เราสามารถลดปัญหาบ้านชื้นได้โดยอาศัยแนวทางต่างๆ ทั้งการระบายอากาศ ใช้วัสดุหรือเครื่องดูดความชื้น ไปจนถึงการซ่อมแซมปรับปรุงดูแล เพื่อลดหรือป้องกันความเปียกชื้นทั้งภายในบ้านและจากภายนอกบ้าน > หน้าฝนกับปัญหาบ้านชื้นเป็นของคู่กัน หากความชื้นสะสมมากๆ ในบ้านอาจมีกลิ่นอับ สีผนังบวมลอก ผนังและฝ้าเพดานเกิดเชื้อรา ตะไคร่น้ำ หรือแม้แต่ปัญหาประตูหน้าต่างไม้บวมที่เปิดปิดยาก และยังอาจกระทบต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย โดยเฉพาะโรคภูมิแพ้ หรือโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ ดังนั้นเราจึงควรใส่ใจในการรับมือและลดปัญหาบ้านชื้น ซึ่งเจ้าของบ้านสามารถอาศัยวิธีต่างๆ ดังนี้ > 1) ลดปัญหาบ้านชื้น ทำให้บ้านระบายอากาศและความชื้นได้เพียงพอ > ง่ายที่สุดคือ เปิดหน้าต่างและประตูเพื่อให้อากาศถ่ายเท รับลมและแสงแดด เพื่อช่วยลดความชื้นและกลิ่นอับในบ้าน หากเป็นห้องที่อับลมหรือไม่มีหน้าต่าง ควรติดตั้งพัดลมดูดอากาศหรือพัดลมหมุนเวียนอากาศช่วย แต่สำหรับหรับบ้านที่ไม่สามารถเปิดประตูหน้าต่างได้บ่อยๆ ไม่ว่าจะเพราะกลัวฝุ่นกลัวเชื้อโรคเข้า หรือไม่มีคนอยู่บ้านเพราะต้องออกไปทำธุระนอกบ้านทั้งวัน อาจเลือกใช้ชุดอุปกรณ์ช่วยเร่งอัตราการระบายอากาศ\{.newtab}ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้แม้ปิดบ้านมิดชิด > Singleimage ระบบระบายอากาศ SCG Active AIRflow System ช่วยลดปัญหาบ้านชื้น ภาพ: ระบบระบายอากาศ SCG Active AIRflow™ System ช่วยให้บ้านสามารถระบายอากาศได้ตลอดแม้ปิดบ้านมิดชิด > 2) ใช้วัสดุดูดความชื้น เครื่องดูดความชื้น ช่วยลดปัญหาบ้านชื้น เบื้องต้นเราอาจลดความชื้นด้วยวัสดุอย่าง ถ่านไม้ไผ่ เกลือ หรือข้าวสาร ใส่ในถุงผ้าที่ระบายอากาศได้ดี แล้ววางในมุมที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว หรือมุมตู้เก็บของ เพื่อช่วยดูดซับความชื้น การเปิดแอร์ Dry Mode ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งเช่นกัน หรือหากต้องการควบคุมความชื้นอย่างจริงจัง อาจเลือกใช้เครื่องดูดความชื้น\{.newtab}เพื่อควบคุมระดับความชื้นให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสม ช่วยลดกลิ่นอับ เชื้อรา และยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค > Singleimage เครื่องดูดความชื้น ภาพ: ตัวอย่างเครื่องดูดความชื้นรุ่นต่างๆ > 3) ตรวจสอบและซ่อมแซมรอยรั่วซึมในบ้าน > ไล่เช็กรอยรั่วและจุดช้ำน้ำจากเพดานซึ่งอาจเกิดจากหลังคารั่วหรือห้องน้ำชั้นบนรั่วซึม รอยรั่วผนัง รอยรั่วตามรอยต่อประตูหน้าต่าง รอยรั่วจากท่อน้ำ หากพบจุดรั่วซึมควรลงมืออุดซ่อมแซมด้วย วัสดุอุดซ่อมรั่วซึม\{.newtab} หรือติดต่อช่างให้ดำเนินการซ่อมให้เรียบร้อยตามความเหมาะสม รวมถึงจัดการระบบระบายน้ำให้เหมาะสม ไม่ให้มีน้ำหยด น้ำขัง เพื่อลดความชื้นสะสมในบ้าน > Singleimage รอยร้าวผนัง ผนังรั่วซึมรอบวงกบ ภาพ: ตัวอย่างรอยร้าวรั่วซึมที่ผนัง รอยรั่วที่หน้าต่าง และรอยร้าวรั่วซึมที่ผนังรอบหน้าต่าง > บริการซ่อมหลังคารั่ว ดาดฟ้ารั่ว คลิก\{.button .newtab} {.centered} > 4) ติดตั้งกันสาด ป้องกันฝนสาดเข้าบ้าน > ฝนที่สาดเข้ามาทางประตูและหน้าต่าง เป็นอีกส่วนหนึ่งที่นำความชื้นเข้ามาในบ้าน แม้จะปิดประตูหน้าต่าง แต่หากฝนตกหนักมากก็อาจเกิดการรั่วซึม รวมถึงเกิดความความชื้นสะสม นำมาซึ่งปัญหาเชื้อราที่ขอบหน้าต่างหรือประตูได้ด้วยเช่นกัน การติดตั้งหลังคากันสาดเหนือประตูหน้าต่างจะช่วยลดปัญหานี้ โดยอาจเลือกเป็นกันสาดแบบธรรมดา หรือกันสาดพับได้ ตามความต้องการของเจ้าของบ้าน > Singleimage กันสาด กันสาดพับได้ > ภาพ: ตัวอย่างการติดตั้งกันสาดพับได้ และกันสาดโปร่งแสงเหนือประตูหน้าต่าง เพื่อช่วยลดปัญหาน้ำรั่วซึมเข้าบ้านอันนำมาซึ่งปัญหาบ้านชื้น > > บริการติดตั้งหลังคากันสาด คลิก\{.button .newtab} {.centered} > กันสาดพับได้พร้อมติดตั้ง คลิก\{.button .newtab} {.centered} > 5) เลือกใช้วัสดุที่ลดการสะสมความชื้น หรือมีคุณสมบัติกันเชื้อรา > ยกตัวอย่างเช่น เปลี่ยนจากวัสดุที่เป็นแหล่งสะสมความชื้น อย่างพื้นพรม พื้นไม้จริง เป็นวัสดุที่ทนต่อความชื้น เช่น กระเบื้องเซรามิก พื้นไวนิล พื้น SPC รวมถึงวัสดุอื่นๆ อย่างมู่ลี่ไม้ ประตูไม้ อาจเปลี่ยนมาพิจารณามู่ลี่อะลูมิเนียมลายไม้ ประตู UPVC แทน เป็นต้น ส่วนบริเวณที่ต้องเผชิญความชื้นอย่างห้องน้ำ อาจเลือกวัสดุที่มีคุณสมบัติกันชื้น กันเชื้อรา เช่น สีกันชื้น ฝ้าทนชื้น ผ้าม่านกันเชื้อรา ประตู PVC ประตู UPVC ไปจนถึงพื้นกันลื่นรอยต่อน้อย\{.newtab}เพื่อลดปัญหาการสะสมของเชื้อรา > เลือกซื้อประตู UPVC พื้นไวนิล พื้น SPC คลิก\{.button .newtab} {.centered} > วิธีที่แนะนำไป คงพอจะช่วยลดและรับมือปัญหาบ้านชื้นได้ นอกจากนี้เราอาจใส่ใจในรายละเอียดเพิ่มเติมที่ช่วยลดความเปียกชื้นในชีวิตประจำวัน เช่น หากพบน้ำเปียกตามพื้น เฟอร์นิเจอร์ ควรเช็ดให้แห้งตลอด หมั่นทำความสะอาดบ้านสม่ำเสมอเพื่อป้องกันเชื้อรา กลิ่นอับ หากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการตากผ้าภายในบ้านเพื่อลดความชื้นสะสม สำหรับบ้านที่มีต้นไม้ไว้ในบ้าน ไม่ควรวางต้นไม้ในจุดอับลมอับแสงแดด เพราะต้นไม้จะคายน้ำทำให้ความชื้นเพิ่ม ควรวางไว้ในจุดที่มีการระบายอากาศและความชื้นได้ดี
รวมถามตอบเกี่ยวกับบล็อกและกระเบื้องคอนกรีตปูพื้น เอสซีจี วัสดุคอนกรีตปูพื้นมีให้เลือกหลากหลายทำให้หลายคนสงสัยว่าแบบไหนถึงเรียกว่าบล็อกคอนกรีตหรือกระเบื้องคอนกรีต มีความแตกต่างและใช้งานต่างกันอย่างไร รวมถึงการติดตั้งและการดูแลรักษา >. >---------------------------------------------------------------- >### สารบัญบทความ >1) บล็อกและกระเบื้องคอนกรีตปูพื้นมีลักษณะต่างกันอย่างไร? >2) การใช้งานบล็อกและกระเบื้องคอนกรีตปูพื้นต่างกันอย่างไร? >3) ต้องเตรียมวัสดุ/อุปกรณ์อะไรเพิ่มเติมบ้างในการติดตั้ง? >4) วิธีการติดตั้งบล็อกคอนกรีตปูพื้น ทำอย่างไร? >5) วิธีการติดตั้งกระเบื้องคอนกรีตปูพื้น ทำอย่างไร? >6) ปูบล็อก/กระเบื้องคอนกรีตแล้วพื้นยุบเกิดจากอะไร แก้อย่างไร? >7) วิธีการดูแลทำความสะอาดบล็อกและกระเบื้องคอนกรีตปูพื้น? >8) หากสีซีดจางเมื่อใช้งานไปสักระยะ ใช้สีทาพื้นได้หรือไม่? >9) มีวิธีจัดการหญ้าที่แทรกขึ้นตามร่องอย่างไร? >---------------------------------------------------------------- >. >## 1) บล็อกและกระเบื้องคอนกรีตปูพื้นมีลักษณะต่างกันอย่างไร? >บล็อกคอนกรีตปูพื้น หรือที่มักเรียกกันว่า อิฐตัวหนอน บล็อกตัวหนอน มีความหนา 6 -12 ซม. มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งขนาด รูปทรง และมีรุ่นพิเศษ เช่น บล็อกสนามหญ้า (ปลูกหญ้าแซมได้) บล็อกรุ่นคูลพลัส (ช่วยลดความร้อน) บล็อกรุ่น Porous Block (มีเนื้อพรุนจึงน้ำระบายได้เร็ว ช่วยลดปัญหาน้ำขัง) ส่วนกระเบื้องคอนกรีตมักมีรูปทรงเป็นแผ่นกว้างและบางกว่าบล็อกปูพื้น โดยทั่วไปมีความหนา 3.5 ซม. มีทั้งแบบแผ่นเดียวและแบบผืนที่ประกอบด้วยกระเบื้องแผ่นเล็กเรียงเป็นแพทเทิร์น >ตัวอย่างบล็อกและกระเบื้องคอนกรีตปูพื้นรุ่นต่างๆ >ภาพ: ตัวอย่างบล็อกและกระเบื้องคอนกรีตปูพื้นรุ่นต่างๆ >. >## 2) การใช้งานบล็อกและกระเบื้องคอนกรีตปูพื้นต่างกันอย่างไร? >สำหรับบล็อกคอนกรีตซึ่งมีความหนากว่ากระเบื้องคอนกรีต จะเหมาะสำหรับพื้นที่ที่รับน้ำหนักมาก เช่น ถนน ที่จอดรถ โดยสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 350 กก./ ตร.ม. เป็นทางเลือกแทนการเทพื้นคอนกรีต ซึ่งนอกจากจะได้พื้นที่มีสีสันและลวดลายพร้อมใช้งานแล้ว ยังสามารถรื้อถอนเพื่อซ่อมแซมหรือเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้ไม่ยาก >พื้นที่จอดรถเลือกใช้บล็อกปูพื้น เอสซีจี รุ่นบล็อกหกเหลี่ยม >ภาพ: พื้นที่จอดรถเลือกใช้บล็อกปูพื้น เอสซีจี รุ่นบล็อกหกเหลี่ยม >. >ส่วนกระเบื้องคอนกรีตหากปูบนทรายปรับระดับจะเหมาะกับการใช้งานเป็นทางเท้า ทางเดินรอบบ้าน ลานกิจกรรมสำหรับผู้คนใช้งาน แต่หากปูบนพื้นคอนกรีตโดยใช้ปูนทรายจะรับน้ำหนักได้มากขึ้น สามารถใช้งานเป็นที่จอดรถได้ >พื้นที่ทางเดินหน้าบ้านเลือกใช้กระเบื้องคอนกรีตปูพื้น เอสซีจี รุ่นแสตมป์ เพฟ >ภาพ: พื้นที่ทางเดินหน้าบ้านเลือกใช้กระเบื้องคอนกรีตปูพื้น เอสซีจี รุ่นแสตมป์ เพฟ >. >## 3) ต้องเตรียมวัสดุ/อุปกรณ์อะไรเพิ่มเติมบ้างในการติดตั้ง? >นอกจากบล็อกคอนกรีตตามที่เราเลือกแล้ว ยังจำเป็นต้องมีอุปกรณ์ร่วมในการติดตั้ง คือ ขอบกั้น/ขอบคันหิน เพื่อกำหนดขอบเขตและป้องกันกระเบื้องขยับออกจากแนว, ทรายใช้รองบล็อก/กระเบื้องเพื่อปรับระดับ อุดร่องระหว่างบล็อก/กระเบื้อง, แผ่นใยสังเคราะห์ (Geotextile) เพื่อป้องกันทรายไหลช่วยไม่ให้พื้นยุบตัวได้ง่าย, น้ำยาประสานทราย ช่วยชะลอการเกิดวัชพืชตามร่องทราย ลดปริมาณน้ำซึมผ่านร่องทราย ลดโอกาสพื้นทรุดตัว และน้ำยาเคลือบผิวหน้าคอนกรีต ช่วยป้องกันความชื้นและตะไคร่ >วัสดุ/อุปกรณ์ต่างๆ ที่ควรเตรียมไว้ใช้ในการปูบล็อกคอนกรีต >ภาพ: วัสดุ/อุปกรณ์ต่างๆ ที่ควรเตรียมไว้ใช้ในการปูบล็อกคอนกรีต >. >## 4) วิธีการติดตั้งบล็อกคอนกรีตปูพื้น ทำอย่างไร? >สามารถปูบนพื้นดินที่ตบอัดแน่นได้เลยโดยไม่ต้องมีพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กรองรับ โดยวางขอบกั้นและแผ่นใยสังเคราะห์รองทราย เพื่อป้องกันบล็อกและทรายไหลออกด้านข้าง มีขั้นตอนดังนี้ >1. เตรียมพื้นดิน (กำจัดขยะหรือหญ้า) และตบอัดดินให้แน่น >2. วางขอบคันหินโดยรอบพื้นที่ ป้องกันการแยกตัวของบล็อก >3. ปูแผ่นใยสังคราะห์รองทราย (Geo Textile) ถมทรายปรับระดับ แล้วพับหุ้มทรายในลักษณะตัวยู (U) ทับแผ่นรองทรายที่หุ้มเข้ามาด้วยบล็อก >4. ติดตั้งบล็อกปูพื้น เมื่อปูเต็มพื้นที่ให้โรยทรายละเอียดลงในช่องว่างระหว่างก้อนบล็อกให้เต็ม แล้วใช้เครื่องตบอัดแบบสั่นสะเทือนบดอัด 2-3 เที่ยว จากนั้นลงน้ำยาประสานทรายให้ทั่วร่องทรายระหว่างก้อน แล้วทาทับด้วยน้ำยาเคลือบเงาผิวคอนกรีตบนพื้นผิวบล็อก >แนวทางการเตรียมพื้นที่และการติดตั้งบล็อกคอนกรีตปูพื้น >ภาพ: แนวทางการเตรียมพื้นที่และการติดตั้งบล็อกคอนกรีตปูพื้น >การติดตั้งบล็อกคอนกรีตปูพื้น >ภาพ: การติดตั้งบล็อกคอนกรีตปูพื้น >. >## 5) วิธีการติดตั้งกระเบื้องคอนกรีตปูพื้น ทำอย่างไร? >ให้เลือกวิธีการติดตั้งตามการใช้งานเป็นหลัก เพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนาน ดังนี้ >พื้นทางเดินในสวน ทางเท้า เลือกติดตั้งได้ 2 วิธี คือ >๐ สำหรับทางเดินทั่วไป ให้ปรับระดับดิน ถมทรายบดอัด และปูกระเบื้องคอนกรีตได้เลย วิธีนี้ติดตั้งได้ง่าย สามารถรื้อออกและติดตั้งใหม่ได้ >๐ สำหรับทางเท้าที่ต้องรับน้ำหนักมากขึ้น ให้ปรับระดับดิน เทคอนกรีตหยาบ (Lean Concrete) หรือที่มักเรียกกันว่า “เทลีน” และปูกระเบื้องด้วยปูนทรายปรับระดับ >การติดตั้งกระเบื้องคอนกรีตปูพื้นสำหรับพื้นทางเดินในสวน ทางเท้า >ภาพ: การติดตั้งกระเบื้องคอนกรีตปูพื้นสำหรับพื้นทางเดินในสวน ทางเท้า >. >พื้นที่จอดรถ ถนน ต้องมีพื้นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กรองรับ แล้วจึงปูกระเบื้องด้วยปูนทรายปรับระดับ >การติดตั้งกระเบื้องคอนกรีตปูพื้นสำหรับพื้นที่จอดรถ ถนน >ภาพ: การติดตั้งกระเบื้องคอนกรีตปูพื้นสำหรับพื้นที่จอดรถ ถนน >. >## 6) ปูบล็อก/กระเบื้องคอนกรีตแล้วพื้นยุบเกิดจากอะไร แก้อย่างไร? >ปัญหาหลักของพื้นยุบ มีอยู่ 2 สาเหตุ ได้แก่ การติดตั้งที่ไม่ได้มาตรฐาน และมีการไหลของดินหรือทรายไปด้านข้าง >สาเหตุหลัก: การติดตั้งที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้พื้นไม่เท่ากัน >วิธีแก้ไข: รื้อและติดตั้งใหม่ตามวิธีที่ถูกต้อง โดยปรับพื้นให้เรียบ ใช้ทรายหนาประมาณ 4 ซม. บดอัดให้แน่น และปูบล็อกใหม่ >สาเหตุรอง: มีการไหลของดินหรือทรายไปด้านข้าง >วิธีป้องกันและแก้ไข: ใช้แผ่นใยสังเคราะห์ (Geotextile) กั้นทรายไว้ลักษณะคล้ายการห่อทราย หรือใช้ขอบกั้นคอนกรีตเพื่อป้องกันการไหลของดินและทราย >ปัญหาพื้นกระเบื้องคอนกรีตทรุดตัวเนื่องจากทรายไหล >ภาพ: ปัญหาพื้นกระเบื้องคอนกรีตทรุดตัวเนื่องจากทรายไหล >. >บริการติดตั้งกระเบื้องคอนกรีต เอสซีจี โดยนายช่างโฮมโซลูชั่น\{.button .newtab} {.centered} >บริการติดตั้งบล็อกและกระเบื้องคอนกรีต เอสซีจี โดย SCG Home Experience Vendor\{.button .newtab} {.centered} >. >## 7) วิธีการดูแลทำความสะอาดบล็อกและกระเบื้องคอนกรีตปูพื้น? >การดูแลทำความสะอาดทำได้ง่ายๆ โดยใช้การฉีดน้ำทำความสะอาดผิวหน้า หากมีคราบสกปรก สามารถใช้ผงซักฟอกและแปรงขัดออก จากนั้นฉีดน้ำล้างและปล่อยให้แห้ง หากต้องการให้พื้นดูสวยงามยาวนาน สามารถใช้น้ำยาเคลือบผิวคอนกรีตเพื่อป้องกันตะไคร่น้ำและช่วยคงสภาพสีได้ >ทำความสะอาดง่ายๆ โดยการฉีดน้ำทำความสะอาดผิวหน้าบล็อก/กระเบื้องคอนกรีตปูพื้น >ภาพ: ทำความสะอาดง่ายๆ โดยการฉีดน้ำทำความสะอาดผิวหน้าบล็อก/กระเบื้องคอนกรีตปูพื้น >. >สนใจ น้ำยาเคลือบเงาผิวคอนกรีต เอสซีจี คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >## 8) หากสีซีดจางเมื่อใช้งานไปสักระยะ ใช้สีทาพื้นได้หรือไม่? >ไม่ควรใช้สีทาพื้น เพราะอาจไม่ได้ผิวสัมผัสเช่นเดิมและมีโอกาสที่สีจะลอกล่อนได้ง่าย ควรขัดล้างทำความสะอาดและทาด้วยน้ำยาเคลือบเงาคอนกรีต เพื่อให้สภาพสีดูสดใสขึ้นและทำให้สีทนยาวนาน >ใช้น้ำยาเคลือบเงาผิวคอนกรีต เอสซีจี ทุกๆ 1 ปี เพื่อรักษาสภาพสีให้ทนยาวนาน >ภาพ: ใช้น้ำยาเคลือบเงาผิวคอนกรีต เอสซีจี ทุกๆ 1 ปี เพื่อรักษาสภาพสีให้ทนยาวนาน >. >## 9) มีวิธีจัดการหญ้าที่แทรกขึ้นตามร่องอย่างไร? >สำหรับบ้านใหม่ควรเคลียร์พื้นที่ไม่ให้มีวัชพืชตั้งแต่แรก จากนั้นติดตั้งบล็อกตามขั้นตอนและทาน้ำยาประสานทรายระหว่างร่องรอยต่อบล็อก/กระเบื้องคอนกรีตปูพื้น เพื่อทำให้ทรายแข็งช่วยป้องกันหญ้าขึ้นแทรก นอกจากนี้ยังสามารถเคลือบผิวหน้าเพื่อป้องกันอีกชั้นได้ด้วย สำหรับพื้นที่เดิมที่ควบคุมได้ยาก สามารถใช้วัสดุ/ทรายประสานร่องผสมโพลิเมอร์ในการแก้ปัญหาหญ้าขึ้น >น้ำยาประสานทราย เอสซีจี >ภาพ: น้ำยาประสานทราย เอสซีจี >. >สนใจ กระเบื้องคอนกรีตปูพื้น คลิก\{.button .newtab} {.centered} >สนใจ บล็อกคอนกรีตปูพื้น คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >อ่านเพิ่มเติม: 5 เหตุผลน่าใช้ บล็อกปูพื้น และกระเบื้องคอนกรีตปูพื้น\{.newtab} >อ่านเพิ่มเติม: ไขปัญหาบล็อกปูพื้นยุบ แต่งพื้นรอบบ้านสวยทนนาน\{.newtab}
รวมถามตอบวัสดุลดเสียงรบกวนในบ้าน เพื่อแก้ปัญหาเสียงรบกวนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงบ้านเราไปรบกวนเพื่อนบ้านหรือเสียงจากเพื่อนบ้านดังรบกวนบ้านเรา เสียงรบกวนระหว่างห้องในบ้านเดียวกัน เสียงสะท้อนในห้องเราเอง ตลอดจนอยากทำห้องเก็บเสียงไว้ซ้อมดนตรีหรือดูหนังฟังเพลงสไตล์โฮมเธียเตอร์ให้เสียงไม่ก้องและไม่รบกวนห้องข้างเคียง >. >---------------------------------------------------------------- >### สารบัญบทความ >1) เสียงรบกวนที่เกิดขึ้นในบ้าน/อาคาร เกิดขึ้นได้อย่างไร ทั้งที่ปิดประตูหน้าต่างสนิทดีแล้ว? >2) การป้องกันเสียงรบกวนมีหลักการอะไรบ้าง? >3) เสียงก้องเกิดจากอะไร มีหลักการป้องกันหรือแก้ปัญหาเสียงก้องอย่างไร? >4) ทำไมต้องใช้วัสดุใยแก้วในการป้องกันเสียง/ดูดซับเสียง ดีกว่าวัสดุอื่นอย่างไร? >5) วัสดุอะคูสติก เอสซีจี รุ่น Cylence Zoundblock (วัสดุป้องกันเสียง) กับวัสดุอะคูสติก เอสซีจี รุ่น Cylence Zandera (วัสดุดูดซับเสียง) ใช้ทดแทนกันได้หรือไม่? >6) ห้องธรรมดาในบ้านสามารถปรับปรุงเป็นห้องโฮมเธียเตอร์/ห้องคาราโอเกะได้หรือไม่ อย่างไร? >7) อยากแก้ปัญหาเสียงก้องในห้องสามารถติดตั้งวัสดุอะคูสติก เอสซีจี รุ่น Cylence Zandera เองได้หรือไม่? >8) เสียงในบ้านทั่วไปควรดัง/เบาเท่าไหร่ แล้วเจ้าของบ้านจะมีวิธีวัดอย่างไร? >9) เทปกันเสียง Noise Zeal ใช้กับประตูบานเปิดทั่วไปได้หรือไม่? >10) วัสดุอะคูสติกและเทปกันเสียงของ เอสซีจี มีอายุการใช้งานประมาณกี่ปี หากหมดอายุการใช้งานแล้วต้องทำอย่างไร? >---------------------------------------------------------------- >. >## 1) เสียงรบกวนที่เกิดขึ้นในบ้าน/อาคาร เกิดขึ้นได้อย่างไร ทั้งที่ปิดประตูหน้าต่างสนิทดีแล้ว? >การเดินทางของเสียงเป็นอีกปัจจัยที่เราควรรู้เพื่อหาวิธีป้องกันได้ตรงจุด ธรรมชาติของเสียงจะส่งผ่านตัวกลางเสมอ ซึ่งมี 2 ตัวกลาง คือ การส่งผ่านเสียงทางอากาศ กับ การส่งผ่านเสียงทางโครงสร้าง >๐ การส่งผ่านเสียงทางอากาศ (Airborne Sound Transmission) โดยเสียงจะเดินทางผ่านอากาศ รวมถึงช่องว่างตามรอยต่อต่างๆ ได้แก่ >- ช่องเปิด เช่น รอยต่อระหว่างวงกบประตู/หน้าต่างกับหน้าบาน ช่องว่างที่ขอบประตูกับพื้น >- ผนัง เสียงเดินทางทะลุผ่านผนัง หรือลอดผ่านช่องว่างของปลั๊กไฟ/สวิตช์ไฟที่อยู่ตรงกับห้องอีกฝั่งในผนังเดียวกัน >- ฝ้าเพดาน เสียงลอดผ่านช่องว่างของผนังส่วนเหนือฝ้าที่ก่อไม่ชนถึงท้องคาน >๐ การส่งผ่านเสียงทางโครงสร้าง/ของแข็ง (Structure-Borne Sound Transmission) โดยการสั่นสะเทือนของโครงสร้างหรือส่วนประกอบอาคาร อย่างเวลาปิดประตูแรงๆ กระแทกจนเกิดแรงสั่นสะเทือนผ่านวงกบต่อเนื่องไปยังผนัง พื้น/คาน/เสา หรือเวลาที่ห้องด้านข้างเปิดเพลงดังจนเรารู้สึกถึงการสั่นสะเทือนที่กระทบผ่านส่วนต่างๆ ของอาคาร >เสียงเดินทางผ่าน 2 ตัวกลาง >ภาพ: เสียงเดินทางผ่าน 2 ตัวกลางคือ อากาศ (Airborne Sound Transmission) และโครงสร้าง (Structure-Borne Sound Transmission) >. >## 2) การป้องกันเสียงรบกวนมีหลักการอะไรบ้าง? >ควรหาที่มาของเสียงเพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ดังนี้ >๐ เสียงมาจากช่องเปิด (ประตู/หน้าต่าง) สำหรับรอยต่อระหว่างวงกบกับพื้น/ผนัง สามารถอุดยาแนวด้วยซิลิโคน/กาวพียู\{.newtab}ตามเหมาะสม ส่วนช่องว่างระหว่างวงกบกับหน้าบาน สามารถใช้วัสดุที่มีความหนาแน่นและยืดหยุ่นตัวดี เช่น เทปกันเสียง เอสซีจี รุ่น Noise Zeal\{.newtab} (ช่วยลดเสียงลงได้ 5 dB) >Noise Zeal >ภาพ: (ซ้ายบน) อุดยาแนวช่องว่างระหว่างวงกบกับพื้นด้วยซิลิโคน, (ขวาบน) ติดตั้งเทปกันเสียง