รวมไอเดียตกแต่งผนังบ้าน ภายนอก ภายใน ด้วย 11 วัสดุจาก เอสซีจี ทั้งกลุ่มไม้เทียม ปูนฉาบ กระเบื้องคอนกรีต ผนังกรวดล้าง ทรายล้าง จะชื่นชอบสไตล์ไหนก็ตอบโจทย์ได้อย่างมีเอกลักษณ์ >ผนังบ้าน เป็นส่วนที่สามารถดึงดูดสายตา หรือเปลี่ยนอารมณ์และบรรยากาศให้กับบ้านได้เป็นอย่างดี หากใครกำลังมองหาไอเดียตกแต่งผนังบ้านอยู่ละก็ เราได้รวบรวมไอเดียตกแต่งผนังบ้านด้วย 11 วัสดุคุณภาพจาก เอสซีจี เชื่อว่าถ้าอ่านจบแล้ว คงได้ไอเดียกลับไปตกแต่งผนังทั้งภายในและภายนอกบ้านอย่างแน่นอน >. >## 1. ผนังสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี >แผ่นผนังสมาร์ทบอร์ด SCG ถือเป็นวัสดุที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลาย ทั้งในด้านงานโครงสร้างและงานตกแต่ง เนื่องจากเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงและยืดหยุ่นในตัว ผลิตจากไฟเบอร์ซีเมนต์ จึงมีคุณสมบัติเด่นคือ ไม่เป็นอาหารของปลวก อีกทั้งยังทนความเปียกชื้นได้ดี จึงสามารถใช้ได้ทั้งภายในและภายนอก >ผนังสมาร์ทบอร์ด SCG รัสติค แผ่นสมาร์ทบอร์ด ผนังสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี เดคคอร์ สมาร์ทบอร์ดSCG สมาร์ทบอร์ดลายไม้ >ภาพ: แต่งผนังสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี เดคคอร์ รุ่น รัสติค สวยงามให้ลุคที่เป็นธรรมชาติด้วยลายเสี้ยนไม้ที่ชัดลึก แม้ทาสีก็ยังเห็นลายเสี้ยนไม้ >ผนังสมาร์ทบอร์ด SCG รัสติค แผ่นสมาร์ทบอร์ด ผนังสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี เดคคอร์ สมาร์ทบอร์ดSCG สมาร์ทบอร์ดลายไม้ >ภาพ: เชื่อมสเปซให้เป็นหนึ่งเดียวกันด้วย ผนังสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี เดคคอร์ รุ่น รัสติค ที่ใช้ตกแต่งได้ทั้งผนังภายในและฝ้า เติมเต็มความอบอุ่นอย่างเป็นธรรมชาติด้วยลายเสี้ยนไม้ >สมาร์ทบอร์ด แผ่นสมาร์ทบอร์ด ผนังสมาร์ทบอร์ด SCG สมาร์ทบอร์ดSCG >ภาพ: ผนังตกแต่งด้วย แผ่นสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี ที่สั่งตัดพิเศษ นำมาวางเรียงตัวสอดประสานกันในแนวตั้ง เพื่อให้เกิดมิติผนังที่สวยงาม >สมาร์ทบอร์ด แผ่นสมาร์ทบอร์ด ผนังสมาร์ทบอร์ด SCG ชั้นวางของ สมาร์ทบอร์ดSCG >ภาพ: เพิ่มพื้นที่เก็บของให้ผนังห้องครัว โดยทำชั้นวางของจากแผ่นผนัง สมาร์ทบอร์ด เอสซีจี >สมาร์ทบอร์ด แผ่นสมาร์ทบอร์ด ผนังสมาร์ทบอร์ด SCG เซาะร่อง สมาร์ทบอร์ดSCG >ภาพ: ผนังภายนอกใช้ สมาร์ทบอร์ด เอสซีจี แบบเซาะร่อง ทาสีน้ำตาล ให้ลุคอบอุ่นคล้ายไม้ฝา >ผนังสมาร์ทบอร์ด SCG เว้นร่อง แผ่นสมาร์ทบอร์ด ผนังสมาร์ทบอร์ด สมาร์ทบอร์ดSCG >ภาพ: ติดตั้งแผ่นผนังสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี แบบเว้นร่อง เพิ่มลูกเล่นด้วยการเจาะช่องซ่อนไฟ ให้แสงตามรูปแบบที่ต้องการ สนใจ ปรึกษาออกแบบบ้านกับสถาปนิกผู้เชี่ยวชาญ คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >## 2. ไม้ฝา เอสซีจี >ไม้ฝา SCG เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของวัสดุทดแทนไม้ ผลิตจากไฟเบอร์ซีเมนต์ จึงมีความทนทาน ใช้งานได้ทั้งภายนอก-ภายใน และไม่เป็นอาหารของปลวก มีหลายผิวสัมผัสให้เลือก (ผิวเรียบ ลายไม้ ลายเสี้ยนไม้) เนื้อวัสดุเป็นสีซีเมนต์สามารถทาสีทับได้ตามต้องการ โดยบางรุ่นจะมีแบบเคลือบสีสำเร็จมาจากโรงงาน (ส่วนใหญ่จะเป็นสีน้ำตาลเฉดต่างๆ) และยังมีรุ่นที่ช่วยลดความร้อนให้กับบ้านด้วย เช่น ไม้ฝา เอสซีจี รุ่น คูลพลัส ที่ช่วยลดอุณหภูมิในบ้านได้สูงสุด 5 องศาเมื่อเทียบกับไม้ฝาทั่วไป >ผนังไม้เทียม ผนังไม้ฝา ไม้ฝา SCG ไม้ฝาสมาร์ทวูด สมาร์ทวูด >ภาพ: ให้บรรยากาศใกล้เคียงธรรมชาติสไตล์บ้านไม้กลางป่า ด้วย ไม้ฝา เอสซีจี สีสักทอง ที่ถ่ายทอดอารมณ์เทียบเคียงไม้จริงได้อย่างลงตัว >ผนังไม้เทียม ผนังไม้ฝา ไม้ฝา SCG ไม้ฝาสมาร์ทวูด สมาร์ทวูด ไม้ฝาบังใบSCG >ภาพ: แต่งผนังห้องนั่งเล่นให้สวยหวานสไตล์วินเทจ ด้วยไม้ฝา เอสซีจี รุ่นบังใบ ทาสีฟ้าพาสเทล ที่นำมาติดตั้งในแนวตั้ง >ผนังไม้เทียม ผนังไม้ฝา ไม้ฝา SCG ไม้ฝาสมาร์ทวูด สมาร์ทวูด >ภาพ: แต่งผนังภายนอกให้สวยในสไตล์โคโลเนียล ด้วยไม้ฝา เอสซีจี รุ่นโคโลเนียล ในโทนสีอบอุ่นอย่างสีงาช้าง >ผนังไม้เทียม ผนังไม้ฝา ไม้ฝา SCG คูลพลัส ไม้ฝาสมาร์ทวูด สมาร์ทวูด วินเทจ >ภาพ: ช่วยลดความร้อนที่จะเข้าสู่ตัวบ้าน ด้วย ไม้ฝา เอสซีจี สีเทาแพลตินัม รุ่น คูลพลัส สนใจ ผนังภายนอก ไม้ฝา/ไม้ตกแต่ง เอสซีจี พร้อมติดตั้ง คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >## 3. ไม้ตกแต่งผนัง เอสซีจี โมดิน่า >เป็นไม้ตกแต่งผนังที่ดูทันสมัยด้วยการเล่นระดับสูงต่ำของการออกแบบ ช่วยเพิ่มมิติให้การตกแต่งผนังโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ ผลิตจากไฟเบอร์ซีเมนต์จึงมีความแข็งแรง ทนทาน ปลวกไม่กิน สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลาย ทั้งงานตกแต่งภายนอกและภายในอาคารเหมือนอย่างเช่น 2 วัสดุที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น ระบบการติดตั้งเป็นแบบบังใบและคลิปล็อก จึงช่วยปกปิดหัวสกรู สามารถติดตั้งได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน >ผนังโมดิน่า โมดิน่า SCG Modeena ไม้ตกแต่ง SCGโมดิน่า modina SCG ไม้โมดิน่า >ภาพ: ผนังด้านขวาตกแต่งด้วย ไม้ตกแต่งผนัง เอสซีจี รุ่นโมดิน่า วางลายตามตั้ง ให้ความรู้สึกที่ทันสมัยและเรียบง่ายในเวลาเดียวกัน >ผนังโมดิน่า โมดิน่า SCG Modeena ไม้ตกแต่ง SCGโมดิน่า modina SCG ไม้โมดิน่า >ภาพ: เปลี่ยนผนังภายนอกบ้านให้มีลูกเล่นมากขึ้นด้วย ไม้ตกแต่งผนัง เอสซีจี รุ่นโมดิน่า ที่ช่วยให้ผนังดูมีมิติ และเพิ่มความโมเดิร์นให้บ้านได้เป็นอย่างดี >ผนังโมดิน่า โมดิน่า SCG Modeena ไม้ตกแต่ง SCGโมดิน่า modina SCG ไม้โมดิน่า >ภาพ: ตกแต่งผนังในส่วนพื้นที่นั่งเล่นข้างบ้านให้โดดเด่นด้วย ไม้ตกแต่งผนัง เอสซีจี รุ่นโมดิน่า ที่นำมาติดตั้งในแนวนอน และเล่นระดับเฉดสีอ่อนสลับเข้ม >ผนังโมดิน่า โมดิน่า SCG Modeena ไม้ตกแต่ง SCGโมดิน่า modina SCG ไม้โมดิน่า >ภาพ: ตกแต่งผนังชั้นสองของบ้านด้วย ไม้ตกแต่งผนัง เอสซีจี รุ่นโมดิน่า ทำสีน้ำตาล เพิ่มรายละเอียดที่น่าสนใจในสไตล์ที่ดูเป็นธรรมชาติ สนใจ ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิน่า คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >## 4. ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น วูด-ดี >ผนังไม้ฝาไฟเบอร์ซีเมนต์พิมพ์ลายดิจิทัล (Digital Printing) ให้ความสมจริงของลวดลายและสีสันที่เหมือนไม้จริง สีสวยทนทานนานกว่า 5 ปีด้วยเทคโนโลยีการเคลือบผิวเฉพาะ สามารถใช้ตกแต่งได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ใช้ตกแต่งผนังและฝ้าเพดาน >หน้าบ้านสวยโดดเด่น >ภาพ: หน้าบ้านสวยโดดเด่นด้วย ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น วูด-ดี ไทย ทีค ซีรีย์ สีสัก >เพิ่มดีไซน์ให้บ้าน >ภาพ: เพิ่มดีไซน์ให้บ้านสวยสว่างด้วย ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น วูด-ดี เท็กซัส วูด ซีรีย์ สีเบจ >ลดความแข็งของบ้านโมเดิร์น >ภาพ: ลดความแข็งของบ้านโมเดิร์นด้วย ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น วูด-ดี ไทย ทีค ซีรีย์ สีสัก >ห้องนั่งเล่นอบอุ่นสบายตา >ภาพ: ห้องนั่งเล่นอบอุ่นสบายตาด้วย ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น วูด-ดี ไทย ทีค เซาะร่อง สนใจ ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น วูด-ดี คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >## 5. ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น โคเต้ >เป็นผนังบังใบสีสำเร็จ สวยมีมิติด้วยลายเสี้ยนไม้ไล่เฉดสีที่เป็นสีโปร่งแสง มีสองเฉดสีให้เลือกใช้ สีวอร์มเกรย์สไตล์โมเดิร์น และสีโคซี่บีชสไตล์มินิมอล เซาะร่อง 4 นิ้วกลางแผ่น ร่องสวยมีดีไซน์รูปคางหมู เอกลักษณ์เฉพาะเอสซีจี ติดตั้งด้วยระบบคลิปล็อคทำให้ผนังเรียบเนียนสวยงามไร้รอยหัวสกรู >ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น โคเต้ สีโคซี่บีช >ภาพ: บ้านโมเดิร์นอบอุ่นด้วย ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น โคเต้ สีโคซี่บีช >ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น โคเต้ สีวอร์มเกรย์ >ภาพ: บ้านนอร์ดิกลุคทันสมัยด้วย ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น โคเต้ สีวอร์มเกรย์ สนใจ ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น โคเต้ คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >## 6. ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิช >ผนังตกแต่งเซาะร่องดีไซน์ใหม่ (Splendid Curve Design) เพิ่มมิติให้ผนังตื้น-ลึกเด่นชัดกว่า ด้วยเทคโนโลยี X-Trusion มีรูปลอนให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ Modish-V: ลอนสามเหลี่ยม และ Modish-U: ลอนโค้งครึ่งวงกลม สามารถใช้ตกแต่งได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ใช้ตกแต่งผนังและฝ้าเพดาน ติดตั้งได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน มีบังใบช่วยซ่อนหัวสกรูและอุปกรณ์คลิปล็อค ได้งานสวยเนี้ยบเรียบร้อย >ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิช-วี >ภาพ: ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิช-วี ให้ลอนสามเหลี่ยม โฉบเฉี่ยว สวยคม โดดเด่น >เพิ่มมิติให้กับผนังด้วย ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิช-วี >ภาพ: เพิ่มมิติให้กับผนังด้วย ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิช-วี >ตกแต่ง Facade สวยด้วย ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิช-วี >ภาพ: ตกแต่ง Facade สวยด้วย ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิช-วี >ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิช-ยู >ภาพ: ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิช-ยู ให้ลอนโค้งครึ่งวงกลม สร้างสุนทรียศาสตร์ให้งานออกแบบ >เพิ่มลอนให้ผนังเรียบดูมีดีไซน์ >ภาพ: เพิ่มลอนให้ผนังเรียบดูมีดีไซน์ด้วย ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิช-ยู สนใจ ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิช คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >## 7. ผนังบังใบ เอสซีจี รุ่นรัสติค >ผนังไม้ฝา ลายเสี้ยนไม้สมจริงให้อารมณ์ธรรมชาติ ด้วยลายเสี้ยนชัดลึก เป็นเส้นยาวและถี่ แม้ทาสีก็ยังเห็นลาย ใช้ตกแต่งผนังได้ทั้งภายนอกและภายใน มีระยะบังใบที่ยาวพิเศษซ่อนหัวสกรูได้พอดี ให้ผนังแนบสนิทเป็นผืนเดียวกันไม่ต้องกังวลเรื่องการเก็บงาน ทาสีได้ตามสไตล์ที่ต้องการ >ผนังบังใบ เอสซีจี รุ่นรัสติค ทำสีเทาเข้ม >ภาพ: ให้บ้านสวยมีสไตล์ด้วย ผนังบังใบ เอสซีจี รุ่นรัสติค ทำสีเทาเข้ม >ผนังบังใบ เอสซีจี รุ่นรัสติค ทำสีเทาขาว >ภาพ: ให้อารมณ์บ้านไม้เรียบๆ ดูน้อยแต่ทันสมัยด้วย ผนังบังใบ เอสซีจี รุ่นรัสติค ทำสีเทาขาว สนใจ ผนังบังใบ เอสซีจี รุ่นรัสติค คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >## 8. ซีเมนต์บอร์ด เอสซีจี >เป็นแผ่นไม้อัดซีเมนต์ (Wood Cement Board หรือ Cement Bonded Particle Board) ประกอบด้วยปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ผสมกับชิ้นไม้ขนาดเล็ก โดยพื้นผิวทั้งสองด้านจะเหมือนผิวปูนเปลือยเรียบเนียนสวยงาม ตรงกลางเป็นชั้นของชิ้นไม้ผสมกับเนื้อปูน ดังนั้นจึงเหมาะกับงานตกแต่งเสมือนผนังปูนเปลือย ดิบเท่ สไตล์ลอฟต์ ใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ติดตั้งง่ายจบงานไว เพราะมาเป็นแผ่นขนาด 120 x 240 ซม. >ผนังตกแต่งสไตล์ลอฟต์ >ภาพ: ผนังตกแต่งสไตล์ลอฟต์ >ตกแต่งผนังหัวเตียงแนวดิบเท่ >ภาพ: ตกแต่งผนังหัวเตียงแนวดิบเท่ >ผนังภายนอกอาคารสวยเท่จบงานไว >ภาพ: ผนังภายนอกอาคารสวยเท่จบงานไว สนใจ ซีเมนต์บอร์ด เอสซีจี คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >## 9. กระเบื้องคอนกรีตตกแต่งผนัง เอสซีจี >ตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบการแต่งบ้านในสไตล์ลอฟต์ ด้วยกระเบื้องคอนกรีตตกแต่งผนังที่ถูกออกแบบให้มีความดิบเท่ จากลวดลายของอิฐโบราณก่อแบบโชว์แนว มีการใส่ดินมวลเบาลงไปในตัวก้อน เพื่อลดน้ำหนักของตัวก้อน ทำให้ติดตั้งง่าย >กระเบื้องคอนกรีตตกแต่งผนัง SCG กระเบื้องคอนกรีต scg กระเบื้องแต่งผนัง >ภาพ: ตกแต่งผนังห้องนั่งเล่นให้เท่ แฝงไว้ด้วยความเคร่งขรึม ด้วย กระเบื้องคอนกรีตตกแต่งผนัง เอสซีจี รุ่น ทรู เนเจอร์ โอลด์บริค สีดำ >กระเบื้องคอนกรีตตกแต่งผนัง SCG กระเบื้องคอนกรีต scg กระเบื้องแต่งผนัง >ภาพ: เพิ่มเสน่ห์ให้กับห้องทานข้าว ด้วยลวดลายและสีสันแบบอิฐโบราณก่อโชว์แนวของ กระเบื้องคอนกรีตตกแต่งผนัง เอสซีจี รุ่น ทรู เนเจอร์ โอลด์บริค สีส้ม >กระเบื้องคอนกรีตตกแต่งผนัง SCG กระเบื้องคอนกรีต scg กระเบื้องแต่งผนัง >ภาพ: แต่งผนังภายนอกบ้านให้เป็นมุมพักผ่อนในสวนสไตล์อังกฤษ ด้วยกระเบื้องคอนกรีตตกแต่งผนัง เอสซีจี รุ่น ทรู เนเจอร์ โอลด์บริค สีขาว >. >## 10. แต่งผนังปูนฉาบด้วย เสือ เดคอร์ ซีเมนต์สำเร็จรูป >เปลี่ยนผนังเรียบๆ ธรรมดาๆ ให้ดูดิบเท่สไตล์ลอฟท์ หรือตกแต่งให้มีสีสันสดใส ด้วย เสือเดคอร์ ฉาบสีผิวเรียบ, ฉาบสีเท็กซ์เจอร์ และ เสือ เดคอร์ โพลิเมอร์ซีเมนต์ Loft Wall สำหรับการฉาบตกแต่งผนังขั้นสุดท้าย สามารถนำมาสร้างสรรค์ลวดลายปลี่ยนบรรยากาศของห้องได้แบบไม่รู้จบ >ปูนลอฟท์ สกิมโค้ท ฉาบปูนลอฟ skim coat สีปูนเปลือย สีลอฟท์ loft ทาผนัง ปูน loft ผนังปูนสี เสือ เดคอร์ โพลิเมอร์ ซีเมนต์ >ภาพ: เติมความสดใสให้ผนังห้องนั่งเล่น ด้วย เสือ เดคอร์ Color Skim Coat ฉาบสีผิวเรียบ โดยใช้สีเหลืองเป็นสีรองพื้น และฉาบสีฟ้าตามขณะที่ปูนยังมีเนื้อหมาดๆ จนเกิดลวดลายสนุกๆ >ปูนลอฟท์ สกิมโค้ท ผนังปูนขัดมัน ฉาบปูนลอฟ skim coat สีปูนเปลือย สีลอฟท์ loft ทาผนัง ปูน loft ผนังปูนสี เสือ เดคอร์ โพลิเมอร์ ซีเมนต์ >ภาพ: แต่งผนังห้องนั่งเล่นให้ดูน่าสนใจ ด้วย เสือ เดคอร์ Color Skim Coat ฉาบสีผิวเรียบ สีขาว ทาทับด้วยสีน้ำอะคริลิกสีส้ม จากนั้นขัดด้วยกระดาษทราย ก็จะได้ผนังที่มีลวดลายและผิวสัมผัสที่ไม่เหมือนใคร >ปูนลอฟท์ ผนังปูนขัดมัน ฉาบปูนลอฟ skim coat สีปูนเปลือย สีลอฟท์ loft ทาผนัง ปูน loft ผนังปูนสี เสือ เดคอร์ โพลิเมอร์ ซีเมนต์ >ภาพ: มุมนั่งเล่นกับผนังภายนอกสีสันโดดเด่นด้วย เสือ เดคอร์ Texture Render ฉาบสีเท็กซ์เจอร์ สีแดง ใช้เทคนิคการทำลวดลายริ้วหิน >ปูนลอฟท์ ผนังปูนขัดมัน ฉาบปูนลอฟ สีปูนเปลือย สีลอฟท์ loft ทาผนัง ปูน loft เสือ เดคอร์ โพลิเมอร์ ซีเมนต์ >ภาพ: ตกแต่งผนังโรงจอดรถให้ดิบเท่ด้วย เสือ เดคอร์ โพลิเมอร์ซีเมนต์ ลอฟท์วอลล์ สีเทาเข้ม และเพิ่มลูกเล่นด้วยการเจาะผนังให้เป็นช่องซ่อนเพื่อเก็บของ สนใจ บริการฉาบผนังปูนซีเมนต์ตกแต่ง คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >## 11. เสือ วัสดุผสมปูนซีเมนต์ มาร์เบิ้ล เรนเดอร์ >ผลิตมาจากหินอ่อนที่บดย่อยให้มีขนาดพอเหมาะสำหรับการแต่งผนังที่ต้องการพื้นผิวที่เป็นธรรมชาติ ใช้งานร่วมกับ ปูนซีเมนต์ขาว เสือ เดคอร์ ฉาบตกแต่ง แทนการใช้ทราย สามารถนำมาออกแบบลวดลายได้อย่างอิสระตามต้องการ ไม่ว่าจะชื่นชอบสไตล์ไหนก็สามารถตอบโจทย์ได้อย่างมีเอกลักษณ์ >ผนังกรวดล้าง ผนังทรายล้าง มาร์เบิ้ล เรนเดอร์ scg marble render SCG >ภาพ: เพิ่มความน่าสนใจให้กับผนังสไตล์โมเดิร์น ด้วยแพทเทิร์นและการใช้โทนสีเทาเข้มสลับกับเทาอ่อน จาก เสือ วัสดุผสมปูนซีเมนต์ มาร์เบิ้ล เรนเดอร์ >ผนังกรวดล้าง ผนังทรายล้าง มาร์เบิ้ล เรนเดอร์ scg marble render SCG >ภาพ: กำแพงบ้านที่ตกแต่งด้วย เสือ วัสดุผสมปูนซีเมนต์ มาร์เบิ้ล เรนเดอร์ กับแพทเทิร์นที่ดูเรียบง่าย ทันสมัย เสริมให้พื้นที่พักผ่อนภายนอกบ้านน่านั่งมากยิ่งขึ้น >ผนังกรวดล้าง ผนังทรายล้าง มาร์เบิ้ล เรนเดอร์ scg marble render SCG >ภาพ: สร้างแพทเทิร์นที่โดดเด่นและสนุกสนานให้กับกำแพงบ้าน ด้วยสีสันและรูปทรงเรขาคณิต จาก เสือ วัสดุผสมปูนซีเมนต์ มาร์เบิ้ล เรนเดอร์ ตกแต่งผนังกรวดล้าง ทรายล้าง มาร์เบิ้ลเรนเดอร์ คลิก\{.button .newtab} {.centered}
เล่าถึงข้อดีของการฝึกพิลาทิส ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสมาธิ เหมาะกับทั้งบุคคลทั่วไป ผู้สูงวัย รวมไปถึงนักกีฬา ผู้ที่มีปัญหาปวดเมื่อยร่างกาย > พิลาทิส (Pilates) เป็นอีกหนึ่งรูปแบบการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยม ช่วยเสริมสร้างสุขภาพทั้งกาย สุขภาพจิต รวมไปถึงคุณภาพการหายใจ และยังเป็นการฝึกสมาธิในตัวด้วย ใครที่สงสัยว่าประโยชน์หลากหลายจากการฝึกพิลาทิสที่ว่านี้มีรายละเอียดเป็นอย่างไร สรุปมาให้แล้วใน 10 ข้อตามนี้เลย > 1. เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว (Core Muscles) > การฝึกพิลาทิสอย่างสม่ำเสมอจะทำให้เรามีแกนกลางลำตัวที่แข็งแรง ทั้งกล้ามเนื้อหน้าท้อง กล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง และกล้ามเนื้อสะโพก ส่งผลให้มีท่าทางที่ดีขึ้น ลดอาการปวดหลัง และสามารถเคลื่อนไหวท่าทางต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ > 2. ปรับปรุงร่างกายให้มีท่าทางที่ถูกต้องและทรงตัวได้ดี > การฝึกพิลาทิสช่วยสร้างความตระหนักรู้ในร่างกาย (Body Awareness) และการจัดวางร่างกายที่ถูกต้องขณะฝึก ทำให้เรามีท่าทางที่ดีขึ้นโดยธรรมชาติ และช่วยยืดกล้ามเนื้อที่หดสั้นรวมถึงเสริมสร้างกล้ามเนื้อที่อ่อนแอ เพิ่มความสมดุลของโครงสร้างร่างกายให้เรามีท่วงท่าสง่างาม ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงอาการบาดเจ็บที่เกิดจากการมีท่าทางที่ไม่ถูกต้อง เช่น อาการปวดบริเวณช่วงไหล่ คอ หรือปวดหลังเรื้อรัง > 3. เพิ่มความยืดหยุ่นคล่องตัวของร่างกาย > ท่าทางที่ใช้ในการฝึกพิลาทิสจะเน้นการเคลื่อนไหวแบบควบคุมและการยืดกล้ามเนื้อขณะมีแรงต้าน จึงได้ทั้ง “ความยืดหยุ่น” และ “ความแข็งแรง” ไปในขณะเดียวกัน ร่างกายที่ยืดหยุ่นดีช่วยให้เคลื่อนไหวได้คล่องแคล่ว ลดความเสี่ยงการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา ออกกำลังกาย และกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ทั้งยังช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยบริเวณกล้ามเนื้อและข้อต่อได้ด้วย > Pilates พิลาทิส เครื่องพิลาทิส พิลาทีส > เลือกซื้อ เครื่องออกกำลังพิลาทิส คลิก\{.button .newtab} {.centered} > 4. พัฒนาการหายใจและการไหลเวียนของเลือด > การฝึกพิลาทิสเน้นการหายใจที่ลึกและถูกต้อง เป็นการเพิ่มออกซิเจนในเลือด ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น จึงช่วยเร่งกระบวนการฟื้นฟูของร่างกาย ลดอาการบวมน้ำ และเพิ่มประสิทธิภาพการขจัดของเสียออกจากร่างกาย นอกจากนี้ การหายใจอย่างถูกวิธียังช่วยเพิ่มสมาธิ ลดความเครียด และทำให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลายขึ้น > 5. ส่งเสริมสุขภาพจิต ลดความเครียด > การฝึกพิลาทิสจะเน้นให้ผู้ฝึกมีการเชื่อมโยงระหว่างร่างกายกับจิตใจ โดยจดจ่อสมาธิเข้ากับการเคลื่อนไหวและลมหายใจ ช่วยลดความเครียด วิตกกังวล หากฝึกสม่ำเเสมอจะช่วยกระตุ้นการหลั่งเอนดอร์ฟิน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุขในร่างกาย เสริมสร้างพลัง ทำให้อารมณ์ดีขึ้น เพิ่มคุณภาพการนอนหลับ และเมื่อเห็นพัฒนาการทางร่างกายที่ดูดีขึ้นจากการฝึกสม่ำเสมอ ก็จะทำให้เรารู้สึกมั่นใจต่อภาพลักษณ์ของตนเองด้วย > 6. ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงได้โดยไม่ต้องมีกล้ามเนื้อขนาดใหญ่ > สำหรับผู้ที่ต้องการมีรูปร่างกระชับแบบไม่ดูบึกบึน การฝึกพิลาทิสถือว่าตอบโจทย์ เพราะเน้นการใช้น้ำหนักตัวเองและแรงต้านจากอุปกรณ์เฉพาะ ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง กระชับ และยืดหยุ่น ต่างจากการเพิ่มของกล้ามเนื้อที่ดูมีขนาดใหญ่ขึ้นจากการยกน้ำหนัก > 7. ปรับปรุงการทำงานของระบบย่อยอาหารและการขับถ่าย > การฝึกพิลาทิสเน้นการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว ซึ่งรวมถึงกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องและอุ้งเชิงกราน เป็นการช่วยนวดอวัยวะภายในและกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหารไปในตัว และสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องการขับถ่าย เช่น ผู้สูงอายุที่กลั้นปัสสาวะยาก คุณแม่ที่เพิ่งคลอดบุตร การฝึกพิลาทิสสม่ำเสมอยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ซึ่งมีส่วนสำคัญในการควบคุมการขับถ่ายด้วย > Pilates พิลาทิส เครื่องพิลาทิส พิลาทีส > เลือกซื้อ เครื่องออกกำลังพิลาทิส คลิก\{.button .newtab} {.centered} > 8. ช่วยฟื้นฟูและป้องกันการบาดเจ็บ > ท่วงท่าในการการฝึกพิลาทิส จะเน้นการควบคุมและการทำงานที่ประสานกันของกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย ซึ่งช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่นอย่างสมดุล ช่วยฟื้นฟูและป้องกันร่างกายจากบาดเจ็บได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักกายภาพบำบัดและแพทย์หลายท่านจึงใช้พิลาทิส เป็นส่วนหนึ่งของการฟื้นฟูอาการบาดเจ็บที่หลัง คอ ไหล่ หรือเข่า เนื่องจากสามารถปรับระดับความหนักเบาได้ตามความเหมาะสมของผู้ป่วย > 9. มีส่วนช่วยในการส่งเสริมสมรรถภาพทางเพศ > การฝึกพิลาทิส ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อการควบคุมการทำงานของอวัยวะเพศและความรู้สึกทางเพศ ส่งเสริมประสบการณ์ด้านกิจกรรมทางเพศที่ดีขึ้น นอกจากนี้ความยืดหยุ่นและการไหลเวียนของเลือดที่ดีขึ้นจากการฝึกพิลาทิส ยังส่งผลดีต่อสุขภาพทางเพศโดยรวมได้ > 10. ช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย และสมองในผู้สูงอายุ > การฝึกพิลาทิสในผู้สูงอายุ ช่วยรักษามวลกระดูก เพิ่มความหนาแน่นของกระดูก ซึ่งสำคัญมากในการป้องกันโรคกระดูกพรุน ช่วยให้ร่างกายยืดหยุ่น เคลื่อนไหวคล่องแคล่วและเป็นอิสระ กล้ามเนื้อแข็งแรง ทรงตัวดี ลดความเสี่ยงต่อการหกล้ม นอกจากนี้ การฝึกพิลาทิสยังพัฒนาเรื่องสมาธิและการหายใจไปในตัว ช่วยส่งเสริมเรื่องสุขภาพจิตและความจำได้ > จะเห็นได้ว่าการฝึกพิลาทิส เป็นรูปการออกกำลังกายที่มีประโยชน์หลากหลาย เสริมสร้างความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และยังมีส่วนช่วยในการปรับปรุงสุขภาพโดยรวม ทั้งทางร่างกายและจิตใจ อย่างไรก็ตาม การฝึกพิลาทิสช่วงแรกควรอยู่ในความดูแลของครูผู้สอนที่มีประสบการณ์ ยิ่งถ้าเรามีปัญหาสุขภาพหรืออาการบาดเจ็บอยู่ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ประโยชน์จากการฝึกอย่างเต็มที่และ และป้องการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นจากการฝึกที่ผิดวิธี > Pilates พิลาทิส เครื่องพิลาทิส พิลาทีส > เลือกซื้อ เครื่องออกกำลังพิลาทิส คลิก\{.button .newtab} {.centered} > ขอบคุณข้อมูลจาก www.homefittools.com/
รวมถามตอบหลังคาเมทัล เอสซีจี ในเรื่องความแตกต่างระหว่างหลังคาเมทัล เอสซีจี กับหลังคาเมทัลชีททั่วไป รุ่น/รูปแบบต่าง ๆ ที่มีจำหน่าย วิธีการใช้งาน ตลอดจนนวัตกรรมที่ช่วยกันร้อนกันเสียง >. >---------------------------------------------------------------- >### สารบัญบทความ >1) หลังคาเมทัลชีท มีข้อดีอย่างไร? >2) การใช้หลังคาเมทัลชีทต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง? >3) หลังคาเมทัลชีทในท้องตลาดมีกี่รูปแบบ และหลังคาเมทัล เอสซีจี มีรูปแบบใดบ้าง? >4) หลังคาเมทัล เอสซีจี ต่างกับหลังคาเมทัลชีทในท้องตลาดอย่างไร? >5) เทคโนโลยี Noise Shiled และ HeatTECH ที่ใช้กับหลังคาเมทัล เอสซีจี มีหลักการอย่างไร? >6) ใช้หลังคาเมทัล เอสซีจี ที่มีนวัตกรรมกันร้อนกันเสียงแล้ว แต่อยากติดฉนวนกันร้อนเพิ่ม แนะนำอย่างไร? >7) สำหรับบ้านพักอาศัยควรใช้หลังคาเมทัลชีทความหนาเท่าใด และความลาดชันหลังคาควรเป็นอย่างไร? >8) หากใช้หลังคาเมทัลชีทในพื้นที่ใกล้ทะเล จะเสี่ยงขึ้นสนิมหรือไม่? >9) หากใช้หลังคาเมทัลชีทไปแล้วต้องการเปลี่ยนสี สามารถพ่นสีทับได้หรือไม่? >---------------------------------------------------------------- >. >## 1) หลังคาเมทัลชีท มีข้อดีอย่างไร? >หลังคาเมทัลชีทเป็นวัสดุมุงหลังคาที่ทำจากโลหะ ส่วนใหญ่ผลิตจากเหล็กเคลือบอะลูมิเนียมและสังกะสี นำมารีดขึ้นรูปเป็นลอนต่าง ๆ ข้อดีของหลังคาเมทัลชีท ได้แก่ ติดตั้งง่าย รวดเร็ว น้ำหนักเบา ไม่เปลืองโครงสร้าง รอยต่อน้อย ลดความกังวลเรื่องการรั่วซึม และสามารถมุงหลังคาที่มีองศาต่ำได้ดี นอกจากนี้ยังมีรูปทรงลอนและสีให้เลือกหลากหลาย เหมาะสำหรับอาคารขนาดกลางถึงขนาดใหญ่อย่างโรงงาน บ้านสไตล์ลอฟต์หรือโมเดิร์น รวมถึงงานต่อเติมอย่างโรงจอดรถหรือกันสาด >หลังคาเมทัลชีทเป็นวัสดุมุงหลังคาที่ทำจากโลหะนำมารีดขึ้นรูปเป็นลอนต่าง ๆ >ภาพ: หลังคาเมทัลชีทเป็นวัสดุมุงหลังคาที่ทำจากโลหะนำมารีดขึ้นรูปเป็นลอนต่าง ๆ >. >## 2) การใช้หลังคาเมทัลชีทต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง? >หลังคาเมทัลชีทเป็นแผ่นโลหะที่มีลักษณะค่อนข้างบาง โดยธรรมชาติจะกันความร้อนและเสียงได้ไม่ดีเท่าที่ควร จึงควรเลือกใช้ฉนวนกันความร้อนและเสียงเพิ่มเติมใต้แผ่นหลังคา นอกจากนี้ ความลาดชันของหลังคาก็เป็นสิ่งสำคัญเพราะอาจก่อให้เกิดปัญหาน้ำรั่วซึมได้ ควรติดตั้งองศาหลังคาให้ถูกต้องตามที่ผู้ผลิตกำหนด >ติดตั้งหลังคาเมทัลชีทให้ได้องศาลาดชันตามที่ผู้ผลิตกำหนด >ภาพ: ติดตั้งหลังคาเมทัลชีทให้ได้องศาลาดชันตามที่ผู้ผลิตกำหนด >. >## 3) หลังคาเมทัลชีทในท้องตลาดมีกี่รูปแบบ และหลังคาเมทัล เอสซีจี มีรูปแบบใดบ้าง? >หลังคาเมทัลชีทในท้องตลาดมีรูปลอนให้เลือกใช้ไม่น้อยกว่า 10 รูปแบบ แต่ที่นิยมและพบได้มากคือลอนมาตรฐาน 3-5 สันลอน เช่น ลอน 760, ลอน 750, ลอน 720 ซึ่งเหมาะกับอาคารโรงงาน ส่วนบ้านพักอาศัยก็สามารถเลือกใช้ได้ตามความชอบและความเหมาะสม โดยส่วนใหญ่ได้แก่ ลอนมาตรฐาน ลอนสแนปล็อก ลอนตกแต่งต่าง ๆ การติดตั้งหลังคาเมทัลชีทมี 2 แบบ ที่นิยมใช้กันคือ (1) แบบยึดสกรู ซึ่งช่างทั่วไปทำได้และราคาประหยัดกว่าอีกแบบคือ (2) แบบคลิปล็อกร่วมกับการยึดสกรู ซึ่งสามารถซ่อนหัวสกรูได้ทั่วทั้งผืน ทำให้ดูสวยงามและช่วยลดการรั่วซึมด้วย ทั้งนี้ หากต้องการฉนวนกันร้อนกันเสียง ติดมากับแผ่นหลังคาเมทัลชีทเพิ่มเติม ก็สามารถสั่งผลิตได้ โดยวัสดุฉนวนที่นิยมใช้คือ PE, PU และ EPS โฟม >ตัวอย่างหลังคาเมทัลชีททั่วไป >ภาพ: ตัวอย่างหลังคาเมทัลชีททั่วไปในท้องตลาดที่ติดฉนวนมาในตัวเป็น PU โฟม ความหนา 1 นิ้ว >. >สำหรับหลังคาเมทัล เอสซีจี มีให้เลือก 3 รุ่น/รูปแบบ ได้แก่ รุ่น MATALUXE ลอน SSR760 – Noise Shield, รุ่น MATALUXE ลอน Snap Lock – Noise Shield และ รุ่น MATALUXE ลอน Step Tile – Stone Coat >หลังคาเมทัล เอสซีจี รุ่นต่างๆ >ภาพ: หลังคาเมทัล เอสซีจี รุ่นต่างๆ >. >## 4) หลังคาเมทัล เอสซีจี ต่างกับหลังคาเมทัลชีทในท้องตลาดอย่างไร? >หลังคาเมทัล เอสซีจี ใช้วัสดุและการเคลือบสีคุณภาพสูง มีความหนาเหล็กเริ่มต้นที่ 0.35 มม. ซึ่งเหมาะสำหรับบ้านพักอาศัย และมีเทคโนโลยีเฉพาะตัวที่ช่วยเสียงฝนตกกระทบและป้องกันความร้อน อย่าง Noise Sheild, HeatTECH และ Stone Coat ในแต่ละรุ่นดังนี้ >๐ รุ่น MATALUXE ลอน SSR760 – Noise Shield เป็นลอนมาตรฐาน 760 ติดตั้งแบบยึดสกรู เพิ่มนวัตกรรมป้องกันเสียงจากภายนอก ด้วยเทคโนโลยี Noise Shield ช่วยลดเสียงฝนตกกระทบตั้งแต่จุดกำเนิดบนหลังคา เมื่อเทียบกับหลังคาเมทัลชีทลอนทั่วไปถึง 9 เดซิเบล (dB) มีความหนาเหล็กไม่รวมชั้นเคลือบ 0.35 มม. (หากรวมชั้นเคลือบจะมีความหนา 0.50 มม.) >หลังคาเมทัล เอสซีจี รุ่น MATALUXE ลอน SSR760 – Noise Shield >ภาพ: หลังคาเมทัล เอสซีจี รุ่น MATALUXE ลอน SSR760 – Noise Shield >. >๐ รุ่น MATALUXE ลอน Snap Lock – Noise Shield เป็นลอนที่มีเอกลักษณ์ทันสมัย เหมาะกับบ้านสไตล์โมเดิร์น บ้านนอร์ดิก ติดตั้งโดยใช้สกรูร่วมกับระบบคลิปล็อก ซ่อนหัวสกรูทั่วทั้งผืน นอกจากมีนวัตกรรมป้องกันเสียงจากภายนอกด้วยเทคโนโลยี Noise Sheild แล้ว รุ่นนี้ยังเพิ่มฉนวนกันความร้อน รุ่น HeatTECH ด้วย ยิ่งช่วยลดเสียงได้มากกว่าเมื่อเทียบกับหลังคาเมทัลชีททั่วไปที่บุฉนวนถึง 14% มีความหนาเหล็กไม่รวมชั้นเคลือบ 0.35 มม. และ 0.50 มม. (หากรวมชั้นเคลือบจะมีความหนา 0.60 มม. และ 0.75 มม.) >หลังคาเมทัล เอสซีจี รุ่น MATALUXE ลอน Snap Lock – Noise Shield >ภาพ: หลังคาเมทัล เอสซีจี รุ่น MATALUXE ลอน Snap Lock – Noise Shield >. >๐ รุ่น MATALUXE ลอน Step Tile – Stone Coat เป็นลอนคล้ายกระเบื้องหลังคา ติดตั้งแบบยึดสกรูเพียงอย่างเดียว มีนวัตกรรมเคลือบสี Stone Coat ที่เป็นเม็ดหินเคลือบสีเซรามิก ช่วยลดปัญหาเสียงฝนกระทบบนผืนหลังคาเมื่อเทียบกับหลังคาเมทัลชีทลอนทั่วไปถึง 12 เดซิเบล (dB) และสะท้อนความร้อนที่เข้าสู่ภายในบ้าน มีความหนาเหล็กไม่รวมชั้นเคลือบ 0.35 มม. (หากรวมชั้นเคลือบจะมีความหนา 1.55-2.35 มม.) >หลังคาเมทัล เอสซีจี รุ่น MATALUXE ลอน Step Tile – Stone Coat >ภาพ: หลังคาเมทัล เอสซีจี รุ่น MATALUXE ลอน Step Tile – Stone Coat >. >## 5) เทคโนโลยี Noise Shiled และ HeatTECH ที่ใช้กับหลังคาเมทัล เอสซีจี มีหลักการอย่างไร? >๐ Noise Shiled เป็นเทคโนโลยีการเคลือบสีแบบพิเศษ ช่วยลดเสียงฝนตกกระทบและเสียงสะท้อนบนหลังคาเมทัลชีท ผลการทดสอบพบว่าช่วยลดเสียงฝนตกกระทบได้ถึง 14% เมื่อเทียบกับหลังคาเมทัลชีทบุฉนวน และช่วยลดเสียงได้ดีกว่าหลังคาเมทัลชีททั่วไปถึง 9 เดซิเบล (dB) >๐ HeatTECH เป็นการนำฉนวนกันความร้อนใยแก้วที่เอสซีจีพัฒนาขึ้นมาเพื่อติดตั้งเพิ่มเข้าใต้แผ่นหลังคา ช่วยลดอัตราการไหลเข้าของความร้อนได้ดีกว่าหลังคาเมทัลชีทลอนทั่วไปที่ติดฉนวนได้มากกว่าถึง 25% >ตัวอย่างหลังคาเมทัล เอสซีจี รุ่น MATALUXE ลอน Snap Lock – Noise Shield >ภาพ: ตัวอย่างหลังคาเมทัล เอสซีจี รุ่น MATALUXE ลอน Snap Lock – Noise Shield ที่มีทั้งเทคโนโลยี Noise Shield ช่วยลดเสียง และเทคโนโลยี HeatTECH ป้องกันความร้อน >. >## 6) สำหรับบ้านพักอาศัยควรใช้หลังคาเมทัลชีทความหนาเท่าใด และความลาดชันหลังคาควรเป็นอย่างไร? >สำหรับบ้านพักอาศัย ควรเลือกใช้หลังคาเมทัลชีทที่มีความหนาเหล็กก่อนเคลือบสีอย่างน้อย 0.35 มม. ซึ่งเป็นความหนาเริ่มต้นที่เหมาะสมกับการติดตั้งและความแข็งแรงในการใช้งาน ส่วนความลาดชันของหลังคาจะขึ้นอยู่กับรุ่น/รูปลอนของหลังคาเมทัลชีท และควรติดตั้งตามค่าความลาดชันที่ผู้ผลิตกำหนดเพื่อป้องกันปัญหาน้ำฝนรั่วซึม อย่างหลังคาเมทัล เอสซีจี จะกำหนดค่าความลาดชันหลังคาขั้นต่ำในการมุงหลังคาของแต่ละรุ่นไว้ ดังนี้ >๐ รุ่น MATALUXE ลอน SSR760 – Noise Shield ความลาดชันหลังคาขั้นต่ำ 5 องศา >๐ รุ่น MATALUXE ลอน Snap Lock – Noise Shield สำหรับทรงจั่วและทรงเพิงแหงน ความลาดชันหลังคาขั้นต่ำ 3 องศา และสำหรับหลังคาทรงปั้นหยา ความลาดชันหลังคาขั้นต่ำ 8 องศา >๐ รุ่น ลอน Step Tile25 - Stone Coat ความลาดชันหลังคาขั้นต่ำ 10 องศา >. >## 7) ใช้หลังคาเมทัล เอสซีจี ที่มีนวัตกรรมกันร้อนกันเสียงแล้ว