแดดฝน เพราะไม่ต้องดูแลรักษา ไม่มีปัญหาความชื้นและปลวก >โครงสร้างหลัก (เสา คาน) ที่ต่อจากโครงสร้างเดิมเป็น “โครงสร้างเหล็ก” ส่วนโครงสร้างพื้นชั้นบนเลือกใช้ไม้จริง เพราะมีน้ำหนักเบาและให้ความรู้สึกเหมือนบ้านสมัยก่อน มีการนำไม้จากบ้านหลังเดิมมาใช้ทำพื้นชั้นบนบางส่วน รวมถึงลูกตั้งลูกนอนบันได และท็อปเคาน์เตอร์ครัว พื้นห้องนอนปูเสื่อทาทามิให้สไตล์บ้านญี่ปุ่นซึ่งช่วยปรับอุณหภูมิและความชื้นให้เหมาะสมด้วย >แผ่นหลังคาโปร่งแสง ภาพ: แผ่นหลังคาโปร่งแสงปูซ้อนกัน 2 ชั้น >ฝ้าระแนงไม้ ภาพ: ฝ้าระแนงไม้ช่วยกรองแสงที่ส่องลงมาในบ้าน >ผนังกั้นห้อง ภาพ: ผนังกั้นห้องสามารถเลื่อนเปิด-ปิดแบบทึบ-โปร่งได้ >พื้นชั้นบน ภาพ: พื้นชั้นบนเป็นโครงสร้างไม้และพื้นไม้จริง >บันได ท็อปเคาน์เตอร์ และชั้นลอยในครัว ภาพ: บันได รวมถึงท็อปเคาน์เตอร์ และชั้นลอยในครัว ใช้ไม้จากบ้านเดิม >. >การรีโนเวตบ้านถือเป็นความท้าทาย เพราะมีเงื่อนไขของบ้านเดิมที่ต้องศึกษาและออกแบบให้ลงตัวกับระบบโครงสร้างเดิม เปรียบเสมือนการเล่นจิ๊กซอว์ที่ต้องต่อให้ลงตำแหน่ง ต้องมีการแก้ปัญหาที่หน้างานตลอดเวลา เพราะอาจเจอสิ่งที่ไม่รู้มาก่อนเมื่อทำการรื้อบ้าน >การออกแบบ "บ้านแสงสบาย" ได้แสดงให้เห็นถึงการนำพลังงานธรรมชาติมาใช้เป็นแกนหลักในการสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยที่อยู่แล้วสบาย อบอุ่น และเชื่อมโยงกับธรรมชาติได้อย่างแท้จริง ผ่านการออกแบบจัดการแสงและลมอย่างละเอียดในทุกจุดของบ้าน >. >สนใจ หลังคาโปร่งแสง เอสซีจี คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >สนใจ ผนังสมาร์ทบอร์ด คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >สนใจ ไม้สังเคราะห์ ไม้เทียม คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >สนใจ พัดลมเพดาน คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >ขอขอบคุณ >เจ้าของบ้าน/สถาปนิก: คุณอนุชิต สุคนธทรัพย์ >ภรรยา: ดนัยยา สุคนธทรัพย์ >ลูกสาว: พิรัลพัชร สุคนธทรัพย์ >. >. >อ่านเพิ่มเติม: บ้านพร้อมบ่อปลาคาร์ปในฝัน | EASY KOI CENTER >อ่านเพิ่มเติม: รีโนเวตทาวน์เฮ้าส์ 2 ยูนิต เพื่อครอบครัวขนาดเล็กอยู่สบาย
รวมถามตอบหลังคาเมทัล เอสซีจี ในเรื่องความแตกต่างระหว่างหลังคาเมทัล เอสซีจี กับหลังคาเมทัลชีททั่วไป รุ่น/รูปแบบต่าง ๆ ที่มีจำหน่าย วิธีการใช้งาน ตลอดจนนวัตกรรมที่ช่วยกันร้อนกันเสียง >. >---------------------------------------------------------------- >### สารบัญบทความ >1) หลังคาเมทัลชีท มีข้อดีอย่างไร? >2) การใช้หลังคาเมทัลชีทต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง? >3) หลังคาเมทัลชีทในท้องตลาดมีกี่รูปแบบ และหลังคาเมทัล เอสซีจี มีรูปแบบใดบ้าง? >4) หลังคาเมทัล เอสซีจี ต่างกับหลังคาเมทัลชีทในท้องตลาดอย่างไร? >5) เทคโนโลยี Noise Shiled และ HeatTECH ที่ใช้กับหลังคาเมทัล เอสซีจี มีหลักการอย่างไร? >6) ใช้หลังคาเมทัล เอสซีจี ที่มีนวัตกรรมกันร้อนกันเสียงแล้ว แต่อยากติดฉนวนกันร้อนเพิ่ม แนะนำอย่างไร? >7) สำหรับบ้านพักอาศัยควรใช้หลังคาเมทัลชีทความหนาเท่าใด และความลาดชันหลังคาควรเป็นอย่างไร? >8) หากใช้หลังคาเมทัลชีทในพื้นที่ใกล้ทะเล จะเสี่ยงขึ้นสนิมหรือไม่? >9) หากใช้หลังคาเมทัลชีทไปแล้วต้องการเปลี่ยนสี สามารถพ่นสีทับได้หรือไม่? >---------------------------------------------------------------- >. >## 1) หลังคาเมทัลชีท มีข้อดีอย่างไร? >หลังคาเมทัลชีทเป็นวัสดุมุงหลังคาที่ทำจากโลหะ ส่วนใหญ่ผลิตจากเหล็กเคลือบอะลูมิเนียมและสังกะสี นำมารีดขึ้นรูปเป็นลอนต่าง ๆ ข้อดีของหลังคาเมทัลชีท ได้แก่ ติดตั้งง่าย รวดเร็ว น้ำหนักเบา ไม่เปลืองโครงสร้าง รอยต่อน้อย ลดความกังวลเรื่องการรั่วซึม และสามารถมุงหลังคาที่มีองศาต่ำได้ดี นอกจากนี้ยังมีรูปทรงลอนและสีให้เลือกหลากหลาย เหมาะสำหรับอาคารขนาดกลางถึงขนาดใหญ่อย่างโรงงาน บ้านสไตล์ลอฟต์หรือโมเดิร์น รวมถึงงานต่อเติมอย่างโรงจอดรถหรือกันสาด >หลังคาเมทัลชีทเป็นวัสดุมุงหลังคาที่ทำจากโลหะนำมารีดขึ้นรูปเป็นลอนต่าง ๆ >ภาพ: หลังคาเมทัลชีทเป็นวัสดุมุงหลังคาที่ทำจากโลหะนำมารีดขึ้นรูปเป็นลอนต่าง ๆ >. >## 2) การใช้หลังคาเมทัลชีทต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง? >หลังคาเมทัลชีทเป็นแผ่นโลหะที่มีลักษณะค่อนข้างบาง โดยธรรมชาติจะกันความร้อนและเสียงได้ไม่ดีเท่าที่ควร จึงควรเลือกใช้ฉนวนกันความร้อนและเสียงเพิ่มเติมใต้แผ่นหลังคา นอกจากนี้ ความลาดชันของหลังคาก็เป็นสิ่งสำคัญเพราะอาจก่อให้เกิดปัญหาน้ำรั่วซึมได้ ควรติดตั้งองศาหลังคาให้ถูกต้องตามที่ผู้ผลิตกำหนด >ติดตั้งหลังคาเมทัลชีทให้ได้องศาลาดชันตามที่ผู้ผลิตกำหนด >ภาพ: ติดตั้งหลังคาเมทัลชีทให้ได้องศาลาดชันตามที่ผู้ผลิตกำหนด >. >## 