เอสซีจี รุ่น Noise Zeal มีทั้งสำหรับประตู/หน้าต่างบานเปิด(สวิง) และบานเลื่อน(สไลด์)) >. >๐ เสียงมาจากรอยต่อปลั๊กไฟ/สวิตช์ไฟบนผนังที่ใช้ร่วมกัน หากตำแหน่งปลั๊กไฟ/สวิตช์ไฟภายในห้องอยู่ตรงกันกับห้องข้างๆ ในผนังเดียวกัน (มักพบกับคอนโด/ทาวน์เฮาส์ห้องติดกัน) แนะนำให้ย้ายปลั๊กไฟ/สวิตช์ไฟของเราไปไว้ตำแหน่งอื่นที่ไม่ตรงกัน (อาจทำระบบผนังกันเสียงเพิ่มเติม) >ตำแหน่งปลั๊กไฟตรงกันบนผนังเดียวกัน >ภาพ: ตำแหน่งปลั๊กไฟที่ตรงกันบนผนังเดียวกัน ทำให้เกิดเสียงรบกวนได้ง่าย >. >๐ เสียงมาจากผนัง เนื่องจากตัวผนังเองเป็นวัสดุที่มีค่าการกันเสียงไม่มากนัก ควรติดตั้งฉนวนกันเสียงบนผนังเพื่อช่วยลดเสียงที่เดินทางผ่านอากาศเข้ามา (สามารถติดตั้งคู่กับทั้งผนังก่ออิฐ และผนังโครงเบาได้) ยกตัวอย่างเช่น การติดตั้ง “วัสดุอะคูสติก เอสซีจี รุ่น Cylence Zoundblock”\{.newtab} เข้ากับโครงผนังเบาและปิดด้วยแผ่นผนังยิปซัมบอร์ดหรือไฟเบอร์ซีเมนต์บอร์ด >ทำผนังโครงเบาใส่ฉนวนกันเสียง >ภาพ: ทำผนังโครงเบาใส่ฉนวนกันเสียง “วัสดุอะคูสติก เอสซีจี รุ่น Cylence Zoundblock” >. >๐ เสียงมาจากฝ้าเพดาน หากเปิดฝ้าเพดานแล้วพบว่ามีช่องว่างที่ผนังเหนือฝ้าเพดาน แนะนำให้ก่ออิฐหรือใช้ผนังเบาปิดช่องว่างระหว่างผนังกับใต้ท้องคานให้เรียบร้อย >การก่อผนังเพิ่มให้ชนท้องคาน >ภาพ: การก่อผนังเพิ่มให้ชนท้องคาน (ส่วนสีส้ม) เพื่อป้องกันเสียงรบกวน >. >๐ เสียงมาจากการสั่นสะเทือนของโครงสร้าง เช่น การปิดประตูหน้าต่างแรงๆ หรือเปิดเพลงเสียงดัง อาจขอความร่วมมือกับเพื่อนบ้านเท่าที่ทำได้ ในส่วนของเราเองให้ติดตั้งซีลขอบยางประตูหน้าต่างให้แนบสนิทช่วยลดแรงกระแทกเวลาปิดหรืออาจปูพรมที่พื้นก็ช่วยลดเสียงไม่ให้รบกวนห้องข้างๆ ได้ >เลือกใช้พรมที่พื้น >ภาพ: เลือกใช้พรมที่พื้น เพื่อช่วยดูดซับเสียงและลดเสียงสะท้อน >. >## 3) เสียงก้องเกิดจากอะไร มีหลักการป้องกันหรือแก้ปัญหาเสียงก้องอย่างไร? >เสียงก้องเกิดจากการที่พลังงานเสียงไปกระทบกับวัสดุที่มีความแข็ง (เช่น ผนัง) แล้วสะท้อนไปมาภายในห้อง เหมือนกับการโยนลูกบอลอัดกำแพงแล้วลูกบอลเด้งกลับมาและกระเด้งไปเรื่อยๆ จนกว่าพลังงานจะหมด >วิธีแก้ไขปัญหาเสียงก้องคือการเปลี่ยนวัสดุที่มีความแข็งให้นุ่มลง หรือใช้วัสดุที่ช่วยดูดซับเสียงและลดการสะท้อน เช่น วัสดุซับเสียงสำหรับติดผนังอย่าง “วัสดุอะคูสติก เอสซีจี รุ่น Cylence Zandera”\{.newtab} >ติดตั้ง Zandera >ภาพ: ติดตั้ง “วัสดุอะคูสติก เอสซีจี รุ่น Cylence Zandera” ติดตั้งง่ายและสามารถออกแบบลวดลายได้ตามต้องการ ช่วยลดเสียงก้องเสียงสะท้อนในห้องบรรยาย-ห้องประชุม >. >## 4) ทำไมต้องใช้วัสดุใยแก้วในการป้องกันเสียง/ดูดซับเสียง ดีกว่าวัสดุอื่นอย่างไร? >เพราะวัสดุใยแก้วมีค่าการป้องกันเสียงและดูดซับเสียงที่สูง มีรูพรุนที่จะเปลี่ยนพลังงานเสียงเป็นพลังงานความร้อน (เกิดจากการเสียดสีของพลังงานเสียงกับรูพรุนของใยแก้ว) จึงช่วยลดระดับพลังงานเสียงได้ ตัวใยแก้วเองติดไฟได้แต่ไม่ลามไฟ ดังนั้นจึงเหมาะกับบ้านพักอาศัย คอนโดมิเนียม และอาคารสำนักงาน สำหรับวัสดุใยแก้วของ เอสซีจี ผลิตจากแก้วรีไซเคิล ปลอดภัยไม่มีสารพิษ และยังผลิตในประเทศไทย ผ่านการรับรองฉลากเขียว และผ่านมาตรฐานเส้นใยของยุโรป >อย่างไรก็ตาม การใช้วัสดุอื่นแทนอย่างการติดผ้าม่านหรือฟองน้ำสามารถช่วยลดเสียงสะท้อนได้เช่นกัน แต่ประสิทธิภาพในการป้องกันเสียงและดูดซับเสียงอาจไม่ดีเท่ากับการใช้วัสดุใยแก้ว และอาจมีความเสี่ยงลามไฟหากเกิดไฟไหม้ >. >## 5) วัสดุอะคูสติก เอสซีจี รุ่น Cylence Zoundblock (วัสดุป้องกันเสียง) กับวัสดุอะคูสติก เอสซีจี รุ่น Cylence Zandera (วัสดุดูดซับเสียง) ใช้ทดแทนกันได้หรือไม่? >ไม่แนะนำให้ใช้แทนกัน เพราะถูกออกแบบมาให้ใช้งานต่างกัน โดย “วัสดุอะคูสติก เอสซีจี รุ่น Cylence Zoundblock”\{.newtab} ออกแบบมาเพื่อป้องกันเสียงทะลุผ่านระหว่างห้อง ในขณะที่วัสดุดูดซับเสียงอย่าง “วัสดุอะคูสติก เอสซีจี รุ่น Cylence Zandera”\{.newtab} ออกแบบมาเพื่อดูดซับเสียง ลดเสียงสะท้อนภายในห้อง การเลือกใช้วัสดุให้ถูกประเภทตามวัตถุประสงค์ (ต้องการลดเสียงทะลุ หรือต้องการซับเสียงก้อง) จะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ >Zoundblockลดเสียงทะลุผ่านระหว่างห้อง >ภาพ: “วัสดุอะคูสติก เอสซีจี รุ่น Cylence Zoundblock” ลดเสียงทะลุผ่านระหว่างห้อง >Zanderaดูดซับเสียง >ภาพ: “วัสดุอะคูสติก เอสซีจี รุ่น Cylence Zandera” ดูดซับเสียง ลดเสียงสะท้อนภายในห้อง >. >## 6) ห้องธรรมดาในบ้านสามารถปรับปรุงเป็นห้องโฮมเธียเตอร์/ห้องคาราโอเกะได้หรือไม่ อย่างไร? >สามารถทำได้ โดยพิจารณาลักษณะห้องเดิมของเราว่าเป็นแบบใด เก็บและกันเสียงได้ดีหรือไม่ มีเสียงสะท้อนภายในห้องมาก/น้อยเพียงใด หากเป็นห้องธรรมดาทั่วไปควรทำผนังกันเสียงทั้ง 4 ด้านโดยการติดตั้งระบบผนังโครงเบาพร้อม “วัสดุอะคูสติก เอสซีจี รุ่น Cylence Zoundblock”\{.newtab} เพื่อช่วยเก็บเสียงไว้ภายในห้องไม่ให้ทะลุผ่านระหว่างห้อง รวมถึงไม่รบกวนห้องด้านข้าง ส่วนเสียงสะท้อนหรือเสียงก้องภายในห้องควรติดตั้งวัสดุดูดซับเสียง “วัสดุอะคูสติก เอสซีจี รุ่น Cylence Zandera”\{.newtab} เพิ่มที่ผนังตามค่าที่เหมาะสม ดังนี้ >๐ ห้องประชุม ประมาณ 30% ของพื้นที่ผนังห้อง >๐ ห้องคาราโอเกะหรือห้องฟังเพลง ประมาณ 50% ของพื้นที่ผนังห้อง >๐ ห้องโฮมเธียเตอร์ ประมาณ 70% ของพื้นที่ผนังห้อง >ห้องธรรมดาในบ้านปรับปรุงเป็นห้องโฮมเธียเตอร์/ห้องคาราโอเกะ >ภาพ: ห้องธรรมดาในบ้านปรับปรุงเป็นห้องโฮมเธียเตอร์/ห้องคาราโอเกะ >การทำผนังกันเสียง >ภาพ: การทำผนังกันเสียง โดยการติดตั้งระบบผนังโครงเบาพร้อม “วัสดุอะคูสติก เอสซีจี รุ่น Cylence Zoundblock” >. >## 7) อยากแก้ปัญหาเสียงก้องในห้องสามารถติดตั้งวัสดุอะคูสติก เอสซีจี รุ่น Cylence Zandera เองได้หรือไม่? >สามารถติดตั้งได้เอง โดยมีวิธีการง่ายๆ ดังนี้ >1. ทำความสะอาดพื้นผิวผนังที่ต้องการติดตั้ง >2. ออกแบบลวดลายที่ต้องการโดยเลือกใช้ขนาดมาตรฐาน หรือตัดตามต้องการ (แกะผ้าหุ้มออก ตัดแผ่นซับเสียงภายใน และทากาวหุ้มผ้าปิดตามเดิม) >3. ทากาวตะปูด้านหลังแผ่น >4. ติดตั้งบนผนังตามที่ออกแบบไว้ >การติดตั้ง “วัสดุอะคูสติก เอสซีจี รุ่น Cylence Zandera” >ภาพ: การติดตั้ง “วัสดุอะคูสติก เอสซีจี รุ่น Cylence Zandera” >. >## 8) เสียงในบ้านทั่วไปควรดัง/เบาเท่าไหร่ แล้วเจ้าของบ้านจะมีวิธีวัดอย่างไร? >ระดับความดังของเสียงภายในบ้านควรมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 50 dBA หรือเทียบเท่ากับห้องทั่วไปที่เปิดเครื่องปรับอากาศ เจ้าของบ้านสามารถวัดเองได้ โดยการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันวัดระดับเสียงมาใช้ ทั้งนี้ ค่าที่วัดได้อาจคลาดเคลื่อนจากค่าจริงที่วัดด้วยเครื่องมือเฉพาะทาง อย่างไรก็ดี หากต้องการความแม่นยำหรือแก้ปัญหาเรื่องเสียง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ >การวัดเสียงภายในห้องโดยผู้เชี่ยวชาญ >ภาพ: การวัดเสียงภายในห้องโดยผู้เชี่ยวชาญ >. >## 9) เทปกันเสียง Noise Zeal ใช้กับประตูบานเปิดทั่วไปได้หรือไม่? >เทปกันเสียง Noise Zeal\{.newtab} สามารถใช้ได้กับประตูบานเปิดได้เช่นกัน โดยจะต้องมีวงกบเพื่อติดเทปที่วงกบทั้ง 3 ด้าน (ซ้าย ขวา และบน) ส่วนด้านล่างสามารถใช้เทป/แถบยางปิดโดยเฉพาะเพิ่มเติม >การติดตั้งเทปกันเสียง NoiseZeal กับประตูบานเปิด(สวิง) >ภาพ: การติดตั้งเทปกันเสียง NoiseZeal กับประตูบานเปิด(สวิง) >. >## 10) วัสดุอะคูสติกและเทปกันเสียงของ เอสซีจี มีอายุการใช้งานประมาณกี่ปี หากหมดอายุการใช้งานแล้วต้องทำอย่างไร? >สำหรับวัสดุอะคูสติก เอสซีจี รุ่น Cylence Zoundblock กับวัสดุอะคูสติก เอสซีจี รุ่น Cylence Zandera จะมีอายุการใช้งานประมาณ 20 ปี หากหมดอายุการใช้งาน สามารถส่งกำจัดได้ที่เทศบาลทั่วไป ส่วนเทปกันเสียง Noise Zeal สำหรับประตู/หน้าต่าง มีอายุการใช้งานประมาณ 5 ปี หลังจากนั้นเนื้อยางอาจจะยุบไม่คืนตัว แนะนำให้เปลี่ยนใหม่ >. >สนใจ ฉนวนกันเสียง คลิก\{.button .newtab} {.centered} >สนใจ แผ่นซับเสียง ลดเสียงก้อง คลิก\{.button .newtab} {.centered} >สนใจ เทปกันเสียง NoiseZeal คลิก\{.button .newtab} {.centered} >สนใจ ซิลิโคนอเนกประสงค์-กาว-อะครีลิก คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >อ่านเพิ่มเติม: รีโนเวทห้องนั่งเล่นให้มีสีสันและได้ฟังก์ชั่นแบบโฮมเธียเตอร์\{.newtab} >อ่านเพิ่มเติม: รีโนเวทห้องนั่งเล่นให้มีสีสันและได้ฟังก์ชั่นแบบโฮมเธียเตอร์\{.newtab}