แต่อยากติดฉนวนกันร้อนเพิ่ม แนะนำอย่างไร? >แนะนำให้ทำฝ้าเพดานใต้หลังคาเมทัลชีท แล้วนำฉนวนกันความร้อนมาติดตั้งบนฝ้าเพดาน ไม่ควรนำฉนวนมาติดเพิ่มใต้เมทัลชีทหรือฉีดโฟมใต้หลังคาเอง เพราะอาจทำให้ฉนวนหลุดร่วงง่าย >การติดตั้งฉนวนกันความร้อน เอสซีจี รุ่น STAY COOL ที่ฝ้าเพดานชั้นบน >ภาพ: การติดตั้งฉนวนกันความร้อน เอสซีจี รุ่น STAY COOL ที่ฝ้าเพดานชั้นบน >. >สนใจ ฉนวนกันความร้อน STAY COOL คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >## 8) หากใช้หลังคาเมทัลชีทในพื้นที่ใกล้ทะเล จะเสี่ยงขึ้นสนิมหรือไม่? >เนื่องจากวัสดุหลังคาเมทัลชีททำจากเหล็ก ไอทะเลหรือไอเกลืออาจทำปฏิกิริยากับหลังคาเหล็กและสกรู เป็นเหตุให้เกิดสนิมได้ง่ายกว่าการใช้งานในพื้นที่ทั่วไป ดังนั้น พื้นที่ใช้งานควรอยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลอย่างน้อย 2 กิโลเมตร เพื่อลดการเกิดสนิมเหล็กและยืดอายุการใช้งาน >. >## 9) หากใช้หลังคาเมทัลชีทไปแล้วต้องการเปลี่ยนสี สามารถพ่นสีทับได้หรือไม่? >หลังคาเมทัลชีทไม่ควรพ่นหรือทาสีทับเองหลังจากการติดตั้ง เนื่องจากสีจะไม่ทนทานเท่าการทำสีมาจากโรงงานและอาจไม่สวยงาม แนะนำให้เปลี่ยนใหม่หากต้องการเปลี่ยนสี >การพ่นหรือทำสีหลังคาเมทัลชีท >ภาพ: การพ่นหรือทำสีหลังคาเมทัลชีท สีอาจไม่ทนทานและไม่สวยงามเท่าการทำสีมาจากโรงงาน >. >สนใจ หลังคาเมทัลรูฟ เอสซีจี คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >อ่านเพิ่มเติม: 6 วิธีลดร้อนให้หลังคาเมทัลชีท\{.newtab} >อ่านเพิ่มเติม: อยากทำหลังคาเมทัลชีทแต่กลัวเสียงดังตอนฝนตก จะป้องกันแก้ไขยังไงดี ?\{.newtab}
การพิจารณาความหนาของวัสดุปูพื้นให้สัมพันธ์กับระดับพื้นส่วนต่างๆ ของบ้านที่เหมาะสม เป็นเรื่องสำคัญทั้งสำหรับบ้านสร้างใหม่และบ้านที่วางแผนจะปรับปรุงพื้น เพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ติดขัด รวมถึงดูสวยงามลงตัว... > รู้ไหมว่าการที่เราใช้งานพื้นบ้านของเรา เดินเข้าออกระหว่างห้อง ระหว่างภายในบ้าน ภายนอกบ้าน ได้อย่างสะดวกสบายนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเตรียมระดับพื้นก่อนปูวัสดุให้พอดีกับวัสดุปูพื้นแต่ละประเภท > เลือกวัสดุปูพื้นแต่ละครั้ง ต้องดูระดับพื้นด้วย > การจะเลือกวัสดุปูพื้นที่มีรูปแบบสวยงามตรงใจเรานั้น จะต้องคำนึงถึง “ความหนาของวัสดุปูพื้น” ซึ่งส่งผลต่อระดับความสูงของพื้นหลังการติดตั้ง เพราะหากความหนาของวัสดุปูพื้นไม่สัมพันธ์กับระดับพื้น เมื่อติดตั้งไปแล้วอาจเกิดปัญหาตามมาไม่ว่าจะเป็น ระดับพื้นสูงเกินไปจนขัดขวางการการเปิด-ปิดประตู การก้าวขึ้นลงบันไดหรือพื้นต่างระดับที่ยากลำบาก เนื่องจากระดับพื้นไม่เหมาะสม ความไม่ลงตัวในการจบงานรอยต่อที่ชนกับวัสดุอื่น > SingleImage พื้นคอนกรีตเสริมเหล็กก่อนเทปูนปรับระดับ ภาพ: ตัวอย่างพื้นในบ้านก่อนจะตกแต่งด้วยวัสดุปูพื้น > SingleImage ระดับพื้นภายในและภายนอกบ้านที่สัมพันธ์อย่างลงตัว ภาพ: ตัวอย่างพื้นในและนอกบ้านหลังตกแต่งด้วยวัสดุปูพื้น ที่มีระดับเหมาะสม สามารถเปิดประตูเข้าออกได้ไม่ติดขัด > ทั้งนี้ การคำนึงเรื่องวัสดุปูพื้นอาจไม่ใช่แค่ตัววัสดุตกแต่งที่เราเลือกอย่างเดียว แต่รวมถึงการติดตั้งวัสดุทั้งระบบที่ใช้ในการเตรียมพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นพื้นในหรือพื้นภายนอกบ้าน เช่น ความหนาของแผ่นรองพื้นปรับระดับสำหรับวัสดุปูพื้นลายไม้ในบ้าน ความหนาของกาวซีเมนต์ที่ใช้ปูกระเบื้องเซรามิก ความหนาพื้นทรายที่รองรับกระเบื้องคอนกรีตปูพื้น บล็อกปูพื้น (กรณีปูบนพื้นดิน) > SingleImage การติดตั้งบล็อกปูพื้นบนพื้นทรายปรับระดับ ภาพ: การติดตั้งบล็อกปูพื้นบนพื้นดิน ซึ่งต้องโรยทรายและบดอัดให้แน่นก่อนจะปูบล็อก ดังนั้นในการพิจารณาเรื่องระดับพื้น จึงต้องคำนึงถึงความหนาบล็อกและความหนาของพื้นทราย > วัสดุปูพื้นภายนอกบ้าน พร้อมบริการติดตั้ง คลิก\{.button .newtab} {.centered} > วัสดุปูพื้นภายในบ้าน พร้อมบริการติดตั้ง คลิก\{.button .newtab} {.centered} > ดูความหนาของวัสดุปูพื้น สำหรับบ้านสร้างใหม่ > บ้านสร้างใหม่นับเป็นข้อได้เปรียบในการเลือกวัสดุปูพื้นที่หลากหลาย โดยเจ้าของบ้านควรเลือกวัสดุพื้นและตรวจสอบความหนาของวัสดุนั้นๆ นำไปหารือกับสถาปนิกก่อนจะสรุปแบบก่อสร้าง เพื่อเตรียมระดับพื้นก่อนตกแต่งวัสดุให้เหมาะสมสอดคล้องกับความหนาของตัววัสดุปูพื้นรวมถึงวัสดุที่ใช้ในการติดตั้งทั้งระบบ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าต้องการให้ “พื้น SPC ในห้องนอน” เชื่อมต่อเป็นระดับเดียวกันกับ “พื้นกระเบื้องเซรามิกในห้องนั่งเล่น” จะต้องเทปูนปรับระดับให้พื้นห้องนอนอยู่สูงกว่า เนื่องจากพื้น SPC (รวมโฟมยางปรับระดับแล้ว) มักหนาไม่เกิน 5-10 มม. ในขณะที่พื้นปู กระเบื้องเซรามิก\{.newtab} (รวมกาวซีเมนต์ที่ใช้ติดตั้ง) จะหนากว่า คืออยู่ที่ประมาณ 8-21 มม. ขึ้นอยู่กับรุ่นกระเบื้อง ดังนั้น พื้นห้องนั่งเล่นก่อนปูกระเบื้องจึงต้องต่ำกว่าห้องนอน เพื่อที่ว่าหลังปูวัสดุแต่ละห้องแล้วจะได้ระดับพื้นที่เท่ากัน > ดูความหนาของวัสดุปูพื้น สำหรับบ้านเดิมปรับปรุงพื้นใหม่ > โดยทั่วไปการปรับปรุงพื้นมักมีข้อจำกัดในการเลือกใช้วัสดุมากกว่าบ้านสร้างใหม่ ขึ้นอยู่กับขอบเขตของงาน หากเจ้าของบ้านต้องการรื้อวัสดุปูพื้นเดิมออกเพื่อเปลี่ยนใหม่ ก็ต้องคำนึงว่า วัสดุปูพื้นใหม่ที่เลือกใช้ ความหนาของวัสดุที่ใช้ติดตั้งหรือเตรียมพื้นนี้นั้น มีความหนาเท่าใด หากติดตั้งไปแล้วระดับพื้นจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่อย่างไร และจะลงตัวกับการใช้งานมากน้อยแค่ไหน หรือหากเจ้าของบ้านต้องการปรับปรุงพื้นภายในแบบไม่ยุ่งยากด้วยการปูวัสดุใหม่ทับพื้นเดิม อาจเลือกวัสดุที่เพิ่มความหนาไม่มาก เช่น ปูทับด้วยพรมซึ่งนิยมที่ความหนา 2-10 มม. ปูทับด้วยพื้นกันกระแทกลาย > ไม้แบบม้วน หนาประมาณ 2.3-3.8 มม. หรือปูทับด้วยไม้พื้นภายในอย่าง ลามิเนต กระเบื้องยางไวนิล พื้นSPC\{.newtab} ซึ่งมีความหนาตั้งแต่ 4-8 มม. ซึ่งจะต้องรองด้วยโฟมหรือโฟมยางปรับระดับอีกประมาณ 1-2 มม. > SingleImage การติดตั้งกระเบื้องไวนิล หรือกระเบื้องยางลายไม้ พร้อมโฟมปรับระดับพื้นไวนิล ภาพ: การติดตั้งกระเบื้องยางไวนิล พร้อมโฟมปรับระดับ > กรณีเป็นพื้นภายนอก หากต้องการปูกระเบื้องคอนกรีต\{.newtab}ทับพื้นคอนกรีตเดิมโดยใช้ปูนทราย ความหนามักเพิ่มขึ้นประมาณ 6-6.5 ซม. หรือหากต้องการทำพื้นคอนกรีตพิมพ์ลายทับพื้นเดิม ความหนาจะเพิ่มมาประมาณ 5 ซม. เป็นต้น ซึ่งล้วนต้องพิจารณาว่าระดับพื้นที่จะเพิ่มในอนาคต เหมาะสมกับการใช้งานหรือไม่ > วัสดุปูพื้นภายนอกบ้าน พร้อมบริการติดตั้ง คลิก\{.button .newtab} {.centered} > วัสดุปูพื้นภายในบ้าน พร้อมบริการติดตั้ง คลิก\{.button .newtab} {.centered} > จะเห็นได้ว่า การเลือกวัสดุปูพื้นให้เหมาะสมกับระดับพื้นเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นบ้านสร้างใหม่หรือบ้านที่ต้องการปรับปรุงพื้น เจ้าของบ้านควรคำนึงถึงความหนาของการติดตั้งครอบคลุมทั้งระบบ ทั้งตัววัสดุปูพื้นและวัสดุติดตั้งที่ต้องใช้ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเปิดปิดประตู การก้าวเดินระหว่างพื้นต่างระดับ การจบงานของรอยต่อวัสดุกับพื้นที่ข้างเคียง ทั้งนี้เจ้าของบ้านพิจารณาเลือกวัสดุพื้นอย่างรอบคอบโดยปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญไม่ว่าจะเป็นสถาปนิก นักออกแบบ หรือสอบถามผู้ขายวัสดุเพื่อให้สามารถเลือกใช้ได้อย่างมั่นใจและลงตัว
รีวิวประสบการณ์จริง จากปัญหาหลังคารั่วซึมเนื่องจากการมุงกระเบื้องไม่ถูกวิธี สู่บริการซ่อมหลังคารั่วโดยทีมช่าง SCG ที่วางใจได้ในเรื่องคุณภาพบริการ ซ่อมแซมได้ตรงจุด หมดปัญหารั่วซ้ำซาก >ปัญหาหลังคารั่วซึมจะแก้ให้หายขาดได้อย่างไร ? SCG HOME ขอถ่ายทอดด้วยรีวิวจากประสบการณ์จริง ของคุณกฤษณ์ ภักดีศรีศักดา หนึ่งในเจ้าของบ้านผู้รับบริการซ่อมหลังคารั่วจาก SCG Roof Renovation >คุณกฤษณ์เล่าย้อนถึงเหตุการณ์ในอดีตว่า ตอนที่สร้างบ้านได้เลือกใช้กระเบื้องหลังคาของ SCG คิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร แต่แล้วก็เกิดปัญหาหลังคารั่วซึมเมื่ออายุของบ้านย่างเข้าสู่ปีที่ 3 ปี “เราสังเกตเห็นว่าเวลาฝนตกจะมีน้ำรั่วลงมาจากฝ้าเพดานชั้น 2 ซึ่งตรงกับห้องนอนพอดี ยิ่งถ้าฝนตกตอนกลางคืนก็จะต้องตื่นมารองน้ำซับน้ำตลอด สร้างความลำบากในการใช้ชีวิตอย่างมาก” ซ่อมหลังคารั่ว scg แก้ปัญหาหลังคารั่ว >ภาพ: คุณกฤษณ์ ภักดีศรีศักดา เจ้าของบ้าน ผู้รีวิวประสบการณ์รับบริการซ่อมหลังคารั่วจาก SCG Roof Renovation ในครั้งนี้ >## ซ่อมหลังคารั่ว คิดถึง SCG >“ผมใช้กระเบื้องหลังคาของ SCG คิดว่าผู้ผลิตน่าจะรู้ดีที่สุด เลยติดต่อขอคำแนะนำโดยตรง ก็ได้ทราบว่ามีบริการซ่อมหลังคารั่วจาก SCG Roof Renovation ผมจึงเลือกใช้เพราะไม่อยากเสี่ยงกับช่างซ่อมหลังคาทั่วไป” ทาง SCG ได้ส่งทีมช่างเข้ามาประเมินสภาพหลังคาบ้านของคุณกฤษณ์ มีการสำรวจโดยใช้ภาพถ่ายทางโดรนทำให้เห็นหลังคาพร้อมจุดชำรุดครอบคลุมทั่วทั้งผืน สามารถอธิบายปัญหาหลังคารั่วซึมได้อย่างละเอียด โดยนำมาสรุปเป็นข้อมูลให้เจ้าของบ้านรับทราบพร้อมค่าใช้จ่ายทั้งหมด >“พอทีมงาน SCG เข้ามาสำรวจหน้างานให้ผม ก็พบว่าปัญหาหลังคารั่วซึมครั้งนี้เกิดจากการติดตั้งที่ไม่ถูกวิธี ทำให้เข้าใจเลยว่าหลังคาบ้านของเรานอกจากจะเลือกวัสดุที่ดีที่สุดแล้ว ความชำนาญของช่างก็มีส่วนสำคัญมากที่จะทำให้หลังคาอยู่ได้อย่างไร้ปัญหา” คุณกฤษณ์กล่าว สนใจ บริการปรับปรุงซ่อมแซมหลังคาบ้าน โดยผู้เชี่ยวชาญ คลิก\{.button .newtab} {.centered} >## บริการซ่อมหลังคารั่วจาก SCG สะดวก ปลอดภัย ไม่ต้องย้ายออก >การซ่อมหลังคารั่วครั้งนี้ เน้นแก้ไขบริเวณครอบหลังคาและครอบตะเข้สัน โดยรื้อกระเบื้องครอบของเดิมออกทั้งหมด มีการใช้ระบบครอบหลังคาแบบแห้ง (Drytech System) ซึ่งเป็นแผ่นใยสังเคราะห์อย่างดี ปิดทับรอยต่อที่กระเบื้องมาชนกันตลอดแนวสันหลังคา จากนั้นจึงนำกระเบื้องครอบชุดใหม่ติดตั้งทับลงไป (ช่วยป้องกันรั่วซึมได้ดีกว่าระบบครอบแบบเปียกที่ใช้ปูนและมีโอกาสแตกร้าวรั่วซึมได้หากติดตั้งผิดวิธี) หลังคารั่ว ซ่อมหลังคารั่ว scg อุดรอยรั่วหลังคา แก้ปัญหาหลังคารั่ว ครอบหลังคาแบบแห้ง ดรายเท็ค drytech system >ภาพ: ตัวอย่างชุดอุปกรณ์ของระบบครอบหลังคาแบบแห้ง (Drytech System) >คุณกฤษณ์เล่าว่า “ช่างก่อสร้างทั่วไปจะไม่มีการแจ้งแผนการทำงานให้เรารู้ ต้องคอยลุ้นเองว่าจะงานเสร็จเมื่อไหร่ เสี่ยงเรื่องการทิ้งงานและเข้างานไม่ตรงเวลาอีกด้วย บางทีก็กลัวว่าจะเกิดปัญหาเลยต้องลางานเข้ามาดูเอง ในขณะที่ทีมช่างของ SCG นั้น ก่อนเริ่มงานจะมีการส่งวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับเตรียมซ่อมหลังคา พร้อมแจ้งให้เจ้าของบ้านรับทราบถึงขั้นตอนและระยะเวลาทำงานอย่างละเอียด สามารถเห็นภาพรวมการซ่อมหลังคารั่วได้ชัดเจน” สายพานลำเลียงกระเบื้องหลังคา หลังคารั่ว ซ่อมหลังคารั่ว แก้ปัญหาหลังคารั่ว ซ่อมหลังคารั่ว scg >ภาพ: ระบบการทำงานซ่อมหลังคารั่วของ SCG ที่มีการลำเลียงกระเบื้องด้วยสายพานเพื่อความรวดเร็วและลดการแตกหัก (ซ้าย) ดำเนินงานโดยช่างผู้ชำนาญ (ขวาบน) และมีการสื่อสารกับเจ้าของบ้านอย่างชัดเจน (ขวาล่าง) >และอีกความพิเศษของบริการ SCG Roof Renovation คือทุกคนสามารถใช้ชีวิตอยู่ในบ้านได้ตามปกติ โดยช่างจะทำงานแต่ภายนอกบ้านเท่านั้น ไม่ได้มารบกวนพื้นที่ในบ้าน และไม่ต้องกังวลว่าจะมีฝุ่นผง สิ่งสกปรกอันตรายต่างๆ เข้ามาในบ้านแต่อย่างใด ในวันที่ทำการซ่อมหลังคา สมาชิกในบ้านคุณกฤษณ์ทั้งผู้สูงอายุและเด็กๆ ยังคงทำกิจวัตรประจำวันได้ หลังคารั่ว ซ่อมหลังคารั่ว อุดรอยรั่วหลังคา หลังคารั่วซึม หลังคาบ้านรั่ว แก้ปัญหาหลังคารั่ว ซ่อมหลังคารั่ว scg >ภาพ: มุมภาพจากโดรน แสดงการทำงานของช่างขณะดำเนินการซ่อมหลังคารั่ว ซึ่งระหว่างนั้น เจ้าของบ้านสามารถดำเนินกิจกรรมในบ้านได้ตามปกติ >นอกจากนี้คุณกฤษณ์ยังประทับใจเรื่องความใส่ใจและเข้าใจในความต้องการของเจ้าของบ้าน ตอนแรกกลัวจะซ่อมหลังคาเสร็จไม่ทัน เพราะเป็นหน้าฝนซึ่งต้องเสี่ยงกับพายุฝนและหลังคารั่วซึมหนักกว่าเดิม แต่ก็พบว่าทีมช่างได้เตรียมพร้อมอย่างดี เมื่อฝนตกจะนำผ้าใบและพลาสติกมาคลุมส่วนที่กำลังก่อสร้าง ป้องกันไม่ให้น้ำหยดเข้าตัวบ้าน คุณกฤษณ์เล่าถึงประสบการณ์ตรงนี้ว่า “การซ่อมหลังคารั่วช่วงหน้าฝน ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว ถ้าช่างของเราเตรียมพร้อมเสมอก็สามารถซ่อมได้ ไม่มีปัญหาอะไรครับ” สนใจ บริการปรับปรุงซ่อมแซมหลังคาบ้าน โดยผู้เชี่ยวชาญ คลิก\{.button .newtab} {.centered} >## ซ่อมหลังคารั่วฉบับ Safety First ปลอดภัย มั่นใจ >“ผมรู้สึกว่า SCG Roof Renovation ให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยอย่างมาก ทั้งสำหรับเจ้าของบ้าน สมาชิกในบ้าน เพื่อนบ้านใกล้เคียง รวมถึงตัวทีมช่างเองด้วย โดยช่างจะใส่อุปกรณ์ Safety ครบชุด ระหว่างที่ช่างทำงาน คุณแม่ และลูกๆ ก็สามารถใช้ชีวิตในบ้านได้ตามปกติ ไม่ต้องกังวลว่าจะได้รับอันตราย หลังจบงานแต่ละวันยังมีการทำความสะอาดให้อีกด้วย” คุณกฤษณ์กล่าว อุปกรณ์Safety ความปลอดภัย หลังคารั่ว ซ่อมหลังคารั่ว แก้ปัญหาหลังคารั่ว ซ่อมหลังคารั่ว scg >ภาพ: ขณะดำเนินการซ่อมหลังคารั่ว ทีมช่างจะใส่อุปกรณ์ Safety เพื่อความปลอดภัยอยู่เสมอ สนใจ บริการปรับปรุงซ่อมแซมหลังคาบ้าน โดยผู้เชี่ยวชาญ คลิก\{.button .newtab} {.centered} >## ซ่อมหลังคารั่วได้มาตรฐาน จบปัญหายาวนาน >“เห็นได้ชัดว่าบริการของ SCG Roof Renovation ต่างจากบริการติดตั้งปรับปรุงซ่อมแซมหลังคาทั่วไป เนื่องจากทีมช่างของ SCG ผ่านการอบรมตามมาตรฐานบริษัท มีประสบการณ์และทักษะการทำงานเป็นมืออาชีพสูง ซ่อมหลังคาได้อย่างละเอียดราบรื่น ใช้เวลาไม่นาน จึงมั่นใจได้ในคุณภาพการบริการ” >คุณกฤษณ์กล่าวต่อว่า “หากมีโอกาสแนะนำเพื่อนหรือใครก็ตามที่อยากซ่อมหลังคาบ้าน ก็อยากแนะนำให้ใช้บริการ SCG Roof Renovation เพราะทีมช่างดูแลบ้านเราดีมาก ทำงานเร็ว มีระบบขั้นตอนชัดเจน ปลอดภัย และเรียบร้อย เราเองก็อยู่บ้านในได้ไม่ต้องย้ายออก ไม่ต้องเสียเงินเสียเวลามาซ่อมหลังคารั่วทุกหน้าฝนอีกต่อไป” หลังคารั่ว ซ่อมหลังคารั่ว scg แก้ปัญหาหลังคารั่ว กระเบื้องเอ็กเซลล่า excella หลังคาเอ็กเซลล่า-กระเบื้องหลังคาเซรามิก กระเบื้องexcella >ภาพ: หลังคาบ้านของคุณกฤษณ์ ภักดีศรีศักดา หลังจากดำเนินการซ่อมหลังคารั่วเสร็จเรียบร้อย ดูสวยงามกลมกลืนตลอดทั้งผืนโดยไม่เห็นความต่างระหว่างกระเบื้องหลังคาของเดิมกับกระเบื้องครอบของใหม่ (ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบของกระเบื้องหลังคาเซรามิก) สนใจ บริการปรับปรุงซ่อมแซมหลังคาบ้าน โดยผู้เชี่ยวชาญ คลิก\{.button .newtab} {.centered}
เล่าที่มาของครัวต่อเติมทรุด รวมถึงปัญหาที่ตามมาหลังจากครัวทรุด ทั้งการแตกร้าวของพื้นผนัง และปัญหาด้านโครงสร้าง > การต่อเติมครัวหลังบ้าน เป็นหนึ่งในการต่อเติมบ้านที่นิยมกันมาก ตามมาด้วย “ครัวต่อเติมทรุด” ที่มักกลายเป็นปัญหายอดนิยมด้วยเช่นกัน ซึ่งในวันนี้เราจะมาพูดถึงที่มาว่าทำไมครัวต่อเติมถึงทรุด และปัญหาที่ตามมาเมื่อครัวทรุดจะมีอะไรได้บ้าง > ครัวต่อเติมทรุดเพราะลงเสาเข็มสั้น > อธิบายกันก่อนว่าพื้นที่ทั่วไปที่ไม่ใช่บริเวณภูเขา ชั้นดินแข็งจะอยู่ลึกลงไปด้านล่าง สำหรับกทม. ปริมณฑล ส่วนใหญ่ชั้นดินแข็งจะอยู่ลึกประมาณ 17-23 ม. ส่วนดินที่อยู่เหนือจากนั้นขึ้นมาจนถึงผิวดินจะเป็นชั้นดินอ่อนซึ่งมีแรงพยุงน้อย การสร้างบ้านทั่วไปจึงต้องลงเสาเข็มให้ลึกไปถึงชั้นดินแข็งเพื่อพยุงบ้านไม่ให้ทรุดตัว การลงเสาเข็มต่อเติมครัวก็เช่นกัน หากไม่ลงลึกถึงชั้นดินแข็ง หรือไม่ได้ลงเสาเข็มเลย เหตุการณ์ครัวต่อเติมทรุดย่อมเกิดขึ้นได้ และมักตามมาซึ่งปัญหาต่างๆ ได้แก่... > ครัวต่อเติมทรุด พื้นผนังแยก แตกร้าว รั่วซึม > การต่อเติมครัวโดยลงเสาเข็มสั้นนั้น หากมีการหล่อพื้น ก่อผนัง ชนกับตัวบ้าน เมื่อครัวต่อเติมทรุด รอยต่อพื้นรวมถึงกระเบื้องพื้นและรอยต่อผนังมักเกิดการแตกร้าว แยกออก จนเกิดเป็นช่องทำให้น้ำรั่วซึมเข้ามาได้ และหากยึดโครงสร้างครัวต่อเติมไว้กับตัวบ้านก็มักจะเกิดการทรุดเอียง เนื่องจากครัวต่อเติมด้านที่ไม่ได้ยึดกับตัวบ้านจะถูกน้ำหนักดึงลงไปอย่างรวดเร็วมากกว่า > ครัวทรุด ครัวต่อเติมทรุด แก้ปัญหาครัวทรุด ต่อเติมครัว ต่อเติมครัวหลังบ้าน ภาพ: (ซ้าย) ส่วนต่อเติมทรุด แยกออกจากตัวบ้านเป็นช่องทางให้น้ำรั่ว รวมถึงฝุ่น แมลงเข้ามารบกวนจากภายนอกได้ และ (ขวา) ครัวต่อเติมทรุดจนกระเบื้องพื้นแตกร้าวและพื้นเอียงจนไม่สามารถปิดประตูได้ > บริการต่อเติมครัวโดยทีมงานมืออาชีพ จาก HomeSmile คลิก\{.button .newtab} {.centered} > โครงสร้างเสียหาย เพราะต่อเติมครัวยึดเข้ากับตัวบ้าน > การต่อเติมครัวโดยยึดโครงสร้างเข้ากับโครงสร้างบ้านเดิมนั้น นอกจากจะเกิดปัญหาการทรุดเอียง พื้นผนังแตกร้าวแล้ว อีกเรื่องสำคัญที่เจ้าของบ้านจะต้องตระหนักคือ โครงสร้างบ้านจะต้องรับภาระน้ำหนักส่วนต่อเติมที่เพิ่มมาโดยไม่ได้ถูกคำนวณไว้แต่แรก และเมื่อครัวต่อเติมทรุด โครงสร้างอาจถูกดึงรั้งกันจนเสียหาย นำมาซึ่งปัญหาอันตรายด้านโครงสร้างได้ในอนาคต > text ครัวทรุด ครัวต่อเติมทรุด แก้ปัญหาครัวทรุด ต่อเติมครัว ต่อเติมครัวหลังบ้าน ลงเสาเข็มต่อเติมครัว เสาเข็มต่อเติมบ้านภาพ: ครัวต่อเติมลงเสาเข็มสั้นยึดกับตัวบ้าน เมื่อครัวทรุดจะดึงรั้งตัวบ้านจนกระทบกับโครงสร้างได้ > ครัวทรุด ครัวต่อเติมทรุด แก้ปัญหาครัวทรุด ต่อเติมครัว ต่อเติมครัวหลังบ้าน ภาพ: รอยร้าวแนวเฉียงบนผนัง เป็นหนึ่งในสัญญาณแสดงปัญหาการทรุดที่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้าง ถือเป็นรอยร้าวอันตรายซึ่งควรรีบปรึกษาวิศวกร > แก้ปัญหาครัวต่อเติมทรุดแตกร้าว > รอยแตกร้าวบริเวณพื้น ผนังที่เกิดขึ้น อาจซ่อมแซมเฉพาะจุดโดยใช้วัสดุอุดยาแนวปิดรอยแตก ไปจนถึงทุบรื้อ ทำใหม่บางส่วนหรือทั้งหมด ขึ้นอยู่กับความเสียหายมากน้อยตามสภาพที่เกิดขึ้น ส่วนกรณีที่โครงสร้างบ้านเสียหายด้วยเพราะโดนส่วนต่อเติมดึงรั้ง ถือว่าอันตราย ควรรีบปรึกษาวิศวกรเพื่อทำการแก้ไขโดยเร็ว ต่อเติมครัวครั้งถัดไป กันไว้ดีกว่าแก้ > การลงเสาเข็มครัวต่อเติมเข็มให้ลึกถึงชั้นดินแข็งเพื่อป้องกันครัวต่อเติมทรุด ถือเป็นเรื่องดี กรณีพื้นที่จำกัดอาจเลือกเสาเข็มไมโครไพล์ซึ่งใช้เครื่องตอกขนาดเล็กและเกิดแรงสั่นสะเทือนน้อยกว่าเสาเข็มเจาะ แม้จะเป็นทางเลือกที่ค่าใช้จ่ายสูง แต่ก็ดูคุ้มค่าในระยะยาว อย่างไรก็ตาม หากเจ้าของบ้านไม่สะดวกจะจัดสรรงบประมาณในส่วนนี้ และยอมรับการทรุดในอนาคตได้ จะต้องปฏิบัติตามหลักการต่อเติมบ้านที่ถูกต้องอย่างเคร่งครัด นั่นคือ ส่วนต่อเติมกับตัวบ้านจะต้องแยกจากกันทั้งส่วนของวัสดุและโครงสร้าง หมายถึงจะต้องมีเสา คาน อีกชุดสำหรับรองรับส่วนต่อเติมทั้งหมด โดยไม่ไปฝากน้ำหนักไว้กับเสาคานของตัวบ้าน นอกจากนี้วัสดุต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น พื้น ผนัง ไม่ควรก่อหรือหล่อชนกับตัวบ้าน แต่ให้ใช้วัสดุที่ยืดหยุ่นได้ เช่น โฟมยาง คั่นรอยต่อแทน > เสาเข็มไมโครไพล์ ไมโครไพล์ micropile ลงเสาเข็มต่อเติมครัว เสาเข็มต่อเติมบ้าน ภาพ: การลงเสาเข็มไมโครไพล์ซึ่งใช้เครื่องมือตอกขนาดเล็ก เหมาะกับการต่อเติมบ้านในพื้นที่จำกัด ตัวเสาเข็มยาวท่อนละ 1.5 ม. สามารถตอกต่อกันลึกไปถึงชั้นดินแข็งได้ > ครัวทรุด ครัวต่อเติมทรุด แก้ปัญหาครัวทรุด ต่อเติมครัว ต่อเติมครัวหลังบ้าน ลงเสาเข็มต่อเติมครัว เสาเข็มต่อเติมบ้าน ภาพ: การต่อเติมครัวหรือต่อเติมบ้านแบบลงเสาเข็มสั้นสำหรับรองรับส่วนต่อเติมโดยเฉพาะ ไม่ฝากน้ำหนักไว้กับตัวบ้าน > ทั้งนี้ หลักการที่ว่าจะต้องแยกส่วนต่อเติมกับตัวบ้านนั้น ไม่ได้ใช้เฉพาะกรณีลงเสาเข็มสั้นอย่างเดียว แต่รวมถึงการต่อเติมบ้านโดยลงเสาเข็มลึกถึงชั้นดินแข็งด้วย เผื่อมีการการขยับเขยื้อนของชั้นดินในอนาคต โครงสร้างและฐานรากเสาเข็มของส่วนต่อเติมกับบ้านจะได้ไม่กระทบหรือสร้างความเสียหายซึ่งกันและกัน อีกข้อสำคัญที่จะลืมไม่ได้ คือการต่อเติมครัวหรือต่อเติมบ้านแต่ละครั้งควรเลือกทีมช่าง ผู้รับเหมา ที่มีความชำนาญ ทำงานได้มาตรฐานและต่อเติมอย่างถูกต้องตามหลักการ เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดปัญหาในระยะยาว > แก้ปัญหาครัวทรุด ต่อเติมครัว ต่อเติมครัวหลังบ้าน ลงเสาเข็มต่อเติมครัว เสาเข็มต่อเติมบ้าน ภาพ: ตัวอย่างการต่อเติมบ้านที่มีโครงสร้าง เสา คาน สำหรับรองรับน้ำหนักของส่วนต่อเติมโดยเฉพาะ โดยไม่มีการฝากน้ำหนักส่วนต่อเติมไว้กับตัวบ้าน (ขอบคุณภาพจาก HomeSmile) > บริการต่อเติมครัวโดยทีมงานมืออาชีพ จาก HomeSmile คลิก\{.button .newtab} {.centered} > อ่านเพิ่มเติม: จะต่อเติมครัวหลังบ้าน ลงเสาเข็มอย่างไรดี ?