3) หลังคาเมทัลชีทในท้องตลาดมีกี่รูปแบบ และหลังคาเมทัล เอสซีจี มีรูปแบบใดบ้าง? >หลังคาเมทัลชีทในท้องตลาดมีรูปลอนให้เลือกใช้ไม่น้อยกว่า 10 รูปแบบ แต่ที่นิยมและพบได้มากคือลอนมาตรฐาน 3-5 สันลอน เช่น ลอน 760, ลอน 750, ลอน 720 ซึ่งเหมาะกับอาคารโรงงาน ส่วนบ้านพักอาศัยก็สามารถเลือกใช้ได้ตามความชอบและความเหมาะสม โดยส่วนใหญ่ได้แก่ ลอนมาตรฐาน ลอนสแนปล็อก ลอนตกแต่งต่าง ๆ การติดตั้งหลังคาเมทัลชีทมี 2 แบบ ที่นิยมใช้กันคือ (1) แบบยึดสกรู ซึ่งช่างทั่วไปทำได้และราคาประหยัดกว่าอีกแบบคือ (2) แบบคลิปล็อกร่วมกับการยึดสกรู ซึ่งสามารถซ่อนหัวสกรูได้ทั่วทั้งผืน ทำให้ดูสวยงามและช่วยลดการรั่วซึมด้วย ทั้งนี้ หากต้องการฉนวนกันร้อนกันเสียง ติดมากับแผ่นหลังคาเมทัลชีทเพิ่มเติม ก็สามารถสั่งผลิตได้ โดยวัสดุฉนวนที่นิยมใช้คือ PE, PU และ EPS โฟม >ตัวอย่างหลังคาเมทัลชีททั่วไป >ภาพ: ตัวอย่างหลังคาเมทัลชีททั่วไปในท้องตลาดที่ติดฉนวนมาในตัวเป็น PU โฟม ความหนา 1 นิ้ว >. >สำหรับหลังคาเมทัล เอสซีจี มีให้เลือก 3 รุ่น/รูปแบบ ได้แก่ รุ่น MATALUXE ลอน SSR760 – Noise Shield, รุ่น MATALUXE ลอน Snap Lock – Noise Shield และ รุ่น MATALUXE ลอน Step Tile – Stone Coat >หลังคาเมทัล เอสซีจี รุ่นต่างๆ >ภาพ: หลังคาเมทัล เอสซีจี รุ่นต่างๆ >. >## 4) หลังคาเมทัล เอสซีจี ต่างกับหลังคาเมทัลชีทในท้องตลาดอย่างไร? >หลังคาเมทัล เอสซีจี ใช้วัสดุและการเคลือบสีคุณภาพสูง มีความหนาเหล็กเริ่มต้นที่ 0.35 มม. ซึ่งเหมาะสำหรับบ้านพักอาศัย และมีเทคโนโลยีเฉพาะตัวที่ช่วยเสียงฝนตกกระทบและป้องกันความร้อน อย่าง Noise Sheild, HeatTECH และ Stone Coat ในแต่ละรุ่นดังนี้ >๐ รุ่น MATALUXE ลอน SSR760 – Noise Shield เป็นลอนมาตรฐาน 760 ติดตั้งแบบยึดสกรู เพิ่มนวัตกรรมป้องกันเสียงจากภายนอก ด้วยเทคโนโลยี Noise Shield ช่วยลดเสียงฝนตกกระทบตั้งแต่จุดกำเนิดบนหลังคา เมื่อเทียบกับหลังคาเมทัลชีทลอนทั่วไปถึง 9 เดซิเบล (dB) มีความหนาเหล็กไม่รวมชั้นเคลือบ 0.35 มม. (หากรวมชั้นเคลือบจะมีความหนา 0.50 มม.) >หลังคาเมทัล เอสซีจี รุ่น MATALUXE ลอน SSR760 – Noise Shield >ภาพ: หลังคาเมทัล เอสซีจี รุ่น MATALUXE ลอน SSR760 – Noise Shield >. >๐ รุ่น MATALUXE ลอน Snap Lock – Noise Shield เป็นลอนที่มีเอกลักษณ์ทันสมัย เหมาะกับบ้านสไตล์โมเดิร์น บ้านนอร์ดิก ติดตั้งโดยใช้สกรูร่วมกับระบบคลิปล็อก