รวมไอเดียตกแต่งผนังบ้าน ภายนอก ภายใน ด้วย 9 วัสดุจาก เอสซีจี ทั้งกลุ่มไม้เทียม ปูนฉาบ กระเบื้องคอนกรีต ผนังกรวดล้าง ทรายล้าง จะชื่นชอบสไตล์ไหนก็ตอบโจทย์ได้อย่างมีเอกลักษณ์ >ผนังบ้าน เป็นส่วนที่สามารถดึงดูดสายตา หรือเปลี่ยนอารมณ์และบรรยากาศให้กับบ้านได้เป็นอย่างดี หากใครกำลังมองหาไอเดียตกแต่งผนังบ้านอยู่ละก็ เราได้รวบรวมไอเดียตกแต่งผนังบ้านด้วย 9 วัสดุคุณภาพจาก เอสซีจี เชื่อว่าถ้าอ่านจบแล้ว คงได้ไอเดียกลับไปตกแต่งผนังทั้งภายในและภายนอกบ้านอย่างแน่นอน >. >## 1. ผนังสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี >แผ่นผนังสมาร์ทบอร์ด SCG ถือเป็นวัสดุที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลาย ทั้งในด้านงานโครงสร้างและงานตกแต่ง เนื่องจากเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงและยืดหยุ่นในตัว ผลิตจากไฟเบอร์ซีเมนต์ จึงมีคุณสมบัติเด่นคือ ไม่เป็นอาหารของปลวก อีกทั้งยังทนความเปียกชื้นได้ดี จึงสามารถใช้ได้ทั้งภายในและภายนอก >ผนังสมาร์ทบอร์ด SCG รัสติค แผ่นสมาร์ทบอร์ด ผนังสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี เดคคอร์ สมาร์ทบอร์ดSCG สมาร์ทบอร์ดลายไม้ >ภาพ: แต่งผนังสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี เดคคอร์ รุ่น รัสติค สวยงามให้ลุคที่เป็นธรรมชาติด้วยลายเสี้ยนไม้ที่ชัดลึก แม้ทาสีก็ยังเห็นลายเสี้ยนไม้ >ผนังสมาร์ทบอร์ด SCG รัสติค แผ่นสมาร์ทบอร์ด ผนังสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี เดคคอร์ สมาร์ทบอร์ดSCG สมาร์ทบอร์ดลายไม้ >ภาพ: เชื่อมสเปซให้เป็นหนึ่งเดียวกันด้วย ผนังสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี เดคคอร์ รุ่น รัสติค ที่ใช้ตกแต่งได้ทั้งผนังภายในและฝ้า เติมเต็มความอบอุ่นอย่างเป็นธรรมชาติด้วยลายเสี้ยนไม้ >สมาร์ทบอร์ด แผ่นสมาร์ทบอร์ด ผนังสมาร์ทบอร์ด SCG สมาร์ทบอร์ดSCG >ภาพ: ผนังตกแต่งด้วย แผ่นสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี ที่สั่งตัดพิเศษ นำมาวางเรียงตัวสอดประสานกันในแนวตั้ง เพื่อให้เกิดมิติผนังที่สวยงาม >สมาร์ทบอร์ด แผ่นสมาร์ทบอร์ด ผนังสมาร์ทบอร์ด SCG ชั้นวางของ สมาร์ทบอร์ดSCG >ภาพ: เพิ่มพื้นที่เก็บของให้ผนังห้องครัว โดยทำชั้นวางของจากแผ่นผนัง สมาร์ทบอร์ด เอสซีจี >สมาร์ทบอร์ด แผ่นสมาร์ทบอร์ด ผนังสมาร์ทบอร์ด SCG เซาะร่อง สมาร์ทบอร์ดSCG >ภาพ: ผนังภายนอกใช้ สมาร์ทบอร์ด เอสซีจี แบบเซาะร่อง ทาสีน้ำตาล ให้ลุคอบอุ่นคล้ายไม้ฝา >ผนังสมาร์ทบอร์ด SCG เว้นร่อง แผ่นสมาร์ทบอร์ด ผนังสมาร์ทบอร์ด สมาร์ทบอร์ดSCG >ภาพ: ติดตั้งแผ่นผนังสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี แบบเว้นร่อง เพิ่มลูกเล่นด้วยการเจาะช่องซ่อนไฟ ให้แสงตามรูปแบบที่ต้องการ สนใจ ปรึกษาออกแบบบ้านกับสถาปนิกผู้เชี่ยวชาญ คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >## 2. ไม้ฝา เอสซีจี >ไม้ฝา SCG เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของวัสดุทดแทนไม้ ผลิตจากไฟเบอร์ซีเมนต์ จึงมีความทนทาน ใช้งานได้ทั้งภายนอก-ภายใน และไม่เป็นอาหารของปลวก มีหลายผิวสัมผัสให้เลือก (ผิวเรียบ ลายไม้ ลายเสี้ยนไม้) เนื้อวัสดุเป็นสีซีเมนต์สามารถทาสีทับได้ตามต้องการ โดยบางรุ่นจะมีแบบเคลือบสีสำเร็จมาจากโรงงาน (ส่วนใหญ่จะเป็นสีน้ำตาลเฉดต่างๆ) และยังมีรุ่นที่ช่วยลดความร้อนให้กับบ้านด้วย เช่น ไม้ฝา เอสซีจี รุ่น คูลพลัส ที่ช่วยลดอุณหภูมิในบ้านได้สูงสุด 5 องศาเมื่อเทียบกับไม้ฝาทั่วไป >ผนังไม้เทียม ผนังไม้ฝา ไม้ฝา SCG ไม้ฝาสมาร์ทวูด สมาร์ทวูด >ภาพ: ให้บรรยากาศใกล้เคียงธรรมชาติสไตล์บ้านไม้กลางป่า ด้วย ไม้ฝา เอสซีจี สีสักทอง ที่ถ่ายทอดอารมณ์เทียบเคียงไม้จริงได้อย่างลงตัว >ผนังไม้เทียม ผนังไม้ฝา ไม้ฝา SCG ไม้ฝาสมาร์ทวูด สมาร์ทวูด ไม้ฝาบังใบSCG >ภาพ: แต่งผนังห้องนั่งเล่นให้สวยหวานสไตล์วินเทจ ด้วยไม้ฝา เอสซีจี รุ่นบังใบ ทาสีฟ้าพาสเทล ที่นำมาติดตั้งในแนวตั้ง >ผนังไม้เทียม ผนังไม้ฝา ไม้ฝา SCG ไม้ฝาสมาร์ทวูด สมาร์ทวูด >ภาพ: แต่งผนังภายนอกให้สวยในสไตล์โคโลเนียล ด้วยไม้ฝา เอสซีจี รุ่นโคโลเนียล ในโทนสีอบอุ่นอย่างสีงาช้าง >ผนังไม้เทียม ผนังไม้ฝา ไม้ฝา SCG คูลพลัส ไม้ฝาสมาร์ทวูด สมาร์ทวูด วินเทจ >ภาพ: ช่วยลดความร้อนที่จะเข้าสู่ตัวบ้าน ด้วย ไม้ฝา เอสซีจี สีเทาแพลตินัม รุ่น คูลพลัส สนใจ ผนังภายนอก ไม้ฝา/ไม้ตกแต่ง เอสซีจี พร้อมติดตั้ง คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >## 3. ไม้ตกแต่งผนัง เอสซีจี โมดิน่า >เป็นไม้ตกแต่งผนังที่ดูทันสมัยด้วยการเล่นระดับสูงต่ำของการออกแบบ ช่วยเพิ่มมิติให้การตกแต่งผนังโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ ผลิตจากไฟเบอร์ซีเมนต์จึงมีความแข็งแรง ทนทาน ปลวกไม่กิน สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลาย ทั้งงานตกแต่งภายนอกและภายในอาคารเหมือนอย่างเช่น 2 วัสดุที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น ระบบการติดตั้งเป็นแบบบังใบและคลิปล็อก จึงช่วยปกปิดหัวสกรู สามารถติดตั้งได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน >ผนังโมดิน่า โมดิน่า SCG Modeena ไม้ตกแต่ง SCGโมดิน่า modina SCG ไม้โมดิน่า >ภาพ: ผนังด้านขวาตกแต่งด้วย ไม้ตกแต่งผนัง เอสซีจี รุ่นโมดิน่า วางลายตามตั้ง ให้ความรู้สึกที่ทันสมัยและเรียบง่ายในเวลาเดียวกัน >ผนังโมดิน่า โมดิน่า SCG Modeena ไม้ตกแต่ง SCGโมดิน่า modina SCG ไม้โมดิน่า >ภาพ: เปลี่ยนผนังภายนอกบ้านให้มีลูกเล่นมากขึ้นด้วย ไม้ตกแต่งผนัง เอสซีจี รุ่นโมดิน่า ที่ช่วยให้ผนังดูมีมิติ และเพิ่มความโมเดิร์นให้บ้านได้เป็นอย่างดี >ผนังโมดิน่า โมดิน่า SCG Modeena ไม้ตกแต่ง SCGโมดิน่า modina SCG ไม้โมดิน่า >ภาพ: ตกแต่งผนังในส่วนพื้นที่นั่งเล่นข้างบ้านให้โดดเด่นด้วย ไม้ตกแต่งผนัง เอสซีจี รุ่นโมดิน่า ที่นำมาติดตั้งในแนวนอน และเล่นระดับเฉดสีอ่อนสลับเข้ม >ผนังโมดิน่า โมดิน่า SCG Modeena ไม้ตกแต่ง SCGโมดิน่า modina SCG ไม้โมดิน่า >ภาพ: ตกแต่งผนังชั้นสองของบ้านด้วย ไม้ตกแต่งผนัง เอสซีจี รุ่นโมดิน่า ทำสีน้ำตาล เพิ่มรายละเอียดที่น่าสนใจในสไตล์ที่ดูเป็นธรรมชาติ สนใจ ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิน่า คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >## 4. ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น วูด-ดี >ผนังไม้ฝาไฟเบอร์ซีเมนต์พิมพ์ลายดิจิทัล (Digital Printing) ให้ความสมจริงของลวดลายและสีสันที่เหมือนไม้จริง สีสวยทนทานนานกว่า 5 ปีด้วยเทคโนโลยีการเคลือบผิวเฉพาะ สามารถใช้ตกแต่งได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ใช้ตกแต่งผนังและฝ้าเพดาน >หน้าบ้านสวยโดดเด่น >ภาพ: หน้าบ้านสวยโดดเด่นด้วย ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น วูด-ดี ไทย ทีค ซีรีย์ สีสัก >เพิ่มดีไซน์ให้บ้าน >ภาพ: เพิ่มดีไซน์ให้บ้านสวยสว่างด้วย ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น วูด-ดี เท็กซัส วูด ซีรีย์ สีเบจ >ลดความแข็งของบ้านโมเดิร์น >ภาพ: ลดความแข็งของบ้านโมเดิร์นด้วย ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น วูด-ดี ไทย ทีค ซีรีย์ สีสัก >ห้องนั่งเล่นอบอุ่นสบายตา >ภาพ: ห้องนั่งเล่นอบอุ่นสบายตาด้วย ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น วูด-ดี ไทย ทีค เซาะร่อง สนใจ ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น วูด-ดี คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >## 5. ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิช >ผนังตกแต่งเซาะร่องดีไซน์ใหม่ (Splendid Curve Design) เพิ่มมิติให้ผนังตื้น-ลึกเด่นชัดกว่า ด้วยเทคโนโลยี X-Trusion มีรูปลอนให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ Modish-V: ลอนสามเหลี่ยม และ Modish-U: ลอนโค้งครึ่งวงกลม สามารถใช้ตกแต่งได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ใช้ตกแต่งผนังและฝ้าเพดาน ติดตั้งได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน มีบังใบช่วยซ่อนหัวสกรูและอุปกรณ์คลิปล็อค ได้งานสวยเนี้ยบเรียบร้อย >ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิช-วี >ภาพ: ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิช-วี ให้ลอนสามเหลี่ยม โฉบเฉี่ยว สวยคม โดดเด่น >เพิ่มมิติให้กับผนังด้วย ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิช-วี >ภาพ: เพิ่มมิติให้กับผนังด้วย ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิช-วี >ตกแต่ง Facade สวยด้วย ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิช-วี >ภาพ: ตกแต่ง Facade สวยด้วย ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิช-วี >ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิช-ยู >ภาพ: ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิช-ยู ให้ลอนโค้งครึ่งวงกลม สร้างสุนทรียศาสตร์ให้งานออกแบบ >เพิ่มลอนให้ผนังเรียบดูมีดีไซน์ >ภาพ: เพิ่มลอนให้ผนังเรียบดูมีดีไซน์ด้วย ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิช-ยู สนใจ ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นโมดิช คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >## 6. ซีเมนต์บอร์ด เอสซีจี >เป็นแผ่นไม้อัดซีเมนต์ (Wood Cement Board หรือ Cement Bonded