ประตูหน้าต่างมุ้งลวดถือเป็นหน้าตาสำคัญอันหนึ่งของบ้าน นอกจากประโยชน์ใช้สอยในการป้องกันสัตว์และฝุ่นละอองแล้ว การเลือกประเภทและรูปแบบยังสามารถสะท้อนถึงไลฟ์สไตล์ของเจ้าของบ้านได้อีกด้วย >สิ่งหนึ่งที่มักถูกหลงลืมไประหว่างขั้นตอนการออกแบบก็คือมุ้งลวดประตูหน้าต่าง ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับที่พักอาศัยในเขตร้อนชื้นอย่างบ้านเรา ประโยชน์หลักก็เพื่อป้องกันแมลงและสัตว์พาหะที่ไม่พึงประสงค์ และช่วยกันเศษฝุ่นละอองที่อาจลอยมาจากท้องถนนภายนอก นอกจากนี้ยังช่วยลดความเข้มข้นของแสงแดดที่สาดสะท้อนเข้าตัวบ้าน โดยที่อากาศภายในยังคงหมุนเวียนถ่ายเทได้ดี >ปัจจุบันมุ้งลวดมีหลากหลายประเภทมากขึ้น ทั้งรูปแบบและวัสดุ จึงต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของเจ้าของบ้าน มุ้งลวด ป้องกันแมลง สัตว์พาหะ กันเศษฝุ่นละออง ลดความเข้มของแสงแดด อากาศภายในหมุนเวียนถ่ายเทได้ดี >ภาพ: ประโยชน์หลักของมุ้งลวดคือ ช่วยป้องกันแมลง-สัตว์พาหะ และช่วยกันเศษฝุ่นละออง อีกทั้งช่วยลดความเข้มของแสงแดด โดยที่อากาศภายในยังคงหมุนเวียนถ่ายเทได้ดี >## รูปแบบของมุ้งลวดประตูหน้าต่างที่พบเห็นได้บ่อย >1. มุ้งลวดบานเปิด เป็นรูปแบบมาตรฐานที่พบเห็นได้มากที่สุด ข้อดีคือไม่ต้องมีการติดตั้งรางเพิ่มเติม ราคาไม่แพง แต่อาจเกะกะพื้นที่ในกรณีที่ต้องการเปิดมุ้งลวดหน้าต่างทิ้งไว้ เพราะวงเปิดมักจะอยู่ภายในบ้าน >2. มุ้งลวดบานเลื่อน มีความทันสมัยและเป็นที่นิยมเช่นเดียวกับแบบบานเปิด ต้องติดตั้งตัวรางเพิ่มเติม แต่ประหยัดพื้นที่มากกว่า และสามารถเปิดหน้าต่างบานเลื่อนค้างไว้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้สอยภายใน >3. มุ้งลวดจีบ โดดเด่นในเรื่องความสวยงามของการจับจีบ สามารถรวบเก็บตัวมุ้งไว้ด้านข้างในเวลาที่ไม่ต้องการใช้งาน จึงยืดหยุ่นมากกว่า สามารถติดตั้งกับบานประตูหน้าต่างขนาดใหญ่พิเศษได้ ข้อเสียคือมีอายุการใช้งานสั้นกว่ามุ้งลวดสองแบบแรก รวมไปถึงการทำความสะอาดที่ยากกว่าด้วย >## วัสดุที่ใช้ผลิตมุ้งลวดมีกี่ประเภท และแตกต่างกันอย่างไร >วัสดุมุ้งลวดที่นิยมในตลาดมีทั้งหมด 4 แบบ ซึ่งมีคุณสมบัติแตกต่างกันดังนี้ >1. อะลูมิเนียม ผลิตจากเส้นอะลูมิเนียม จึงมีความเหนียวและแข็งแรงตามสมควร เป็นมุ้งลวดมาตรฐานที่นิยมใช้กับบ้านเรือนมายาวนานที่สุด ราคาถูกกว่าวัสดุประเภทอื่น แต่ก็ผุกร่อนและเกิดสนิมง่ายกว่าด้วยเช่นกัน จึงไม่เหมาะสมกับบ้านพักตากอากาศชายทะเล ซึ่งมีปัจจัยเรื่องความชื้นและเกลือสูง >2. ไนลอน ผลิตจากเส้นใยสังเคราะห์ เหนียวและทนทาน มีความยืดหยุ่นสูง แต่มีความโปร่งน้อยกว่าวัสดุประเภทอื่น เนื่องจากเส้นไนลอนค่อนข้างหนา เหมาะกับการนำมาทำมุ้งจีบเพราะสามารถคงตัวได้ดี >3. ไฟเบอร์ หรือใยแก้ว มีความยืดหยุ่นแข็งแรง คุณสมบัติเด่นคือทนต่อการกัดกร่อน ลดปัญหาการเกิดสนิม จึงสามารถใช้ในที่พักอาศัยริมทะเลได้ แต่อาจฉีกขาดจากแรงกระแทกได้ง่ายกว่าแบบอะลูมิเนียม >4. นิรภัยสเตนเลส เป็นวัสดุที่อยู่กึ่งกลางระหว่างมุ้งลวดทั่วไปและเหล็กดัด ผลิตจากตาข่ายสเตนเลสหรือเหล็กไร้สนิม คุณสมบัติแข็งแร็งและมีอายุการใช้งานยาวนาน ทนทานต่อแรงกระแทก จึงเหมาะกับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงขนาดใหญ่ ข้อเสียสำคัญคือราคาสูง รูปแบบ มุ้งลวดจีบ >ภาพ: ตัวอย่างรูปแบบ มุ้งลวดจีบ รูปแบบ มุ้งลวดบานเลื่อน >ภาพ: ตัวอย่างรูปแบบ มุ้งลวดบานเลื่อน >## ไลฟ์สไตล์ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญในการเลือกมุ้งลวด >นอกจากรูปแบบและประเภทวัสดุที่กล่าวมาแล้วนี้ ไลฟ์สไตล์ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ เช่นเดียวกับบริบทของสภาพแวดล้อมและค่านิยมที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งมุ้งลวดก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยแก้ไขปัญหาและเพิ่มความสะดวกสบายได้ >อาทิ บ้านที่มีสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะน้องหมาน้องแมวแสนซน วัสดุของมุ้งลวดที่เลือกควรจะทนทานต่อการขีดข่วนและเล็บสัตว์ เช่นมุ้งลวดนิรภัยสเตนเลส หรือโพลีเอสเตอร์ที่ระบุเจาะจงว่า Pet Screen หรือ Pet Mesh เพื่อยืดระยะเวลาการใช้งานให้ยืนยาวขึ้น ปัจจุบันมีการผลิตประตูมุ้งลวดที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรักสัตว์ในรูปแบบที่หลากหลาย ยกตัวอย่างเช่นการเพิ่มช่องแมวลอด หรือ Pet Door บนบานประตู เพื่อให้น้องหมาน้องแมวขนาดเล็กสามารถเดินเข้าออกได้เอง โดยที่เจ้าของบ้านไม่ต้องเสียเวลาลุกไปเปิดปิดประตูให้ทุกครั้ง แต่ข้อจำกัดคือไม่สามารถติดตั้งบนประตูมุ้งลวดบานเลื่อนได้ จึงต้องเลือกใช้รูปแบบประตูบานเปิดแทน ประตูมุ้งลวด Pet Screen สำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงแสนซน >ภาพ: ประตูมุ้งลวดสำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงแสนซน ที่มีช่องสำหรับน้องแมวน้องหมาให้เดินเข้าออกได้เอง >ในบางพื้นที่อาจจะมีปัญหาแตกต่างกันในเรื่องของสัตว์ไม่พึงประสงค์ นอกจากยุงแล้ว ยังมีจิ้งจกเป็นอีกหนึ่งตัวการสำคัญ หลายบ้านอาจประสบปัญหาว่าจิ้งจกยังคงเล็ดรอดเข้ามาได้ แม้จะติดมุ้งลวดแล้วก็ตาม ทั้งนี้เกิดจากลักษณะของบานประตูหน้าต่าง รวมถึงมุ้งลวดที่เลือกใช้ ซึ่งต้องไม่มีช่องว่างเลยแม้แต่น้อย เพราะจิ้งจกสามารถลอดผ่านรูขนาดเล็กได้อย่างไม่น่าเชื่อ หากยังไม่แน่ใจในประสิทธิภาพ ก็สามารถเลือกรุ่นมุ้งลวดที่แจ้งคุณสมบัติว่าป้องกันจิ้งจกได้ ซึ่งมีหลายผู้ผลิตรับประกัน มุ้งลวดป้องกันจิ้งจก >ภาพ: มุ้งลวดป้องกันจิ้งจก ที่ออกแบบมาสำหรับการป้องกันจิ้งจกเข้าบ้านโดยเฉพาะ โดยจะไม่มีรูหรือช่องว่างเลยแม้แต่น้อย นอกจากนี้ยังสามารถช่วยกันงูเข้าบ้านได้อีกด้วย >หรือแม้แต่ปัญหามลพิษและฝุ่นละอองที่กลายมาเป็นประเด็นสำคัญในช่วงปีที่ผ่านมา ยังผลให้เกิดการผลิตมุ้งลวดเพื่อป้องกัน PM2.5 โดยเฉพาะ ซึ่งถ้าเจ้าของบ้านมีไลฟ์สไตล์ที่คำนึงถึงสุขภาพอนามัยเป็นหลัก รวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัวและประวัติภูมิแพ้ ก็อาจเลือกมุ้งลวดโดยยึดประเด็นนี้เป็นสำคัญ >ประตูหน้าต่างมุ้งลวดจึงถือได้ว่าเป็นองค์ประกอบที่ไม่อาจมองข้าม ต้องพิจารณาเลือกสรรอย่างรัดกุม เพื่อประโยชน์ใช้สอยที่ครอบคลุมและเหมาะสมกับเจ้าของบ้าน สนใจ มุ้งลวดพร้อมบริการติดตั้ง คลิก\{.button .newtab} {.centered}
เลือกเครื่องชงกาแฟไว้ใช้ที่บ้านให้เหมาะสมกับการใช้งาน งบประมาณ และสไตล์การดื่มกาแฟ เครื่องชงกาแฟมีกี่ประเภท ลักษณะต่าง ๆ ข้อดีและข้อจำกัดที่ควรรู้ก่อนเลือกใช้ >. >“กาแฟ” เครื่องดื่มยอดนิยมทั่วโลก โดยเฉพาะในบ้านเรา สังเกตได้จากร้านคาเฟ่ที่เปิดกันมากมายและไลฟ์สไตล์ของหลายคนที่มักดื่มทุกเช้าก่อนออกไปทำงานหรือระหว่างวันเพื่อช่วยกระตุ้นให้สดชื่นผ่อนคลาย สำหรับผู้ชื่นชอบหลงไหลถึงขั้นอยากมีมุมกาแฟไว้ที่บ้าน ก็มีเครื่องชงกาแฟให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่แบบใช้งานง่ายสะดวกสบายแต่ยังได้กลิ่นหอมกาแฟและรสชาติที่ถูกใจ ไปจนถึงเครื่องชงกาแฟแบบมืออาชีพระดับบาริสต้าตัวจริง SCGHOME.COM รวบรวมเครื่องชงกาแฟสำหรับไว้ใช้งานที่บ้าน ซึ่งแบ่งได้เป็น 6 ประเภท ได้แก่ เครื่องชงกาแฟแบบแคปซูล (Capsule/Pod Machine), เครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซ่ (Espresso Machine), เครื่องชงกาแฟดริป (Drip Coffee Maker), เครื่องชงกาแฟแบบ French Press, เครื่องชงกาแฟแบบ Moka Pot (หม้อต้มกาแฟ) และเครื่องชงกาแฟแบบ Cold Brew >. >## ประเภทของเครื่องชงกาแฟ >## 1. เครื่องชงกาแฟแบบแคปซูล (Capsule/Pod Machine) >เป็นเครื่องชงกาแฟที่ใช้งานร่วมกับ “แคปซูลกาแฟ” หรือ “พ็อดกาแฟ” ซึ่งเป็นกาแฟคั่วบดสูตรต่าง ๆ ที่บรรจุอยู่ในแคปซูลพลาสติกหรืออะลูมิเนียมขนาดเล็ก เครื่องจะเจาะแคปซูลและฉีดน้ำร้อนแรงดันสูงเข้าไป เพื่อสกัดกาแฟออกมาในเวลาไม่กี่วินาที เหมาะกับคนที่อยากดื่มกาแฟเร็ว ๆ ทุกเช้า ไม่ต้องวุ่นวายกับการชง ออฟฟิศหรือบ้านที่มีหลายคนใช้งาน ต้องการความสะอาดและความสะดวก >ข้อดี >๐ ใช้งานง่ายมาก แค่ใส่แคปซูล ปิดฝา และกดปุ่ม รอไม่ถึง 1 นาที >๐ สะอาด ไม่ต้องเทผงกาแฟ ไม่ต้องแทมป์ หรือล้างหัวชงเหมือนเครื่องเอสเปรสโซ่ >๐ คุณภาพสม่ำเสมอ เพราะปริมาณกาแฟถูกกำหนดมาพอดีในแต่ละแคปซูล >๐ มีรสชาติหลากหลายให้เลือก เช่น เอสเปรสโซ่ ลาเต้ มอคค่า ฯลฯ ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ >ข้อจำกัด >๐ ต้นทุนต่อแก้วสูง ราคาแคปซูลมักอยู่ที่ 15–30 บาท/ชิ้น >๐ จำกัดยี่ห้อกาแฟ บางเครื่องใช้ได้เฉพาะแคปซูลของแบรนด์ตนเอง >๐ ไม่สามารถปรับความเข้ม ปริมาณกาแฟ หรือบดเมล็ดเองได้ >๐ มีขยะจากแคปซูล ถึงแม้บางยี่ห้อจะมีโปรแกรมรีไซเคิล >Pod Machine >ภาพ: เครื่องชงกาแฟแบบแคปซูล (Capsule/Pod Machine) >. >## 2. เครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซ่ (Espresso Machine) >เครื่องชงกาแฟที่สกัดกาแฟด้วยแรงดันสูง (โดยทั่วไปคือ 9 บาร์) ผ่านผงกาแฟบดละเอียด เพื่อให้ได้ "เอสเปรสโซ่" ซึ่งเป็นกาแฟที่เข้มข้น มีกลิ่นหอม และมีครีม่า (ฟองกาแฟสีทองด้านบน) เหมาะกับคนที่จริงจังกับการดื่มกาแฟ ชอบลองเมล็ดกาแฟหลายแบบ อยากชงกาแฟแบบบาริสต้า แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ >1) เครื่องชงกึ่งอัตโนมัติ (Semi-Automatic) เป็นเครื่องที่ร้านกาแฟเลือกใช้ เพราะสามารถควบคุมการชงได้เองอย่างอิสระ ต้องบดเมล็ดเอง กดกาแฟเอง (แทมป์) และกดปุ่มสกัด >2) เครื่องชงอัตโนมัติ (Fully Automatic) ง่ายและสะดวกมาก เพราะเครื่องจะบดกาแฟ อัด และชงให้โดยอัตโนมัติ เพียงแค่เติมเมล็ด