ซ่อนหัวสกรูทั่วทั้งผืน นอกจากมีนวัตกรรมป้องกันเสียงจากภายนอกด้วยเทคโนโลยี Noise Sheild แล้ว รุ่นนี้ยังเพิ่มฉนวนกันความร้อน รุ่น HeatTECH ด้วย ยิ่งช่วยลดเสียงได้มากกว่าเมื่อเทียบกับหลังคาเมทัลชีททั่วไปที่บุฉนวนถึง 14% มีความหนาเหล็กไม่รวมชั้นเคลือบ 0.35 มม. และ 0.50 มม. (หากรวมชั้นเคลือบจะมีความหนา 0.60 มม. และ 0.75 มม.) >หลังคาเมทัล เอสซีจี รุ่น MATALUXE ลอน Snap Lock – Noise Shield >ภาพ: หลังคาเมทัล เอสซีจี รุ่น MATALUXE ลอน Snap Lock – Noise Shield >. >๐ รุ่น MATALUXE ลอน Step Tile – Stone Coat เป็นลอนคล้ายกระเบื้องหลังคา ติดตั้งแบบยึดสกรูเพียงอย่างเดียว มีนวัตกรรมเคลือบสี Stone Coat ที่เป็นเม็ดหินเคลือบสีเซรามิก ช่วยลดปัญหาเสียงฝนกระทบบนผืนหลังคาเมื่อเทียบกับหลังคาเมทัลชีทลอนทั่วไปถึง 12 เดซิเบล (dB) และสะท้อนความร้อนที่เข้าสู่ภายในบ้าน มีความหนาเหล็กไม่รวมชั้นเคลือบ 0.35 มม. (หากรวมชั้นเคลือบจะมีความหนา 1.55-2.35 มม.) >หลังคาเมทัล เอสซีจี รุ่น MATALUXE ลอน Step Tile – Stone Coat >ภาพ: หลังคาเมทัล เอสซีจี รุ่น MATALUXE ลอน Step Tile – Stone Coat >. >## 5) เทคโนโลยี Noise Shiled และ HeatTECH ที่ใช้กับหลังคาเมทัล เอสซีจี มีหลักการอย่างไร? >๐ Noise Shiled เป็นเทคโนโลยีการเคลือบสีแบบพิเศษ ช่วยลดเสียงฝนตกกระทบและเสียงสะท้อนบนหลังคาเมทัลชีท ผลการทดสอบพบว่าช่วยลดเสียงฝนตกกระทบได้ถึง 14% เมื่อเทียบกับหลังคาเมทัลชีทบุฉนวน และช่วยลดเสียงได้ดีกว่าหลังคาเมทัลชีททั่วไปถึง 9 เดซิเบล (dB) >๐ HeatTECH เป็นการนำฉนวนกันความร้อนใยแก้วที่เอสซีจีพัฒนาขึ้นมาเพื่อติดตั้งเพิ่มเข้าใต้แผ่นหลังคา ช่วยลดอัตราการไหลเข้าของความร้อนได้ดีกว่าหลังคาเมทัลชีทลอนทั่วไปที่ติดฉนวนได้มากกว่าถึง 25% >ตัวอย่างหลังคาเมทัล เอสซีจี รุ่น MATALUXE ลอน Snap Lock – Noise Shield >ภาพ: ตัวอย่างหลังคาเมทัล เอสซีจี รุ่น MATALUXE ลอน Snap Lock – Noise Shield ที่มีทั้งเทคโนโลยี Noise Shield ช่วยลดเสียง และเทคโนโลยี HeatTECH ป้องกันความร้อน >. >## 6) สำหรับบ้านพักอาศัยควรใช้หลังคาเมทัลชีทความหนาเท่าใด และความลาดชันหลังคาควรเป็นอย่างไร? >สำหรับบ้านพักอาศัย ควรเลือกใช้หลังคาเมทัลชีทที่มีความหนาเหล็กก่อนเคลือบสีอย่างน้อย 0.35 มม. ซึ่งเป็นความหนาเริ่มต้นที่เหมาะสมกับการติดตั้งและความแข็งแรงในการใช้งาน