Particle Board) ประกอบด้วยปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ผสมกับชิ้นไม้ขนาดเล็ก โดยพื้นผิวทั้งสองด้านจะเหมือนผิวปูนเปลือยเรียบเนียนสวยงาม ตรงกลางเป็นชั้นของชิ้นไม้ผสมกับเนื้อปูน ดังนั้นจึงเหมาะกับงานตกแต่งเสมือนผนังปูนเปลือย ดิบเท่ สไตล์ลอฟต์ ใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ติดตั้งง่ายจบงานไว เพราะมาเป็นแผ่นขนาด 120 x 240 ซม. >ผนังตกแต่งสไตล์ลอฟต์ >ภาพ: ผนังตกแต่งสไตล์ลอฟต์ >ตกแต่งผนังหัวเตียงแนวดิบเท่ >ภาพ: ตกแต่งผนังหัวเตียงแนวดิบเท่ >ผนังภายนอกอาคารสวยเท่จบงานไว >ภาพ: ผนังภายนอกอาคารสวยเท่จบงานไว สนใจ ซีเมนต์บอร์ด เอสซีจี คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >## 7. กระเบื้องคอนกรีตตกแต่งผนัง เอสซีจี >ตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบการแต่งบ้านในสไตล์ลอฟต์ ด้วยกระเบื้องคอนกรีตตกแต่งผนังที่ถูกออกแบบให้มีความดิบเท่ จากลวดลายของอิฐโบราณก่อแบบโชว์แนว มีการใส่ดินมวลเบาลงไปในตัวก้อน เพื่อลดน้ำหนักของตัวก้อน ทำให้ติดตั้งง่าย >กระเบื้องคอนกรีตตกแต่งผนัง SCG กระเบื้องคอนกรีต scg กระเบื้องแต่งผนัง >ภาพ: ตกแต่งผนังห้องนั่งเล่นให้เท่ แฝงไว้ด้วยความเคร่งขรึม ด้วย กระเบื้องคอนกรีตตกแต่งผนัง เอสซีจี รุ่น ทรู เนเจอร์ โอลด์บริค สีดำ >กระเบื้องคอนกรีตตกแต่งผนัง SCG กระเบื้องคอนกรีต scg กระเบื้องแต่งผนัง >ภาพ: เพิ่มเสน่ห์ให้กับห้องทานข้าว ด้วยลวดลายและสีสันแบบอิฐโบราณก่อโชว์แนวของ กระเบื้องคอนกรีตตกแต่งผนัง เอสซีจี รุ่น ทรู เนเจอร์ โอลด์บริค สีส้ม >กระเบื้องคอนกรีตตกแต่งผนัง SCG กระเบื้องคอนกรีต scg กระเบื้องแต่งผนัง >ภาพ: แต่งผนังภายนอกบ้านให้เป็นมุมพักผ่อนในสวนสไตล์อังกฤษ ด้วยกระเบื้องคอนกรีตตกแต่งผนัง เอสซีจี รุ่น ทรู เนเจอร์ โอลด์บริค สีขาว >. >## 8. แต่งผนังปูนฉาบด้วย เสือ เดคอร์ ซีเมนต์สำเร็จรูป >เปลี่ยนผนังเรียบๆ ธรรมดาๆ ให้ดูดิบเท่สไตล์ลอฟท์ หรือตกแต่งให้มีสีสันสดใส ด้วย เสือเดคอร์ ฉาบสีผิวเรียบ, ฉาบสีเท็กซ์เจอร์ และ เสือ เดคอร์ โพลิเมอร์ซีเมนต์ Loft Wall สำหรับการฉาบตกแต่งผนังขั้นสุดท้าย สามารถนำมาสร้างสรรค์ลวดลายปลี่ยนบรรยากาศของห้องได้แบบไม่รู้จบ >ปูนลอฟท์ สกิมโค้ท ฉาบปูนลอฟ skim coat สีปูนเปลือย สีลอฟท์ loft ทาผนัง ปูน loft ผนังปูนสี เสือ เดคอร์ โพลิเมอร์ ซีเมนต์ >ภาพ: เติมความสดใสให้ผนังห้องนั่งเล่น ด้วย เสือ เดคอร์ Color Skim Coat ฉาบสีผิวเรียบ โดยใช้สีเหลืองเป็นสีรองพื้น และฉาบสีฟ้าตามขณะที่ปูนยังมีเนื้อหมาดๆ จนเกิดลวดลายสนุกๆ >ปูนลอฟท์ สกิมโค้ท ผนังปูนขัดมัน ฉาบปูนลอฟ skim coat สีปูนเปลือย สีลอฟท์ loft ทาผนัง ปูน loft ผนังปูนสี เสือ เดคอร์ โพลิเมอร์ ซีเมนต์ >ภาพ: แต่งผนังห้องนั่งเล่นให้ดูน่าสนใจ ด้วย เสือ เดคอร์ Color Skim Coat ฉาบสีผิวเรียบ สีขาว ทาทับด้วยสีน้ำอะคริลิกสีส้ม จากนั้นขัดด้วยกระดาษทราย ก็จะได้ผนังที่มีลวดลายและผิวสัมผัสที่ไม่เหมือนใคร >ปูนลอฟท์ ผนังปูนขัดมัน ฉาบปูนลอฟ skim coat สีปูนเปลือย สีลอฟท์ loft ทาผนัง ปูน loft ผนังปูนสี เสือ เดคอร์ โพลิเมอร์ ซีเมนต์ >ภาพ: มุมนั่งเล่นกับผนังภายนอกสีสันโดดเด่นด้วย เสือ เดคอร์ Texture Render ฉาบสีเท็กซ์เจอร์ สีแดง ใช้เทคนิคการทำลวดลายริ้วหิน >ปูนลอฟท์ ผนังปูนขัดมัน ฉาบปูนลอฟ สีปูนเปลือย สีลอฟท์ loft ทาผนัง ปูน loft เสือ เดคอร์ โพลิเมอร์ ซีเมนต์ >ภาพ: ตกแต่งผนังโรงจอดรถให้ดิบเท่ด้วย เสือ เดคอร์ โพลิเมอร์ซีเมนต์ ลอฟท์วอลล์ สีเทาเข้ม และเพิ่มลูกเล่นด้วยการเจาะผนังให้เป็นช่องซ่อนเพื่อเก็บของ สนใจ บริการฉาบผนังปูนซีเมนต์ตกแต่ง คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >## 9. เสือ วัสดุผสมปูนซีเมนต์ มาร์เบิ้ล เรนเดอร์ >ผลิตมาจากหินอ่อนที่บดย่อยให้มีขนาดพอเหมาะสำหรับการแต่งผนังที่ต้องการพื้นผิวที่เป็นธรรมชาติ ใช้งานร่วมกับ ปูนซีเมนต์ขาว เสือ เดคอร์ ฉาบตกแต่ง แทนการใช้ทราย สามารถนำมาออกแบบลวดลายได้อย่างอิสระตามต้องการ ไม่ว่าจะชื่นชอบสไตล์ไหนก็สามารถตอบโจทย์ได้อย่างมีเอกลักษณ์ >ผนังกรวดล้าง ผนังทรายล้าง มาร์เบิ้ล เรนเดอร์ scg marble render SCG >ภาพ: เพิ่มความน่าสนใจให้กับผนังสไตล์โมเดิร์น ด้วยแพทเทิร์นและการใช้โทนสีเทาเข้มสลับกับเทาอ่อน จาก เสือ วัสดุผสมปูนซีเมนต์ มาร์เบิ้ล เรนเดอร์ >ผนังกรวดล้าง ผนังทรายล้าง มาร์เบิ้ล เรนเดอร์ scg marble render SCG >ภาพ: กำแพงบ้านที่ตกแต่งด้วย เสือ วัสดุผสมปูนซีเมนต์ มาร์เบิ้ล เรนเดอร์ กับแพทเทิร์นที่ดูเรียบง่าย ทันสมัย เสริมให้พื้นที่พักผ่อนภายนอกบ้านน่านั่งมากยิ่งขึ้น >ผนังกรวดล้าง ผนังทรายล้าง มาร์เบิ้ล เรนเดอร์ scg marble render SCG >ภาพ: สร้างแพทเทิร์นที่โดดเด่นและสนุกสนานให้กับกำแพงบ้าน ด้วยสีสันและรูปทรงเรขาคณิต จาก เสือ วัสดุผสมปูนซีเมนต์ มาร์เบิ้ล เรนเดอร์ ตกแต่งผนังกรวดล้าง ทรายล้าง มาร์เบิ้ลเรนเดอร์ คลิก\{.button .newtab} {.centered}
รวมถามตอบเกี่ยวกับอิฐมวลเบา Q-CON ที่หลายคนสงสัยไม่ว่าจะเป็นการก่ออิฐมวลเบาเหมือนกับการก่ออิฐมอญหรือไม่ อิฐมวลเบา Q-CON สามารถใช้กับบริเวณที่เปียกน้ำได้หรือไม่ สามารถ ตอก ยึด แขวนสิ่งของได้หรือไม่ และอื่นๆ ที่น่าสนใจ >. >---------------------------------------------------------------- >### สารบัญบทความ >1) “อิฐมวลเบา Q-CON” ผลิตมาจากอะไร >2) ความแตกต่างของอิฐมวลเบา Q-CON กับอิฐมวลเบาทั่วไป >3) ทำไมอิฐมวลเบา Q-CON จึงสามารถรับแรงได้ดี ทั้งที่มีฟองอากาศอยู่จำนวนมาก >4) อิฐมวลเบา Q-CON กันความร้อนได้จริงหรือ >5) อิฐมวลเบา Q-CON กันเสียงได้จริงหรือ >6) ควรเลือกใช้อิฐมวลเบาที่มีความหนาเท่าใดจึงจะแข็งแรงทนทาน >7) อิฐมวลเบา Q-CON แข็งแรงจริงหรือไม่ สามารถ ตอก ยึด แขวนสิ่งของได้หรือไม่ >8) สามารถใช้อิฐมวลเบา Q-CON ก่อเป็นผนังห้องน้ำได้หรือไม่ >9) วิธีการก่ออิฐมวลเบา Q-CON เหมือนการก่ออิฐมอญหรือไม่ >10) การก่ออิฐมวลเบาจำเป็นต้องมีเหล็กหนวดกุ้งเหมือนอิฐมอญหรือไม่ >11) การก่อผนังอิฐมวลเบา Q-CON จะต้องเทเสาเอ็น/คานเอ็นเหมือนอิฐมอญหรือไม่ >12) ทำไมอิฐมวลเบา Q-CON จึงคุ้มค่ากว่าอิฐมอญ >---------------------------------------------------------------- >. >## 1) “อิฐมวลเบา Q-CON” ผลิตมาจากอะไร >อิฐมวลเบาเป็นวัสดุก่อสร้างที่ทำจากคอนกรีตที่มีความหนาแน่นน้อยกว่าคอนกรีตทั่วไปที่เรียกว่า Autoclaved Aerated Concrete (AAC) ประกอบด้วยปูนซีเมนต์ ปูนขาว ทรายละเอียด ยิปซัม และผงอะลูมิเนียม ผ่านกระบวนการอบไอน้ำภายใต้อุณหภูมิและความดันสูง ทำให้ได้คอนกรีตมวลเบาที่มีความแข็งแรงแต่น้ำหนักเบา เนื่องจากมีฟองอากาศกระจายสม่ำเสมออยู่ภายใน (ฟองอากาศเป็นแบบปิด ไม่ต่อเนื่องกัน เนื้อวัสดุจึงตัน ไม่ได้เป็นรูพรุนเหมือนฟองน้ำ) >อิฐมวลเบา Q-CON ผลิตด้วยเทคโนโลยีจากเยอรมนีและได้รับมาตรฐานอุตสาหกรรม มีให้เลือก 2 ระดับ ได้แก่ >๐ อิฐมวลเบา Q-CON ระดับคุณภาพ G2 เหมาะกับงานก่อสร้างบ้านพักอาศัย กันความร้อนได้ดีกว่าอิฐมอญ 4-8 เท่า ช่วยประหยัดค่าไฟ >๐ อิฐมวลเบา Q-CON ระดับคุณภาพ G4 เหมาะกับงานก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ รับน้ำหนักได้มาก แข็งแรง กันความร้อนและเสียงได้ดี >. >## 2) ความแตกต่างของอิฐมวลเบา Q-CON กับอิฐมวลเบาทั่วไป >ในท้องตลาดปัจจุบันเราอาจพบผลิตภัณฑ์ที่เรียกตัวเองว่าเป็นอิฐมวลเบา ซึ่งมีส่วนผสมและกระบวนการผลิตที่แตกต่างกัน เช่น ไม่ผ่านการอบไอน้ำภายใต้อุณหภูมิและความดันสูง แต่ใช้วิธีผสมวัสดุอื่นที่สลายตัวเมื่อเผาและเกิดเป็นช่องว่างในเนื้ออิฐ อิฐประเภทนี้มีราคาถูก แต่เสื่อมสภาพเร็ว หรือบางกรณีผสมสารเคมีที่ทำปฏิกริยากับคอนกรีตจนเกิดฟองอากาศในเนื้ออิฐ ซึ่งจะส่งผลให้เนื้ออิฐหดตัวมากและทำให้ปูนฉาบแตกร้าวง่าย แต่สำหรับอิฐมวลเบา Q-CON นอกจากเป็นวัสดุคุณภาพดังข้อ 1 แล้ว ยังได้รับการรับรอง มอก. จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม และสถาบันที่เชื่อถือได้ ดังนี้ >๐ มอก. 1505-2541: ชิ้นส่วนคอนกรีตมวลเบาแบบมีฟองอากาศ-อบไอน้ำ >๐ มอก. 1510-2541: แผ่นคอนกรีตมวลเบาเสริมเหล็กแบบมีฟองอากาศ-อบไอน้ำ >๐ DIN 4165: Autoclaved Aerated Concrete Blocks & Flat Elements >๐ DIN 4223: Steam Cured Reinforced Roof and Floor Panel out of Gas and Foamed Concrete >๐ JIS A 5416-1995: Autoclaved Lightweight Aerated Concrete Panels >๐ ISO 9001: 2000 Certificate No.17553 >. >## 3) ทำไมอิฐมวลเบา Q-CON จึงสามารถรับแรงได้ดี ทั้งที่มีฟองอากาศอยู่จำนวนมาก >เนื้อของอิฐมวลเบา Q-CON มีฟองอากาศแบบปิดกระจายสม่ำเสมออยู่ภายใน ไม่ต่อเนื่องกัน ไม่ได้เป็นรูพรุนเหมือนฟองน้ำ เนื้อวัสดุจึงตัน ทำให้มีความแข็งแรง น้ำหนักเบา และรับน้ำหนักได้ดี มีค่ากำลังอัดถึง 35 ksc (กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร) กล่าวคือ เนื้อที่หน้าตัด 1 ตร.