น้ำ และนม แล้วกดปุ่ม >3) เครื่องชงซุปเปอร์อัตโนมัติ (Super Automatic) มีฟังก์ชันทุกอย่างในตัว รวมถึงทำฟองนมอัตโนมัติ เหมาะกับคนที่ต้องการความพรีเมียม มีราคาสูง (ราคาเริ่มต้น 30,000 บาท) >ข้อดี >๐ กาแฟคุณภาพสูง รสชาติเหมือนคาเฟ่ >๐ ปรับแต่งรสชาติได้ตามใจ >๐ สามารถใช้กับเมล็ดกาแฟที่คุณชอบได้ทุกยี่ห้อ >๐ ทำฟองนมเองได้ (ลาเต้/คาปูชิโน่) >ข้อจำกัด >๐ ต้องเรียนรู้พื้นฐานการชง (บด–แทมป์–เวลาไหล) >๐ ใช้งานยากกว่าสำหรับมือใหม่ โดยเฉพาะแบบกึ่งอัตโนมัติ >๐ ใช้เวลาในการทำความสะอาด และต้องใส่ใจมากกว่าระบบอื่น >๐ ราคาเครื่องเริ่มต้นที่สูงกว่าระบบอื่น >Espresso Machine >ภาพ: เครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซ่ (Espresso Machine)/เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ >. >## 3. เครื่องชงกาแฟดริป (Drip Coffee Maker) >เป็นอุปกรณ์สำหรับชงกาแฟโดยใช้วิธี “ดริป” หรือ “หยดน้ำร้อนผ่านผงกาแฟ” เพื่อสกัดรสชาติออกมาอย่างช้า ๆ เหมาะสำหรับมือใหม่หัดดื่มกาแฟ ผู้ที่ชอบกาแฟรสชาติละมุน ไม่เข้มจนเกินไป >ข้อดี >๐ ประหยัดเวลา เพราะชงกาแฟดำหลายแก้วในครั้งเดียว >๐ ใช้งานง่าย เพียงใส่น้ำ ผงกาแฟ และกดปุ่ม เครื่องจะทำงานให้อัตโนมัติ >๐ ดูแลง่าย เพียงแค่ล้างโถและที่กรองหลังการใช้งาน >ข้อจำกัด >๐ ไม่สามารถทำเอสเปรสโซหรือนมฟอง >๐ ไม่เหมาะกับคนที่ชอบกาแฟเข้ม >Drip Coffee >ภาพ: เครื่องชงกาแฟดริป (Drip Coffee Maker) >. >## 4. เครื่องชงกาแฟแบบ French Press >เป็นอุปกรณ์ชงกาแฟแบบแมนนวล โดยใช้น้ำร้อนเทลงบนผงกาแฟในโถแก้ว (หรือสเตนเลส) ทิ้งไว้ให้กาแฟสกัด แล้วใช้แผ่นกรองโลหะกดลงไป เพื่อแยกกากกาแฟออกจากน้ำกาแฟ เหมาะกับคนที่ชอบกาแฟดำ เข้มข้น ชอบกลิ่นกาแฟธรรมชาติ สายชิลล์/ชงกาแฟตอนเช้า >ข้อดี >๐ ใช้งานง่าย ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า เหมาะกับการใช้งานทุกที่ >๐ ได้รสชาติกาแฟเข้มข้น มี Body เต็ม เนื่องจากไม่มีการกรองด้วยกระดาษ (น้ำมันกาแฟยังอยู่) >๐ ราคาประหยัด เครื่องไม่แพง และไม่ต้องใช้กระดาษกรอง >๐ ควบคุมการสกัดได้เอง เช่น เวลาแช่ ปริมาณกาแฟ อุณหภูมิของน้ำ >๐ เหมาะกับกาแฟบดหยาบ ลดความยุ่งยากในการเตรียมกาแฟ >ข้อจำกัด >๐ อาจมีตะกอนจากกากกาแฟ เพราะใช้แผ่นกรองโลหะแบบหยาบ >๐ ต้องใช้ทักษะเล็กน้อย เช่น บดกาแฟให้เหมาะ ควบคุมเวลาและอุณหภูมิ >๐ ต้องล้างเครื่องทุกครั้งหลังใช้ เพราะจะมีกากกาแฟติดอยู่ในก้นโถและแผ่นกรอง >French Press >ภาพ: เครื่องชงกาแฟแบบ French Press >. >## 5. เครื่องชงกาแฟแบบ Moka Pot (หม้อต้มกาแฟ) >หรือที่หลายคนเรียกกันว่า “หม้อต้มกาแฟอิตาเลียน” เป็นอุปกรณ์ชงกาแฟแบบแรงดันต่ำที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในประเทศแถบยุโรปและลาตินอเมริกา ใช้หลักการต้มน้ำให้เดือดจนเกิดแรงดันไอน้ำ ดันน้ำผ่านผงกาแฟขึ้นไปยังหม้อบน ทำให้ได้กาแฟที่เข้มข้นกว่ากาแฟดริปหรือ French Press แต่ไม่ถึงขั้นเอสเปรสโซ เหมาะกับคนที่ชอบกาแฟเข้มในราคาประหยัด >ข้อดี >๐ ให้กาแฟสไตล์เข้มคล้ายเอสเปรสโซโดยไม่ใช้ไฟฟ้า >๐ ราคาย่อมเยา >ข้อจำกัด >๐ ใช้งานยุ่งยากเล็กน้อย เพราะต้องใช้เตาในการต้ม >Moka Pot >ภาพ: เครื่องชงกาแฟแบบ Moka Pot (หม้อต้มกาแฟ) >. >## 6. เครื่องชงกาแฟแบบ Cold Brew >เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อชงกาแฟเย็นโดยเฉพาะ โดยการแช่กาแฟบดหยาบในน้ำเย็นเป็นเวลานาน (ประมาณ 8–24 ชั่วโมง) แทนการใช้น้ำร้อนแบบทั่วไป หลังครบเวลาให้เทแยกน้ำกาแฟออกจากกาก (บางรุ่นมีตัวกรองในตัว) เก็บไว้ในตู้เย็น ดื่มแบบเย็น หรือจะนำไปผสมกับนม น้ำเชื่อม หรือโซดาก็ได้ เหมาะกับผู้ที่ชอบกาแฟเย็นแบบกลมกล่อม ไม่ขม ไม่เปรี้ยว และอยากชงไว้ดื่มหลายวัน >ข้อดี >๐ รสชาตินุ่มนวล กลมกล่อม ไม่ขม ไม่เปรี้ยว >๐ มีกรดต่ำ ดื่มง่าย ไม่ระคายกระเพาะ >๐ ชงครั้งเดียว เก็บไว้ในตู้เย็นดื่มได้หลายวัน (3–5 วัน) >ข้อจำกัด >๐ ใช้เวลาในการชงนานมาก (ต้องรอหลายชั่วโมง) >๐ เหมาะกับการดื่มเย็น ไม่เหมาะถ้าชอบดื่มร้อน >๐ ต้องใช้น้ำสะอาด เพราะไม่มีการต้มฆ่าเชื้อ >Cold Brew >ภาพ: เครื่องชงกาแฟแบบ Cold Brew >. >## สรุปความแตกต่างของเครื่องชงกาแฟ >เครื่องชงกาแฟสำหรับไว้ใช้งานที่บ้าน ทั้ง 6 ประเภท มีความแตกต่างกันที่น่าสนใจ ดังนี้ >ความแตกต่างของเครื่องชงกาแฟ >. >สรุปคือ หากเน้นความสะดวกสบายไม่ยุ่งยาก แนะนำให้ใช้เครื่องชงกาแฟแบบแคปซูล (Capsule/Pod Machine) แต่หากต้องการรสชาติกาแฟเข้มข้น ทำลาเต้/คาปูชิโนได้ แนะนำให้ใช้เครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซ (Espresso Machine) หากงบไม่มาก แต่ชอบชงเองแบบง่าย ๆ แนะนำให้ใช้เครื่องชงกาแฟ Drip หรือ French Press หรือ Moka Pot ก็ได้ และหากชอบดื่มเย็น รสนุ่ม ไม่ขม ไม่เปรี้ยว แนะนำให้ใช้เครื่องชงกาแฟแบบ Cold Brew >. >นอกจากเครื่องชงกาแฟทั้ง 6 แบบที่เหมาะสำหรับใช้งานในบ้านหรือมือใหม่หัดชงก็ใช้ได้แล้ว ยังมีเครื่องชงกาแฟแบบ Siphonหรือบางคนเรียกว่า vacuum coffee brewer เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบทดลองปรับสูตรเอง เพราะมีเอกลักษณ์ในวิธีชงที่ให้บรรยากาศเหมือนทดลองวิทยาศาสตร์ แต่จะได้กาแฟที่สะอาด นุ่ม และโดดเด่นเรื่องกลิ่น (aromatic intensity) ข้อจำกัดคือค่อนข้างซับซ้อน ต้องควบคุมอุณหภูมิและเวลาอย่างละเอียด เครื่องมีความบอบบางโดยเฉพาะถ้วยแก้วด้านบน และใช้เวลาในการชง 5-10 นาที จึงไม่แนะนำสำหรับมือใหม่ >Siphon >ภาพ: เครื่องชงกาแฟแบบ Siphon >. >สนใจ เครื่องชงกาแฟและอุปกรณ์ คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >. >อ่านเพิ่มเติม: WORK FROM HOME จัดพื้นที่ยังไงให้เวิร์ค >อ่านเพิ่มเติม: วิธีจัดห้องครัวขนาดเล็ก กับ 4 ฟังก์ชั่นครบในพื้นที่จำกัด
รวมถามตอบเกี่ยวกับบล็อกและกระเบื้องคอนกรีตปูพื้น เอสซีจี วัสดุคอนกรีตปูพื้นมีให้เลือกหลากหลายทำให้หลายคนสงสัยว่าแบบไหนถึงเรียกว่าบล็อกคอนกรีตหรือกระเบื้องคอนกรีต มีความแตกต่างและใช้งานต่างกันอย่างไร รวมถึงการติดตั้งและการดูแลรักษา >. >---------------------------------------------------------------- >### สารบัญบทความ >1) บล็อกและกระเบื้องคอนกรีตปูพื้นมีลักษณะต่างกันอย่างไร? >2) การใช้งานบล็อกและกระเบื้องคอนกรีตปูพื้นต่างกันอย่างไร? >3) ต้องเตรียมวัสดุ/อุปกรณ์อะไรเพิ่มเติมบ้างในการติดตั้ง? >4) วิธีการติดตั้งบล็อกคอนกรีตปูพื้น ทำอย่างไร? >5) วิธีการติดตั้งกระเบื้องคอนกรีตปูพื้น ทำอย่างไร? >6) ปูบล็อก/กระเบื้องคอนกรีตแล้วพื้นยุบเกิดจากอะไร แก้อย่างไร? >7) วิธีการดูแลทำความสะอาดบล็อกและกระเบื้องคอนกรีตปูพื้น? >8) หากสีซีดจางเมื่อใช้งานไปสักระยะ ใช้สีทาพื้นได้หรือไม่? >9) มีวิธีจัดการหญ้าที่แทรกขึ้นตามร่องอย่างไร? >---------------------------------------------------------------- >. >## 1) บล็อกและกระเบื้องคอนกรีตปูพื้นมีลักษณะต่างกันอย่างไร? >บล็อกคอนกรีตปูพื้น หรือที่มักเรียกกันว่า อิฐตัวหนอน บล็อกตัวหนอน มีความหนา 6 -12 ซม. มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งขนาด รูปทรง และมีรุ่นพิเศษ เช่น บล็อกสนามหญ้า (ปลูกหญ้าแซมได้) บล็อกรุ่นคูลพลัส (ช่วยลดความร้อน) บล็อกรุ่น Porous Block (มีเนื้อพรุนจึงน้ำระบายได้เร็ว ช่วยลดปัญหาน้ำขัง) ส่วนกระเบื้องคอนกรีตมักมีรูปทรงเป็นแผ่นกว้างและบางกว่าบล็อกปูพื้น โดยทั่วไปมีความหนา 3.5 ซม. มีทั้งแบบแผ่นเดียวและแบบผืนที่ประกอบด้วยกระเบื้องแผ่นเล็กเรียงเป็นแพทเทิร์น >ตัวอย่างบล็อกและกระเบื้องคอนกรีตปูพื้นรุ่นต่างๆ >ภาพ: ตัวอย่างบล็อกและกระเบื้องคอนกรีตปูพื้นรุ่นต่างๆ >. >## 2) การใช้งานบล็อกและกระเบื้องคอนกรีตปูพื้นต่างกันอย่างไร? >สำหรับบล็อกคอนกรีตซึ่งมีความหนากว่ากระเบื้องคอนกรีต จะเหมาะสำหรับพื้นที่ที่รับน้ำหนักมาก เช่น ถนน ที่จอดรถ โดยสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 350 กก./ ตร.ม. เป็นทางเลือกแทนการเทพื้นคอนกรีต ซึ่งนอกจากจะได้พื้นที่มีสีสันและลวดลายพร้อมใช้งานแล้ว ยังสามารถรื้อถอนเพื่อซ่อมแซมหรือเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้ไม่ยาก >พื้นที่จอดรถเลือกใช้บล็อกปูพื้น เอสซีจี รุ่นบล็อกหกเหลี่ยม >ภาพ: พื้นที่จอดรถเลือกใช้บล็อกปูพื้น เอสซีจี รุ่นบล็อกหกเหลี่ยม >. >ส่วนกระเบื้องคอนกรีตหากปูบนทรายปรับระดับจะเหมาะกับการใช้งานเป็นทางเท้า ทางเดินรอบบ้าน ลานกิจกรรมสำหรับผู้คนใช้งาน แต่หากปูบนพื้นคอนกรีตโดยใช้ปูนทรายจะรับน้ำหนักได้มากขึ้น สามารถใช้งานเป็นที่จอดรถได้ >พื้นที่ทางเดินหน้าบ้านเลือกใช้กระเบื้องคอนกรีตปูพื้น เอสซีจี รุ่นแสตมป์ เพฟ >ภาพ: พื้นที่ทางเดินหน้าบ้านเลือกใช้กระเบื้องคอนกรีตปูพื้น เอสซีจี รุ่นแสตมป์ เพฟ >. >## 3) ต้องเตรียมวัสดุ/อุปกรณ์อะไรเพิ่มเติมบ้างในการติดตั้ง? >นอกจากบล็อกคอนกรีตตามที่เราเลือกแล้ว ยังจำเป็นต้องมีอุปกรณ์ร่วมในการติดตั้ง คือ ขอบกั้น/ขอบคันหิน เพื่อกำหนดขอบเขตและป้องกันกระเบื้องขยับออกจากแนว, ทรายใช้รองบล็อก/กระเบื้องเพื่อปรับระดับ อุดร่องระหว่างบล็อก/กระเบื้อง, แผ่นใยสังเคราะห์ (Geotextile) เพื่อป้องกันทรายไหลช่วยไม่ให้พื้นยุบตัวได้ง่าย, น้ำยาประสานทราย ช่วยชะลอการเกิดวัชพืชตามร่องทราย ลดปริมาณน้ำซึมผ่านร่องทราย ลดโอกาสพื้นทรุดตัว และน้ำยาเคลือบผิวหน้าคอนกรีต ช่วยป้องกันความชื้นและตะไคร่ >วัสดุ/อุปกรณ์ต่างๆ ที่ควรเตรียมไว้ใช้ในการปูบล็อกคอนกรีต >ภาพ: วัสดุ/อุปกรณ์ต่างๆ ที่ควรเตรียมไว้ใช้ในการปูบล็อกคอนกรีต >. >## 4) วิธีการติดตั้งบล็อกคอนกรีตปูพื้น ทำอย่างไร? >สามารถปูบนพื้นดินที่ตบอัดแน่นได้เลยโดยไม่ต้องมีพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กรองรับ โดยวางขอบกั้นและแผ่นใยสังเคราะห์รองทราย เพื่อป้องกันบล็อกและทรายไหลออกด้านข้าง มีขั้นตอนดังนี้ >1. เตรียมพื้นดิน (กำจัดขยะหรือหญ้า) และตบอัดดินให้แน่น >2. วางขอบคันหินโดยรอบพื้นที่ ป้องกันการแยกตัวของบล็อก >3. ปูแผ่นใยสังคราะห์รองทราย (Geo Textile) ถมทรายปรับระดับ แล้วพับหุ้มทรายในลักษณะตัวยู (U) ทับแผ่นรองทรายที่หุ้มเข้ามาด้วยบล็อก >4. ติดตั้งบล็อกปูพื้น เมื่อปูเต็มพื้นที่ให้โรยทรายละเอียดลงในช่องว่างระหว่างก้อนบล็อกให้เต็ม แล้วใช้เครื่องตบอัดแบบสั่นสะเทือนบดอัด 2-3 เที่ยว จากนั้นลงน้ำยาประสานทรายให้ทั่วร่องทรายระหว่างก้อน แล้วทาทับด้วยน้ำยาเคลือบเงาผิวคอนกรีตบนพื้นผิวบล็อก >แนวทางการเตรียมพื้นที่และการติดตั้งบล็อกคอนกรีตปูพื้น >ภาพ: แนวทางการเตรียมพื้นที่และการติดตั้งบล็อกคอนกรีตปูพื้น >การติดตั้งบล็อกคอนกรีตปูพื้น >ภาพ: การติดตั้งบล็อกคอนกรีตปูพื้น >. >## 5) วิธีการติดตั้งกระเบื้องคอนกรีตปูพื้น ทำอย่างไร? >ให้เลือกวิธีการติดตั้งตามการใช้งานเป็นหลัก เพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนาน ดังนี้ >พื้นทางเดินในสวน ทางเท้า เลือกติดตั้งได้ 2 วิธี คือ >๐ สำหรับทางเดินทั่วไป ให้ปรับระดับดิน ถมทรายบดอัด และปูกระเบื้องคอนกรีตได้เลย วิธีนี้ติดตั้งได้ง่าย สามารถรื้อออกและติดตั้งใหม่ได้ >๐ สำหรับทางเท้าที่ต้องรับน้ำหนักมากขึ้น ให้ปรับระดับดิน เทคอนกรีตหยาบ (Lean Concrete) หรือที่มักเรียกกันว่า “เทลีน” และปูกระเบื้องด้วยปูนทรายปรับระดับ >การติดตั้งกระเบื้องคอนกรีตปูพื้นสำหรับพื้นทางเดินในสวน ทางเท้า >ภาพ: การติดตั้งกระเบื้องคอนกรีตปูพื้นสำหรับพื้นทางเดินในสวน ทางเท้า >. >พื้นที่จอดรถ ถนน ต้องมีพื้นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กรองรับ แล้วจึงปูกระเบื้องด้วยปูนทรายปรับระดับ >การติดตั้งกระเบื้องคอนกรีตปูพื้นสำหรับพื้นที่จอดรถ ถนน >ภาพ: การติดตั้งกระเบื้องคอนกรีตปูพื้นสำหรับพื้นที่จอดรถ ถนน >. >## 6) ปูบล็อก/กระเบื้องคอนกรีตแล้วพื้นยุบเกิดจากอะไร แก้อย่างไร? >ปัญหาหลักของพื้นยุบ มีอยู่ 2 สาเหตุ ได้แก่ การติดตั้งที่ไม่ได้มาตรฐาน และมีการไหลของดินหรือทรายไปด้านข้าง >สาเหตุหลัก: การติดตั้งที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้พื้นไม่เท่ากัน >วิธีแก้ไข: รื้อและติดตั้งใหม่ตามวิธีที่ถูกต้อง โดยปรับพื้นให้เรียบ ใช้ทรายหนาประมาณ 4 ซม. บดอัดให้แน่น และปูบล็อกใหม่ >สาเหตุรอง: มีการไหลของดินหรือทรายไปด้านข้าง >วิธีป้องกันและแก้ไข: ใช้แผ่นใยสังเคราะห์ (Geotextile) กั้นทรายไว้ลักษณะคล้ายการห่อทราย หรือใช้ขอบกั้นคอนกรีตเพื่อป้องกันการไหลของดินและทราย >ปัญหาพื้นกระเบื้องคอนกรีตทรุดตัวเนื่องจากทรายไหล >ภาพ: ปัญหาพื้นกระเบื้องคอนกรีตทรุดตัวเนื่องจากทรายไหล >. >บริการติดตั้งกระเบื้องคอนกรีต เอสซีจี โดยนายช่างโฮมโซลูชั่น\{.button .newtab} {.centered} >บริการติดตั้งบล็อกและกระเบื้องคอนกรีต เอสซีจี โดย SCG Home Experience Vendor\{.button .newtab} {.centered} >. >## 7) วิธีการดูแลทำความสะอาดบล็อกและกระเบื้องคอนกรีตปูพื้น? >การดูแลทำความสะอาดทำได้ง่ายๆ โดยใช้การฉีดน้ำทำความสะอาดผิวหน้า หากมีคราบสกปรก สามารถใช้ผงซักฟอกและแปรงขัดออก จากนั้นฉีดน้ำล้างและปล่อยให้แห้ง หากต้องการให้พื้นดูสวยงามยาวนาน สามารถใช้น้ำยาเคลือบผิวคอนกรีตเพื่อป้องกันตะไคร่น้ำและช่วยคงสภาพสีได้ >ทำความสะอาดง่ายๆ โดยการฉีดน้ำทำความสะอาดผิวหน้าบล็อก/กระเบื้องคอนกรีตปูพื้น >ภาพ: ทำความสะอาดง่ายๆ โดยการฉีดน้ำทำความสะอาดผิวหน้าบล็อก/กระเบื้องคอนกรีตปูพื้น >. >สนใจ น้ำยาเคลือบเงาผิวคอนกรีต เอสซีจี คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >## 8) หากสีซีดจางเมื่อใช้งานไปสักระยะ ใช้สีทาพื้นได้หรือไม่? >ไม่ควรใช้สีทาพื้น เพราะอาจไม่ได้ผิวสัมผัสเช่นเดิมและมีโอกาสที่สีจะลอกล่อนได้ง่าย ควรขัดล้างทำความสะอาดและทาด้วยน้ำยาเคลือบเงาคอนกรีต เพื่อให้สภาพสีดูสดใสขึ้นและทำให้สีทนยาวนาน >ใช้น้ำยาเคลือบเงาผิวคอนกรีต เอสซีจี ทุกๆ 1 ปี เพื่อรักษาสภาพสีให้ทนยาวนาน >ภาพ: ใช้น้ำยาเคลือบเงาผิวคอนกรีต เอสซีจี ทุกๆ 1 ปี เพื่อรักษาสภาพสีให้ทนยาวนาน >. >## 9) มีวิธีจัดการหญ้าที่แทรกขึ้นตามร่องอย่างไร? >สำหรับบ้านใหม่ควรเคลียร์พื้นที่ไม่ให้มีวัชพืชตั้งแต่แรก จากนั้นติดตั้งบล็อกตามขั้นตอนและทาน้ำยาประสานทรายระหว่างร่องรอยต่อบล็อก/กระเบื้องคอนกรีตปูพื้น เพื่อทำให้ทรายแข็งช่วยป้องกันหญ้าขึ้นแทรก นอกจากนี้ยังสามารถเคลือบผิวหน้าเพื่อป้องกันอีกชั้นได้ด้วย สำหรับพื้นที่เดิมที่ควบคุมได้ยาก สามารถใช้วัสดุ/ทรายประสานร่องผสมโพลิเมอร์ในการแก้ปัญหาหญ้าขึ้น >น้ำยาประสานทราย เอสซีจี >ภาพ: น้ำยาประสานทราย เอสซีจี >. >สนใจ กระเบื้องคอนกรีตปูพื้น คลิก\{.button .newtab} {.centered} >สนใจ บล็อกคอนกรีตปูพื้น คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >อ่านเพิ่มเติม: 5 เหตุผลน่าใช้ บล็อกปูพื้น และกระเบื้องคอนกรีตปูพื้น\{.newtab} >อ่านเพิ่มเติม: ไขปัญหาบล็อกปูพื้นยุบ แต่งพื้นรอบบ้านสวยทนนาน\{.newtab}
การปูหญ้าเทียมให้สวยงามและใช้งานได้ยาวนาน ไม่ได้ขึ้นอยู่เพียงแค่คุณภาพของตัวหญ้าเทียมเท่านั้น แต่ การเตรียมพื้นที่ก็เป็นอีกขั้นตอนสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการปูหญ้าเทียมบนพื้นดินหรือพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก > การเตรียมพื้นที่ก่อนปูหญ้าเทียมบนพื้นดิน > 1) จัดการสภาพพื้นที่ให้พร้อม ทั้งการรื้อถอนต้นไม้ที่ไม่ต้องการ รื้อถอนเฟอร์นิเจอร์ รื้อวัสดุปูพื้นของเดิม กรณีพื้นรอบบ้านมีปัญหาทรุดตัว เกิดโพรงใต้บ้าน เจ้าของบ้านควรให้ช่างทำการปิดโพรง รวมถึงปรับถมพื้นดินตามระดับที่ต้องการให้เรียบร้อย Singleimage ดินทรุด เกิดโพรงใต้บ้าน ภาพ: ตัวอย่างปัญหาดินทรุดเกิดโพรงใต้บ้าน ซึ่งจะต้องจัดการปิดโพรงและปรับหน้าดินให้ได้ระดับ ก่อนจะทำการปูหญ้าเทียม > 2) กำจัดวัชพืชและขยะ เริ่มต้นด้วยการลอกวัชพืชและหญ้าจริงออก กวาดเก็บขยะและเศษวัสดุต่างๆ ออกจากพื้นที่ ทั้งนี้อาจมีการใช้น้ำยาฆ่าหญ้า ใช้แผ่นป้องกันวัชพืชปูใต้ผืนหญ้าเทียมร่วมด้วย ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของหน้างาน > 3) ปรับเตรียมพื้นที่ด้วยหินและทราย โดยถมหินเกล็ดหรือกรวดขนาดเล็กในระดับหนาประมาณ 5-7 ซม. ตามความเหมาะสมของสภาพพื้นดินหน้างาน จากนั้นโรยทรายหยาบลงบนชั้นหินอีกประมาณ 5-10 ซม. แล้วใช้เครื่องบดอัดให้แน่นและเรียบเสมอกัน เพื่อป้องกันการทรุดตัวและช่วยให้ติดตั้งหญ้าเทียมได้อย่างมั่นคง > เมื่อเตรียมพื้นที่ตามขั้นตอนดังกล่าวเสร็จเรียบร้อย ก็สามารถลงมือปูหญ้าเทียมต่อได้ โดยใช้วัสดุยึดประเภท หมุด ตะปูรูปตัว U หรือสมอบกในการยึดแผ่นหญ้าเทียมเข้ากับพื้นให้แน่นหนา > Singleimage เตรียมพื้นที่ปูหญ้าเทียมบนพื้นดิน ภาพ: (ซ้าย) การลงหินเกล็ด และบดอัดทรายให้แน่นเพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับปูหญ้าเทียม และ (ขวา) การปูแผ่นป้องกันวัชพืชใต้ผืนหญ้าเทียม > หญ้าเทียมคุณภาพดี พร้อมบริการปูโดยทีมช่างผู้ชำนาญ คลิก\{.button .newtab} {.centered} > การเตรียมพื้นที่ก่อนปูหญ้าเทียมบนพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก > 1) ตรวจสอบพื้นคอนกรีตว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่มีรอยแตกร้าว มีระดับลาดเอียงพอเหมาะ ระบายน้ำได้ดี ไม่เป็นหลุม เป็นแอ่งน้ำขังเมื่อฝนตก หากพบปัญหาต้องจัดการซ่อมแซมหรือปรับระดับพื้นให้เรียบร้อยก่อน > 2) ทำความสะอาดพื้นผิว โดยกวาดฝุ่น เศษหิน เศษไม้ และคราบมันออก ล้างพื้นให้สะอาดและปล่อยให้แห้งสนิท > 3) ปรับพื้นให้นุ่มขึ้น เป็นทางเลือกสำหรับเจ้าของบ้าน หากต้องการให้พื้นหญ้าเทียมมีสัมผัสการกดที่ยืดหยุ่นไม่แข็งกระด้าง อาจเลือกปูแผ่นรองกันกระแทก (Shock Pad) เพื่อเพิ่มความนุ่ม เช่น แผ่นโฟม แผ่นยางหรือตะแกรงพลาสติก เมื่อเตรียมพื้นที่ตามขั้นตอนดังกล่าวเสร็จเรียบร้อย ก็สามารถลงมือปูหญ้าเทียมโดยใช้กาวในการยึดผืนหญ้าเทียมเข้ากับพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก > Singleimage ปูหญ้าเทียมบนพื้นดิน ปูหญ้าเทียมบนพื้นคอนกรีต ภาพ: (ซ้าย) การปูหญ้าเทียมลงพื้นทราย และ (ขวา) การปูหญ้าเทียมบนพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กโดยใช้กาว > เจ้าของบ้านคงมองเห็นภาพพอสมควรแล้วว่า เราจะต้องดำเนินการอย่างไรในการเตรียมพื้นที่เพื่อปูพื้นหญ้าเทียม สิ่งสำคัญคือ เราควรเลือกใช้ผู้ให้บริการติดตั้งที่มีความชำนาญ เพราะขั้นตอนในการเตรียมพื้นที่และติดตั้งหญ้าเทียม มีรายละเอียดที่ต้องคำนึงเพื่อให้ได้พื้นหญ้าเทียมที่สวยงาม และลดปัญหาการใช้งานในระยะยาวไม่ว่าจะเป็น การต่อผืนหญ้าเทียมได้ระยะห่างเท่ากับความห่างของฝีเข็มของหญ้า รวมถึงจัดเรียงเส้นหญ้าให้อยู่ในทิศทางเดียวกันอย่างสวยงามเป็นธรรมชาติ การประเมินสภาพความชื้นของพื้นดินเพื่อป้องกันปัญหาเชื้อราในอนาคต การตรวจสอบระดับพื้นและการระบายน้ำที่เหมาะสม > ปูหญ้าเทียมให้สวย เส้นหญ้าเรียงทิศทางเดียวกัน ภาพ: ตัวอย่างเส้นหญ้าเทียม (ขนาดความยาว 3.5 ซม.) ซึ่งมีทิศทางเฉพาะ จึงต้องอาศัยความชำนาญในการต่อผืนหญ้าเพื่อให้เรียงตัวได้สวยงามในทิศทางเดียวกัน > หญ้าเทียมคุณภาพดี พร้อมบริการปูโดยทีมช่างผู้ชำนาญ คลิก\{.button .newtab} {.centered} > อ่านเพิ่มเติม: สนามฟุตบอลปูหญ้าเทียมโรงเรียนเทพศิรินทร์\{.newtab}