ส่วนความลาดชันของหลังคาจะขึ้นอยู่กับรุ่น/รูปลอนของหลังคาเมทัลชีท และควรติดตั้งตามค่าความลาดชันที่ผู้ผลิตกำหนดเพื่อป้องกันปัญหาน้ำฝนรั่วซึม อย่างหลังคาเมทัล เอสซีจี จะกำหนดค่าความลาดชันหลังคาขั้นต่ำในการมุงหลังคาของแต่ละรุ่นไว้ ดังนี้ >๐ รุ่น MATALUXE ลอน SSR760 – Noise Shield ความลาดชันหลังคาขั้นต่ำ 5 องศา >๐ รุ่น MATALUXE ลอน Snap Lock – Noise Shield สำหรับทรงจั่วและทรงเพิงแหงน ความลาดชันหลังคาขั้นต่ำ 3 องศา และสำหรับหลังคาทรงปั้นหยา ความลาดชันหลังคาขั้นต่ำ 8 องศา >๐ รุ่น ลอน Step Tile25 - Stone Coat ความลาดชันหลังคาขั้นต่ำ 10 องศา >. >## 7) ใช้หลังคาเมทัล เอสซีจี ที่มีนวัตกรรมกันร้อนกันเสียงแล้ว แต่อยากติดฉนวนกันร้อนเพิ่ม แนะนำอย่างไร? >แนะนำให้ทำฝ้าเพดานใต้หลังคาเมทัลชีท แล้วนำฉนวนกันความร้อนมาติดตั้งบนฝ้าเพดาน ไม่ควรนำฉนวนมาติดเพิ่มใต้เมทัลชีทหรือฉีดโฟมใต้หลังคาเอง เพราะอาจทำให้ฉนวนหลุดร่วงง่าย >การติดตั้งฉนวนกันความร้อน เอสซีจี รุ่น STAY COOL ที่ฝ้าเพดานชั้นบน >ภาพ: การติดตั้งฉนวนกันความร้อน เอสซีจี รุ่น STAY COOL ที่ฝ้าเพดานชั้นบน >. >สนใจ ฉนวนกันความร้อน STAY COOL คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >## 8) หากใช้หลังคาเมทัลชีทในพื้นที่ใกล้ทะเล จะเสี่ยงขึ้นสนิมหรือไม่? >เนื่องจากวัสดุหลังคาเมทัลชีททำจากเหล็ก ไอทะเลหรือไอเกลืออาจทำปฏิกิริยากับหลังคาเหล็กและสกรู เป็นเหตุให้เกิดสนิมได้ง่ายกว่าการใช้งานในพื้นที่ทั่วไป ดังนั้น พื้นที่ใช้งานควรอยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลอย่างน้อย 2 กิโลเมตร เพื่อลดการเกิดสนิมเหล็กและยืดอายุการใช้งาน >. >## 9) หากใช้หลังคาเมทัลชีทไปแล้วต้องการเปลี่ยนสี สามารถพ่นสีทับได้หรือไม่? >หลังคาเมทัลชีทไม่ควรพ่นหรือทาสีทับเองหลังจากการติดตั้ง เนื่องจากสีจะไม่ทนทานเท่าการทำสีมาจากโรงงานและอาจไม่สวยงาม แนะนำให้เปลี่ยนใหม่หากต้องการเปลี่ยนสี >การพ่นหรือทำสีหลังคาเมทัลชีท >ภาพ: การพ่นหรือทำสีหลังคาเมทัลชีท สีอาจไม่ทนทานและไม่สวยงามเท่าการทำสีมาจากโรงงาน >. >สนใจ หลังคาเมทัลรูฟ เอสซีจี คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >อ่านเพิ่มเติม: 6 วิธีลดร้อนให้หลังคาเมทัลชีท\{.newtab} >อ่านเพิ่มเติม: อยากทำหลังคาเมทัลชีทแต่กลัวเสียงดังตอนฝนตก จะป้องกันแก้ไขยังไงดี ?\{.newtab}