ซม. สามารถรับน้ำหนักได้ 35 กก. หรืออิฐมวลเบา Q-CON ขนาด 20x60x10 ซม. จะรับแรงกดได้ถึง 21 ตัน (จากการทดสอบโดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) >เนื้อของอิฐมวลเบา Q-CON ภาพ: เนื้อของอิฐมวลเบา Q-CON มีฟองอากาศแบบปิดกระจายสม่ำเสมออยู่ภายใน ไม่ต่อเนื่องกัน ไม่ได้เป็นรูพรุนเหมือนฟองน้ำ เนื้อวัสดุจึงตัน >. >## 4) อิฐมวลเบา Q-CON กันความร้อนได้จริงหรือ >ฟองอากาศขนาดเล็กกระจายอยู่อย่างสม่ำเสมอในเนื้อวัสดุของอิฐมวลเบา Q-CON ช่วยลดทอนหรือหน่วงความร้อนจากภายนอกสู่ภายใน โดยมีการเปลี่ยนแปลงตัวกลางตลอดเวลาระหว่างเนื้อวัสดุและช่องอากาศ จากการทดสอบพบว่าอิฐมวลเบามีคุณสมบัติความเป็นฉนวนมากกว่าอิฐมอญ 4-10 เท่าทำให้ภายในอาคารเย็นสบายกว่า และช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าจากเครื่องปรับอากาศได้สูงสุดถึง 30% >. >## 5) อิฐมวลเบา Q-CON กันเสียงได้จริงหรือ >รูพรุนในอิฐมวลเบาทำหน้าที่เป็นฉนวนกันเสียงในตัวได้ดี จากผลการทดสอบการกันเสียงเมื่อเทียบกับอิฐมอญที่ความหนาผนัง 10 ซม. (ผนังก่ออิฐรวมฉาบ 2 ด้าน) พบว่า ผนังทั้งสองชนิดมีค่าการกันเสียงที่ใกล้เคียงกันที่ประมาณ 37 เดซิเบล และหากเลือกใช้อิฐมวลเบาความหนา 10 ซม. จะกันเสียงได้ถึง 43 เดซิเบล >๐ อิฐมวลเบา Q-CON ความหนา 7.5 ซม. รวมฉาบผนังสองด้าน กันเสียงได้ 37dB (ผลทดสอบจาก ศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) >๐ อิฐมวลเบา Q-CON 10 ซม. รวมฉาบผนังสองด้าน กันเสียงได้ 43dB (ผลทดสอบจาก Acoustics Labboratory, National University, SG) >ผนังก่ออิฐมวลเบา Q-CON มีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันเสียงได้ดี ภาพ: ผนังก่ออิฐมวลเบา Q-CON มีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันเสียงได้ดี >. >## 6) ควรเลือกใช้อิฐมวลเบาที่มีความหนาเท่าใดจึงจะแข็งแรงทนทาน >ความหนาที่ได้รับความนิยมในท้องตลาดคือ 7.5 ซม. และ 7.0 ซม. แต่ตามมาตรฐาน มอก. ได้รับรองอิฐมวลเบาที่มีความหนาตั้งแต่ 7.5 ซม. ขึ้นไป ซึ่งพบว่าอิฐมวลเบาหนา 7.5 ซม. จะมีความแข็งแรงและรับแรงได้มากกว่า ส่งผลให้เกิดการแตกร้าวน้อยกว่า ในการทำผนังให้ได้ความหนามาตรฐานทั่วไปที่ 10 ซม. พบว่าอิฐมวลเบาหนา 7.0 ซม. ต้องใช้การฉาบที่หนากว่า ส่งผลให้ทำงานได้ช้ากว่า และสิ้นเปลืองปูนฉาบมากกว่า >. >## 7) อิฐมวลเบา Q-CON แข็งแรงจริงหรือไม่ สามารถ ตอก ยึด แขวนสิ่งของได้หรือไม่ >จากการทดสอบโดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อิฐมวลเบา Q-CON มีค่ากำลังอัดถึง 35 ksc (กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร) โดยมากกว่าอิฐมอญถึง 2 เท่า จึงสามารถแขวนของหนัก ๆ ได้ โดยต้องเลือกใช้พุกและดอกสว่านที่เหมาะสม (เลือกเบอร์เดียวกัน) รวมถึงเจาะผนังอย่างถูกวิธี (ห้ามคว้าน) >๐ พุกพลาสติก สามารถรับน้ำหนักต่อจุดได้ไม่เกิน 20 กิโลกรัม >๐ พุกโลหะ สามารถรับน้ำหนักต่อจุดได้ไม่เกิน 50 กิโลกรัม >ผนังก่ออิฐมวลเบาสามารถแขวนของหนักได้ ภาพ: ผนังก่ออิฐมวลเบาสามารถแขวนของหนักได้ โดยการเลือกใช้พุกและดอกสว่านให้เหมาะสมกับการรับน้ำหนักของที่แขวน >. >## 8) สามารถใช้อิฐมวลเบา Q-CON ก่อเป็นผนังห้องน้ำได้หรือไม่ >ได้ เพราะอิฐมวลเบา Q-CON มีคุณสมบัติการดูดซึมน้ำต่ำ จึงสามารถใช้เป็นผนังห้องน้ำหรือผนังภายนอกอาคารได้ตามปกติ โดยทำขอบปูนตามแนวก่อผนังสูงขึ้นมาจากพื้นอย่างน้อย 10 ซม. และทาน้ำยากันซึมบนพื้นต่อเนื่องมาที่ขอบปูน >text ภาพ: ผนังห้องน้ำควรทำขอบปูนสูงอย่างน้อย 10 ซม. และทาน้ำยากันซึมบนพื้นต่อเนื่องมาที่ขอบปูน >. >## 9) วิธีการก่ออิฐมวลเบา Q-CON เหมือนการก่ออิฐมอญหรือไม่ >ไม่เหมือน เพราะการก่อผนังด้วยอิฐมวลเบา Q-CON ต้องใช้ปูนก่อสำหรับคอนกรีตมวลเบาโดยเฉพาะ ซึ่งมีลักษณะเป็นปูนกาว และใช้เกรียงสำหรับก่ออิฐมวลเบาโดยเฉพาะเช่นกัน ส่วนอิฐมอญใช้ปูนทราย และใช้เกรียงใบโพธิ์ในการก่อ >เกรียงก่ออิฐมวลเบา ภาพ: เกรียงก่ออิฐมวลเบา >. >## 10) การก่ออิฐมวลเบาจำเป็นต้องมีเหล็กหนวดกุ้งเหมือนอิฐมอญหรือไม่ >ในการก่ออิฐมวลเบายึดกับเสา สามารถเลือกใช้ได้ทั้งเหล็กหนวดกุ้งและ Metal Strap เพื่อช่วยลดรอยแตกร้าวระหว่างโครงสร้างหลักของอาคารกับผนัง หากใช้เหล็กหนวดกุ้งโดยรวมแล้วจะมีขั้นตอนการทำงานที่มากกว่า แต่หากใช้ Metal strap จะสามารถยึดอิฐมวลเบาเข้ากับเสาโดยใช้ตะปูตอกได้เลย ช่วยประหยัดเวลาการก่อสร้าง >METAL STRAP Q-CON ภาพ: เหล็กจับมุมอิฐมวลเบา METAL STRAP Q-CON >การใช้งาน METAL STRAP Q-CON ภาพ: การใช้งาน METAL STRAP Q-CON >. >## 11) การก่อผนังอิฐมวลเบา Q-CON จะต้องเทเสาเอ็น/คานเอ็นเหมือนอิฐมอญหรือไม่ >ต้องเทเสาเอ็น/คานเอ็นเหมือนอิฐมอญ แต่สามารถเพิ่มระยะห่างระหว่างเสาเอ็นได้มากกว่า การเลือกใช้อิฐมวลเบาที่มีความหนาขึ้นจะสามารถก่อผนังได้พื้นที่มากขึ้น โดยไม่ต้องมีการหล่อเสาเอ็น/ทับหลัง ค.ส.ล. เพื่อเสริมความแข็งแรงเพิ่มอีก ดังตาราง >text >. >สำหรับผนังที่มีช่องเปิดประตู-หน้าต่าง กรณีอิฐมวลเบา Q-CON หนา 7.5 ซม. ให้ทำเสาเอ็นทับหลัง ค.ส.ล.ทุกมุม และรัดรอบวงกบช่องเปิดเช่นเดียวกับอิฐมอญ ยกเว้นผนังหุ้มท่อ และกล่องเสาโชว์ที่มีความกว้างรวมกันทุกด้านไม่เกิน 1.5 เมตร หากอิฐมวลเบา Q-CON หนา 10 ซม.ขึ้นไป ที่บริเวณช่องเปิดเราสามารถใช้คานทับหลังเพียงท่อนเดียววางเหนือวงกบช่องเปิดได้ >ทั้งนี้ Q-CON มีผลิตภัณฑ์คานทับหลังสำเร็จรูป (Q-CON Lintel) ใช้แทนการหล่อคานทับหลังที่หน้างานได้ ช่วยประหยัดเวลาและลดต้นทุนการก่อสร้าง มีให้เลือกใช้หลายความหนาตามขนาดของอิฐมวลเบา ตั้งแต่หนา 7.5-25 ซ.ม. และมีความยาวตั้งแต่ 0.80-3.60 เมตร ตามขนของช่องเปิด >Q-CON Lintel ภาพ: คานทับหลังสำเร็จรูป (Q-CON Lintel) >การใช้คานทับหลังสำเร็จรูป ภาพ: การใช้คานทับหลังสำเร็จรูป (Q-CON Lintel) กับอิฐมวลเบา Q-CON >ตัวอย่าง ภาพ: ตัวอย่างการใช้คานทับหลังสำเร็จรูป (Q-CON Lintel) >. >## 12) ทำไมอิฐมวลเบา Q-CON จึงคุ้มค่ากว่าอิฐมอญ >๐ วัสดุคุณภาพ เพราะอิฐมวลเบา Q-CON เป็นผลิตภัณฑ์คอนกรีตมวลเบาที่มีมาตรฐานสูงด้วยวัสดุคุณภาพที่ผลิตจากเทคโนโลยีเยอรมัน ภายใต้การอบไอน้ำความดันสูงจนกระทั่งเนื้อวัสดุเป็นผลึกที่แข็งแรงและเบา ส่วนอิฐมอญผลิตจากดินเหนียวที่ตัดให้ได้ขนาดแล้วนำเข้าเตาเผา >๐ น้ำหนักเบา เพราะอิฐมวลเบา Q-CON น้ำหนักเบากว่าอิฐมอญถึง 2 เท่า (อิฐมวลเบา 90 กก./ตร.ม. ส่วนอิฐมอญ 180 กก./ตร.ม.) ช่วยลดขนาดโครงสร้างอาคารได้ >๐ ก่อผนังได้เร็ว เพราะอิฐมวลเบา Q-CON ก่อผนังได้เร็วกว่าอิฐมอญ 3-5 เท่า (อิฐมวลเบา 20-25 ตร.ม./วัน ส่วนอิฐมอญ 5-8 ตร.ม./วัน) ช่วยลดเวลาการก่อสร้าง >๐ ก่อและฉาบบางกว่า เพราะอิฐมวลเบา Q-CON ก่อและฉาบผนังบางกว่าอิฐมอญ (อิฐมวลเบา ก่อบาง 2 มม. ฉาบบาง 1 ซม. ส่วนอิฐมอญ ก่อหนา 1.5 ซม. ฉาบหนา 2 ซม.) ช่วยประหยัดค่าวัสดุในการก่อและฉาบ >๐ ประหยัดค่าไฟ เพราะอิฐมวลเบา Q-CON มีคุณสมบัติความเป็นฉนวนมากกว่าอิฐมอญ 4-10 เท่า ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ถึง 30% >๐ กันเสียงได้ เพราะอิฐมวลเบา Q-CON มีรูพรุนทำหน้าที่เป็นฉนวนกันเสียงในตัวได้ดี สามารถกันเสียงได้ดีกว่าอิฐมอญ >๐ ปลอดภัยกว่าเมื่อเกิดไฟไหม้อาคาร เพราะอิฐมวลเบา Q-CON ทนไฟได้นานกว่า 4 ชั่วโมง ส่วนอิฐมอญสามารถทนไฟได้เพียง 1–1.5 ชั่วโมง เท่านั้น >. >สนใจ อิฐมวลเบา Q-CON คลิก\{.button .newtab} {.centered} >. >อ่านเพิ่มเติม: อิฐมอญ VS อิฐมวลเบา ใช้อะไรสร้างบ้านดี ?\{.newtab} >อ่านเพิ่มเติม: 7 เรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับอิฐมวลเบา Q-CON ที่หลายคนยังไม่รู้\{.newtab}
แจกแจงรูปแบบการระบายน้ำฝนของหลังคาส่วนต่อเติม ไม่ว่าจะเป็นหลังคาโรงรถหรือหลังคากันสาดเหนือประตูหน้าต่างรอบบ้าน ทั้งแบบที่มีรางน้ำกันสาดเพื่อรองรับน้ำฝน และแบบที่ไม่มีรางน้ำฝนใดๆ เลย > >ปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้ว่า สภาพภูมิอากาศที่เราเผชิญอยู่นั้นมีทั้งร้อนและฝนตกหนักพร้อมลมกระโชกแรงมากขึ้นทุกๆ ปี แม้การอยู่อาศัยภายในบ้านจะช่วยปกป้องเราจากแสงแดดและลมฝนแล้ว การช่วยลดความรุนแรงของสภาพอากาศตั้งแต่บริเวณภายนอกบ้านก็จำเป็นเช่นกัน โดยเฉพาะการต่อเติมหลังคากันสาด ทั้งบริเวณที่จอดรถและพื้นที่รอบบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เรามักคำนึงถึงการเลือกใช้วัสดุและดีไซน์ที่เข้ากับตัวบ้านเป็นสำคัญ แต่ในความเป็นจริงเราควรคำนึงถึงระบบการระบายน้ำฝนด้วย เพราะน้ำฝนที่ไหลลงจากหลังคาอาจสร้างความเสียหายบนผิวพื้นหรือระบายออกไปรบกวนเพื่อนบ้านข้างเคียงได้ รางน้ำฝน พร้อมบริการติดตั้ง คลิก\{.button .newtab} {.centered} Single Image หลังคากันสาด ติดตั้งเป็นหลังคาโรงรถ >ภาพ: ต่อเติมหลังคาคลุมที่จอดรถหน้าบ้าน Single Image หลังคากันสาดวัสดุทึบแสงบริเวณประตูบ้าน >ภาพ: (ซ้าย) ต่อเติมหลังคากันสาดแบบทึบเหนือประตูทางเข้าบ้าน, (ขวา) ต่อเติมหลังคาแบบโปร่งคลุมทางเดินรอบบ้าน >มาถึงตรงนี้ เจ้าของบ้านอาจสงสัยว่า “หลังคากันสาด จำเป็นต้องติดรางน้ำฝนด้วยหรือ?” >จริงๆ แล้วเราจะเลือกติดตั้งหรือไม่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับลักษณะของพื้นที่โดยรอบ หากน้ำฝนไหลลงสู่พื้นที่เป็นพื้นหิน หรือพื้นคอนกรีตในบริเวณที่ไม่ค่อยใช้งาน ห่างไกลจากเพื่อนบ้าน ก็อาจไม่จำเป็นต้องติดรางน้ำฝน แต่หากเป็นสวน สนามหญ้า บ่อปลา รวมถึงกรณีที่ปลายหลังคากันสาดใกล้หรือชนกับเขตรั้วของเพื่อนบ้าน แนะนำให้ติดตั้งรางน้ำฝน เพราะนอกจากจะช่วยลดแรงน้ำฝนที่ตกกระทบบนพื้นผิวแล้ว รางน้ำฝนยังช่วยนำทางน้ำฝนลงสู่ท่อระบายน้ำได้อย่างเป็นระเบียบ ไม่รบกวนทั้งเพื่อนบ้านและบ้านเราเอง ทั้งยังช่วยปกป้องผนังบ้านจากคราบน้ำ ตะไคร่ หรือเชื้อราได้อีกด้วย รูปแบบของปลายหลังคาโรงรถหรือหลังคากันสาดที่มีรางน้ำและไม่มีรางน้ำสามารถทำได้หลากหลายแนวทาง ดังนี้ >## 1. ติดตั้งรางน้ำหลังคา ในรูปของรางน้ำฝนโดยต่อท่อระบายน้ำลงสู่พื้น >วิธีนี้เป็นวิธีที่นิยมกันโดยทั่วไป น้ำจากหลังคาจะไหลลงรางน้ำและระบายสู่ท่อน้ำฝนที่สามารถทาสีให้กลมกลืนไปกับโครงสร้างหลังคาได้ น้ำฝนจากท่อจะไหลตรงไปสู่พื้น หรือต่อลงทางระบายน้ำรอบบ้านโดยตรงเลยก็ได้ การติดตั้งรางน้ำที่ปลายหลังคาสามารถทำได้ทั้งแบบซ่อนรางน้ำ และโชว์รางน้ำ ขึ้นอยู่กับสไตล์ ความเหมาะสมสวยงาม ความชอบของเจ้าของบ้าน โดยให้สอดคล้องกับวัสดุรางน้ำที่เลือกใช้ด้วย Single Image กันสาดซ่อนรางน้ำ รางน้ำฝนแบบซ่อน >ภาพ: มุมมองด้านบนของหลังคากันสาดที่มีรางน้ำฝนแบบซ่อน Single Image รางน้ำฝนแบบซ่อนในหลังคากันสาดทึบแสง >ภาพ: รูปแบบหลังคากันสาดแบบทึบที่ติดตั้งรางน้ำฝนแบบซ่อนในโครงสร้างหลังคา ทาสีท่อระบายน้ำให้กลมกลืนไปกับเสาโครงสร้าง Single Image รางน้ำฝนแบบซ่อนในหลังคากันสาดโปร่งแสง >ภาพ: รูปแบบหลังคากันสาดแบบโปร่งใสที่ติดตั้งรางน้ำฝนแบบซ่อนในโครงสร้างหลังคา ทาสีท่อระบายน้ำให้กลมกลืนไปกับเสาโครงสร้าง Single Image ต่อท่อระบายน้ำฝนจากรางน้ำกันสาด >ภาพ: การต่อท่อระบายน้ำฝนจากรางน้ำฝนลงสู่พื้น หรือทางระบายน้ำรอบบ้าน (ใต้ดิน) ไม่รบกวนเพื่อนบ้าน ในกรณีที่หลังคากันสาดชนกับรั้วข้างบ้าน (ภาพซ้าย: แบบซ่อนรางน้ำ) (ภาพขวา: แบบโชว์รางน้ำ) Single Image รางน้ำกันสาด โชว์รางน้ำฝน >ภาพ: ต่อเติมหลังคากันสาดข้างบ้านแบบโชว์รางน้ำฝน รางน้ำฝน พร้อมบริการติดตั้ง คลิก\{.button .newtab} {.centered} > สนใจสินค้า รางน้ำฝนไวนิล เอสซีจี และอุปกรณ์ คลิก\{.button .newtab} {.centered} >## 2. ติดตั้งรางน้ำหลังคา ในรูปของรางน้ำฝนพร้อมโซ่รางน้ำฝน (Rain Chain) >การติดตั้งรางน้ำฝนเหมือนกับรูปแบบแรก แต่จะใช้โซ่รางน้ำฝน เป็นตัวระบายน้ำแทนการต่อท่อระบายน้ำเพื่อช่วยชะลอความแรงของน้ำที่มาจากรางน้ำ ซึ่งควรเตรียมพื้นที่ด้านล่างเป็นพื้นสนามหญ้า โอ่งน้ำ กระถางต้นไม้ พื้นโรยหินหรือกรวด เป็นต้น รูปแบบของโซ่ระบายน้ำฝนมีให้เลือกใช้ได้หลากหลายเพื่อให้เข้ากับสไตล์บ้านได้ Single Image กันสาดซ่อนรางน้ำพร้อมโซ่ระบายน้ำฝนหรือโซ่รางน้ำฝน >ภาพ: โซ่ระบายน้ำฝน (Rain Chain) ที่ต่อจากรางน้ำฝนแบบซ่อนของหลังคากันสาด Single Image โซ่ระบายน้ำฝนหรือโซ่รางน้ำฝนจากหลังคา >ภาพ: โซ่ระบายน้ำฝน (Rain Chain) แบบถ้วย สามารถช่วยชะลอความแรงของการระบายน้ำฝนได้ สนใจสินค้า โซ่ระบายน้ำฝน คลิก\{.button .newtab} {.centered} >## 3. ต่อเติมหลังคากันสาดแบบไม่ติดตั้งรางน้ำหลังคาหรือรางน้ำฝนใดๆ >ในกรณีที่ต่อเติมหลังคากันสาดโดยไม่ติดตั้งรางน้ำหลังคา ก็สามารถออกแบบลักษณะปลายแผ่นหลังคากันสาดได้หลายแบบไม่ว่าจะเป็น การเว้นช่องว่างระหว่างปลายแผ่นกับโครงหลังคา เพื่อช่วยซ่อนปลายหลังคาให้เรามองเห็นเพียงของโครงสร้างโดยรอบ หรือการยื่นปลายแผ่นหลังคาเลยโครงสร้างออกไป ลักษณะการระบายน้ำจะไหลตามแรงโน้มถ่วงสู่ปลายแผ่นหลังคาก่อนตกกระทบลงพื้น Single Image หลังคากันสาดซ่อนปลายหลังคา >ภาพ: กันสาดแบบเหลือช่องว่างระหว่างปลายกับโครงหลังคาเพื่อซ่อนปลายแผ่นหลังคา Single Image วัสดุมุงโปร่งแสงเลยขอบหลังคากันสาด >ภาพ: กันสาดแบบยึดแผ่นกระเบื้องหลังคาเลยขอบโครงสร้าง >สำหรับหลังคากันสาดไม่ว่าจะเลือกติดตั้งรางน้ำหรือไม่ สิ่งที่ต้องคำนึงคือ การระบายน้ำจะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นด้านล่าง หรือส่งผลกระทบเสียหายบริเวณโดยรอบ การดีไซน์รางน้ำก็เช่นกัน ไม่ว่าจะซ่อนหรือไม่ ต้องดูแลทำความสะอาดรางน้ำให้สะอาด ไม่มีสิ่งสกปรก ใบไม้หรือกิ่งไม้มาขวางทางน้ำซึ่งจะลดคุณภาพการระบายน้ำลงได้ >ขอบคุณภาพประกอบบทความจาก คิวช่าง Q-Chang >อ่านเพิ่มเติม: สวนพัง ผนังเปื้อน เพื่อนบ้านบ่น...รางน้ำฝนช่วยได้ รางน้ำฝน พร้อมบริการติดตั้ง คลิก\{.button .newtab} {.centered}
รวมไอเดียสร้างบรรยากาศโรแมนติกในห้องนอนต้อนรับวันวาเลนไทน์ เติมความหวานเอาใจคนมีคู่ให้รักดูไม่จืดจาง ! > ห้องนอน เป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนกาย พร้อมทิ้งตัวลงนอนได้เมื่อถึงห้อง และแน่นอนว่าเป็น Safe Zone ของใครหลาย ๆ คนอีกด้วย โดยเฉพาะสำหรับคนที่มีคู่หรือมีคนรัก เวลาเหนื่อย ๆ จากการทำงานมาเจอแฟนหรือคนรักที่ห้องให้กอด ให้อ้อนจะฟินแค่ไหน.. วันนี้จึงรวมไอเดียเพิ่มความฟินจัดเอาใจคู่รักสร้างความโรแมนติกในห้องนอนต้อนรับวันวาเลนไทน์ให้รักกลับมาหวานชื่นอีกครั้ง.. >## 1) จัดแสงไฟในห้องให้สลัว ๆ >1.1) เลือกใช้ไฟในห้องนอนแบบ Warm White ให้แสงสีเหลืองไปจนถึงสีส้ม เป็นแสงไฟที่สบายตาที่สุด จะช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่น โรแมนติก และให้ความรู้สึกผ่อนคลายได้ วันวาเลนไทน์ 14กุมภา 14 วันวาเลนไทน์ ห้องนอนโรแมนติก วันวาเลนไทน์ โรแมนติก ห้องนอน แต่งห้องนอนโรแมนติก สร้างบรรยากาศ >ภาพ: จัดไฟห้องนอนแสง Warm White สร้างความโรแมนติกต้อนรับวันวาเลนไทน์ >1.2) เลือกเปิดไฟเพียง 2-3 ดวงเท่านั้นและไม่ควรเปิดไฟที่ส่องตรงกับเตียงนอนพอดีเพราะจะทำให้รู้สึกแสบตาหรือแยงตาได้ แนะนำเป็นโคมไฟข้างเตียงสองด้านเล็ก ๆ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ไม่ได้กระทบกับสายตาตรง ๆ หรือเลือกติดตั้งไฟเส้น ไฟหลืบ ซึ่งมักจะซ่อนไว้ที่ฝ้าเพดาน ทำให้ห้องดูสวยงามและมีมิติมากขึ้น วันวาเลนไทน์ 14กุมภา 14 วันวาเลนไทน์ ห้องนอนโรแมนติก วันวาเลนไทน์ โรแมนติก ห้องนอน แต่งห้องนอนโรแมนติก สร้างบรรยากาศ >ภาพ: ซ่อนไฟหลืบที่ฝ้าเพดานห้องนอน ช่วยให้ดูมีมิติสวยงามยิ่งขึ้น >1.3) เลือกจุดเทียนหอมแทนการเปิดไฟในวันพิเศษ เทียนหอมให้แสงไฟแบบสลัว ๆ ไม่สว่างจ้าหรือแข็งทื่อ และยังส่งกลิ่นหอมที่ส่งผลทางด้านอารมณ์ความรู้สึกผ่อนคลายให้กับคู่รักได้ดีทีเดียว ทำให้ห้องนอนโรแมนติกมากยิ่งขึ้น แต่สิ่งที่ต้องคำนึงคือไม่ควรจุดเทียนหอมในตำแหน่งใกล้เสื้อผ้า เตียงนอน พรม เพราะอาจจะเกิดอันตรายได้ วันวาเลนไทน์ 14กุมภา 14 วันวาเลนไทน์ ห้องนอนโรแมนติก วันวาเลนไทน์ โรแมนติก ห้องนอน แต่งห้องนอนโรแมนติก สร้างบรรยากาศ >ภาพ: วาเลนไทน์นี้จุดเทียนหอมสร้างบรรยากาศสุดโรแมนติกในห้องนอน >## 2) ตกแต่งห้องให้เป็นสีโทนเดียวกัน >การเลือกสีตกแต่งห้องสามารถเลือกได้ทั้งสีโทนเย็นและสีโทนร้อน แต่อาจจะเลือกไปในเฉดสีพาสเทล เพราะจะให้ความรู้สึกอบอุ่น นุ่มนวลได้ดีกว่าสีเข้ม ๆ มองแล้วสบายตาเข้าห้องมาแล้วสบายใจ อย่างสีขาวนวล สีครีม หรือสีสว่างอ่อน ๆ อารมณ์ของคู่รักจะดูซอฟต์ลง หากเลือกใช้สีฉูดฉาดเกินไปและไม่เข้ากับการตกแต่งในห้อง อาจจะทำให้รู้สึกอึดอัดใจ ไม่สบายตาได้ ดังนั้น สีของเฟอร์นิเจอร์ในห้อง ผ้าม่าน พื้น ผนัง รวมถึงสีผ้าปูที่นอนควรเป็นคู่สีที่เข้ากัน วันวาเลนไทน์ 14กุมภา 14 วันวาเลนไทน์ ห้องนอนโรแมนติก วันวาเลนไทน์ โรแมนติก ห้องนอน แต่งห้องนอนโรแมนติก สร้างบรรยากาศ ภาพ: เลือกใช้สีพาสเทลหรือสีสว่างละมุนตกแต่งผนัง ผ้าปูที่นอน ผ้าม่านเลือกใช้สีโทนเดียวกัน >## 3) เสียงเพลงปรับอารมณ์ ลดความเครียด >เสียงดนตรีช่วยลดความเครียด ผ่อนคลาย และมีส่วนช่วยส่งเสริมการรับรู้อารมณ์ ความรู้สึก และความคิดสร้างสรรค์ในเชิงบวก สำหรับคู่รักที่ต้องการเติมความหวานให้คนพิเศษแม้จะเป็นวันธรรมดา ให้เลือกเพลงที่เราหรือแฟนชอบสลับกันไปเพื่อให้ชีวิตคู่ได้มีกิจกรรมร้องเพลงไปด้วยกันบ้าง สามารถสร้างความโรแมนติกสานสัมพันธ์ที่ดีได้เช่นกัน หรือเลือกเป็นดนตรีแนว R&B / JAZZ / Soul คลอไปเบา ๆ ให้บรรยากาศในห้องไม่เงียบเหงา โดยทั่วไปแนวดนตรีนี้ถือว่าเป็นดนตรีที่ค่อนข้างมีความโรแมนติกและเซ็กซี่อีกด้วย วันวาเลนไทน์ 14กุมภา 14 วันวาเลนไทน์ ห้องนอนโรแมนติก วันวาเลนไทน์ โรแมนติก ห้องนอน แต่งห้องนอนโรแมนติก สร้างบรรยากาศ >ภาพ: เสียงเพลงช่วยลดความเครียด มีกิจกรรมร่วมกันได้ >## 4) กลิ่นหอมอ่อน ๆ ช่วยให้คู่รักรู้สึกผ่อนคลาย >กลิ่นเป็นตัวช่วยเพิ่มความโรแมนติกที่ดีมาก ๆ เพราะไม่ว่าใครเข้าห้องนอนมาเจอกลิ่นหอมก็รู้สึกสดชื่นหรือรู้สึกดีได้ง่าย กลิ่นอาจจะมาจากน้ำมันหอมระเหย เทียนหอม รวมถึงกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มที่มาจากที่นอน ทุกอย่างล้วนส่งผลต่อความรู้สึก แต่กลิ่นต้องไม่ฉุนและตีกันจนทำให้เวียนหัว ควรเลือกเป็นกลิ่นหอมอ่อน ๆ ซึ่งกลิ่นที่นิยมในช่วงวันวาเลนไทน์จะเป็นกลิ่นกุหลาบ เพราะช่วยสร้างความโรแมนติกและแฝงความเซ็กซี่นิด ๆ ว่ากันว่าเป็นกลิ่นที่กระตุ้นไฟรักได้ทรงพลังที่สุด วันวาเลนไทน์ 14กุมภา 14 วันวาเลนไทน์ ห้องนอนโรแมนติก วันวาเลนไทน์ โรแมนติก ห้องนอน แต่งห้องนอนโรแมนติก สร้างบรรยากาศ >ภาพ: กลิ่นหอมสร้างความรู้สึกดี ๆ ผ่อนคลาย >## 5) เตียงนอนต้องหนานุ่มสบาย >เตียงนอนเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ควรให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ในห้องนอน เพราะหากสร้างบรรยากาศโรแมนติกดีแค่ไหน แต่ถ้าเตียงนอนไม่ดี นอนไม่สบายก็จบ เพราะเคล็ดลับความโรแมนติกซ่อนอยู่ในรูปแบบการได้สัมผัส Texture ที่นุ่มสบาย คู่รักจึงควรเลือกเตียงนอนที่นอนสบาย หนานุ่ม เหมาะกับสรีระร่างกายของทั้งคู่ วันวาเลนไทน์ 14กุมภา 14 วันวาเลนไทน์ ห้องนอนโรแมนติก วันวาเลนไทน์ โรแมนติก ห้องนอน แต่งห้องนอนโรแมนติก สร้างบรรยากาศ >ภาพ: เตียงนอนหนานุ่มที่เหมาะกับคู่รัก นอนสบาย สนใจ ของใช้สำหรับห้องนอน คลิก\{.button .newtab} {.centered} >## 6) จัดดอกไม้ใส่แจกันให้ห้องดูสดชื่น >เลือกจัดดอกไม้สดในวันพิเศษหรือวันที่ต้องการสร้างความโรแมนติกอย่างวันวาเลนไทน์กับคู่รักในห้อง ทำให้ห้องมีสีสัน สดชื่นยิ่งขึ้น และอาจจะเพิ่มกิมมิกเล็ก ๆ ด้วยการโรยกลีบดอกไม้ไว้บนเตียงเสมือนเตียงเจ้าสาวเข้าเรือนหอ ซึ่งดอกไม้ที่นิยมนำมาตกแต่งจะเลือกเป็นดอกกุหลาบสีขาว แสดงถึงความรักที่บริสุทธิจากใจจริง ดอกกุหลาบสีแดงที่แสดงถึงความรักที่ลึกซึ้ง ร้อนแรงไม่จืดจาง ดอกกุหลาบสีชมพูแสดงถึงความรักหวานโรแมนติกและมีความเสน่หาต่อกัน วันวาเลนไทน์ 14กุมภา 14 วันวาเลนไทน์ ห้องนอนโรแมนติก วันวาเลนไทน์ โรแมนติก ห้องนอน แต่งห้องนอนโรแมนติก สร้างบรรยากาศ >ภาพ: จัดดอกไม้สดในแจกันเพิ่มความสดชื่นมีชีวิตชีวาในห้อง วันวาเลนไทน์ 14กุมภา 14 วันวาเลนไทน์ ห้องนอนโรแมนติก วันวาเลนไทน์ โรแมนติก ห้องนอน แต่งห้องนอนโรแมนติก สร้างบรรยากาศ >ภาพ: เพิ่มความโรแมนติกในช่วงวันวาเลนไทน์ด้วยการโรยกลีบดอกกุหลาบบนเตียงให้รักหวานชื่น 7) เปิดแชมเปญดื่มคนรักในค่ำคืนพิเศษ >เหมาะสำหรับคู่รักนักดื่มที่ต้องการสวีทกันสองคนในห้องนอน เครื่องดื่มที่มักนิยมคือแชมเปญ (Champagne) ดี ๆ สักขวด ใช่ว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะมีแต่ข้อเสีย หากดื่มเป็นและพอดีก็เป็นประโยชน์ต่อร่างกายได้เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น ดื่มสัปดาห์ละ 1-2 แก้ว ผลการวิจัยจาก University of Reading ในอังกฤษได้ระบุว่า แชมเปญนั้นช่วยบูสต์สมองในส่วนที่เกี่ยวกับความจำของเราได้ แต่หากดื่มเยอะเกินไปก็ทำลายสมองได้เช่นกัน ดังนั้นในค่ำคืนพิเศษดื่มเบา ๆ กับคนรักคนละแก้ว สร้างความทรงจำดี ๆ ร่วมกันก็โรแมนติกไม่น้อย วันวาเลนไทน์ 14กุมภา 14 วันวาเลนไทน์ ห้องนอนโรแมนติก วันวาเลนไทน์ โรแมนติก ห้องนอน แต่งห้องนอนโรแมนติก สร้างบรรยากาศ >ภาพ: ดื่มแชมเปญในค่ำคืนพิเศษกับคู่รักในวันวาเลนไทน์ >ไอเดียที่นำมาฝากกันวันนี้เป็นเพียงทริกเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สามารถช่วยสร้างบรรยากาศความโรแมนติกในห้องนอนให้ความรักของคุณไม่จืดจางได้ และในขณะเดียวกันอาจจะช่วยสานความสัมพันธ์ให้รักที่เหี่ยวเฉากลับมาสดใสและโรแมนติกมากยิ่งขึ้น วันวาเลนไทน์ 14กุมภา 14 วันวาเลนไทน์ ห้องนอนโรแมนติก วันวาเลนไทน์ โรแมนติก ห้องนอน แต่งห้องนอนโรแมนติก สร้างบรรยากาศ >ภาพ: บรรยากาศโรแมนติกในห้องกับคู่รักวันวาเลนไทน์
ชวนเจ้าของบ้านทำความเข้าใจว่าทำไม ภายในบ้าน หรือในออฟฟิศของเรา อาจมีมลพิษอากาศสูงกว่าภายนอกบ้าน รวมถึงข้อแนะนำในการลดมลพิษอากาศด้วยอุปกรณ์ตัวช่วยต่างๆ... > ทุกวันนี้เรามักกังวลว่ามลภาวะ ฝุ่น เชื้อโรค จากภายนอกบ้านจะเข้ามาทำให้อากาศภายในบ้านปนเปื้อน ส่งผลเสียต่อสุขภาพ แต่ลืมนึกกันไปว่า ภายในบ้านของเราก็อาจกลายเป็นแหล่งสะสมอากาศไม่สะอาดได้หากเป็นพื้นที่ระบบปิดซึ่งอากาศถ่ายเทได้ไม่เพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นบ้านที่มักปิดห้อง ปิดประตูหน้าต่างมิดชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในออฟฟิศที่มีคนนั่งทำงานกันทั้งวัน อาจมีมลพิษอากาศมากกว่าภายนอกบ้าน นอกอาคารได้ถึง 2-5 เท่า > ทำไมภายในบ้านเราถึงมีมลพิษในอากาศ > ยกตัวอย่างลองนึกภาพภายในบ้านมีทั้งสัตว์เลี้ยง คนป่วย รวมถึงทุกๆ คนที่ออกไปข้างนอกแล้วกลับเข้ามาในบ้าน ก็มีโอกาสนำเชื้อโรค ฝุ่นหรือสารไม่พึงประสงค์ติดตัวเข้ามาได้ตลอด หากระบบถ่ายเทอากาศในบ้านไม่ดีพอ สารไม่พึงประสงค์เหล่านี้ก็จะสะสมล่องลอยอยู่ตามอากาศภายในบ้านที่เป็นระบบปิด ไม่ได้ถูกถ่ายเทออกไป แล้วเราจะมีวิธีใดที่ช่วยลดมลพิษที่ปะปนอยู่ตามอากาศในบ้านเราได้บ้าง... > จัดการมลพิษอากาศภายในบ้านด้วยเครื่องฟอกอากาศ > เป็นตัวช่วยทำให้อากาศสะอาดที่นิยมกัน เนื่องจากหาซื้อง่าย ใช้งานง่าย เพียงแค่เสียบปลั๊กกดปุ่ม เครื่องก็จะทำงานทันที สามารถโยกย้ายไปวางตามห้องต่างๆ ได้ตามต้องการ โดยเครื่องฟอกอากาศจะจัดการกับฝุ่น เชื้อโรค สารไม่พึงประสงค์ที่มีอยู่ในบ้าน ซึ่งจะกำจัดอะไรได้บ้างนั้น ขึ้นอยู่กับความสามารถของเครื่องฟอกอากาศแต่ละรุ่น และเจ้าของบ้านจะต้องทำการเปลี่ยนแผ่นกรองตามระยะเวลาที่เหมาะสม ทั้งนี้เครื่องฟอกอากาศแต่ละรุ่นจะต้องใช้ในพื้นที่ปิดตามขนาดพื้นที่ห้องที่ระบุไว้ (ไม่ว่าจะเปิดเครื่องปรับอากาศหรือไม่ก็ตาม) ซึ่งเจ้าของบ้านควรเลือกใช้ให้เหมาะสม > SingleImage ลดมลพิษอากาศในบ้านด้วยเครื่องฟอกอากาศ ภาพ: ตัวอย่างการใช้เครื่องฟอกอากาศในบ้าน > เลือกซื้อ เครื่องฟอกอากาศ คลิก\{.button .newtab} {.centered} > จัดการมลพิษอากาศในบ้าน ด้วยระบบไอออนกำจัดฝุ่น เชื้อโรค ในอากาศ > หลักการของระบบคือ ติดตั้งอุปกรณ์ที่สร้างประจุไอออนบวก/ลบ มาจับกับฝุ่นและเชื้อโรคที่ล่องลอยอยู่ในอากาศให้ตกลงมา เป็นอีกวิธีที่สะดวก ไม่ต้องทำการเปลี่ยนไส้กรองใดๆ ทั้งสิ้น ยกตัวอย่างระบบ SCG Bi-ionization หรือที่เรียกว่า SCG Bi-ion ซึ่งใช้เทคโนโลยี Bipolar Ionization สร้างออกซิเจนไอออนบวก (O2+) และออกซิเจนไอออนลบ (O2-) เข้าจับโมเลกุลที่ลอยอยู่ ทำให้เกิดปฏิกิริยา Qxidation จัดการกับมลภาวะในอากาศ ไม่ว่าจะเป็น กำจัดเชื้อโรครวมถึงไวรัสตระกูลโคโรน่าได้สูงสุดถึง 99%* ลดฝุ่นขนาดเล็ก PM10-PM2.5 ลดกลิ่นสารระเหยและกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ > SingleImage ลดมลพิษอากาศในบ้านด้วยเครื่องปล่อยประจุ เครื่องฟอกอากาศประจุลบ SCG Bi-ion ภาพ: จำลองการปล่อยประจุของ SCG Bi-ion เพื่อดักจับฝุ่น เชื้อโรคในบ้าน > *หมายเหตุ ปริมาณเชื้อไวรัสที่ลดลงจากการทดสอบในห้องสภาวะควบคุม อาจแตกต่างกันไปตามสถานที่ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ และความชื้น เป็นต้น โดยผลการวิจัยพบว่า สามารถลด MS2 Bacteriophage ซึ่งเป็น Surrogate ของเชื้อ SARS-CoV-2 (COVID-19) ในอากาศได้ 90-99% และ บนพื้นผิว 80% ภายใน10 นาที เมื่อเทียบกับก่อนการเปิดใช้ระบบ SCG Bi-ion โดยแลปวิจัยทางด้าน Biological Defence ของสถาบัน INTA หน่วยงานของกระทรวงกลาโหม ประเทศสเปน เมื่อเดือน พ.ค. 2020 SCG Bi-ion เป็นระบบที่มีคุณสมบัติช่วยลดโอกาสในการติดโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ไม่ได้เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ดังนั้นทางผู้ใช้งานจึงควรปฏิบัติตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำอย่างเคร่งครัด > สนใจติดตั้ง ระบบไอออนกำจัดฝุ่น เชื้อโรค ในอากาศ SCG Bi-ion คลิก\{.button .newtab} {.centered} > ทั้งนี้ ระบบ SCG Bi-ion ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยโดย Intertek/ETL Standard UL 867 และ Zero Ozone Emission Standard UL 2998 มั่นใจได้ว่าปลอดภัยต่อคนและสิ่งมีชีวิตในขณะเปิดใช้งาน ไม่เกิดโอโซนอันเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ติดตั้งสะดวกเข้ากับระบบเครื่องปรับอากาศเดิมได้ทุกประเภท (รวมถึงแอร์แบบติดผนังที่นิยมใช้ในบ้านทั่วไป) หรือติดตั้งเข้ากับเครื่องเติมอากาศดี SCG Active Air Quality บางรุ่นได้ (ซึ่งจะเล่าถึงในหัวข้อถัดไป) โดยเมื่อระบบทำงาน ไอออนประจุบวกหรือลบจะจับตัวกับเซลล์ของเชื้อไวรัส แบคทีเรีย ทำให้เชื้อเหล่านั้นตาย และเมื่อจับตัวกับฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ทำอันตรายต่อสุขภาพ ก็จะทำให้ฝุ่นเหล่านั้นมีขนาดใหญ่ขึ้น จากนั้นฝุ่น เชื้อโรค มลภาวะภายในห้อง จะตกลงสู่พื้น อาจเกิดละอองฝุ่นสีดำที่พื้นห้อง ซึ่งเจ้าของบ้านสามารถกวาดหรือดูดฝุ่นได้ตามปกติ > SingleImage เครื่องปล่อยประจุ SCG Bi-ion เครื่องฟอกอากาศประจุลบ ภาพ: อุปกรณ์ SCG Bi-ion กับระบบปรับอากาศประเภทต่าง > จัดการมลพิษอากาศในบ้าน ด้วยเครื่องเติมอากาศดี > หลักการคือ เป็นการนำอากาศจากภายนอกมาผ่านระบบกรอง เพื่อกรองฝุ่นและเชื้อโรคออกจนได้อากาสบริสุทธิ์ ก่อนจะนำเข้าสู่ภายในตัวบ้าน และอากาศดีที่เข้ามาก็จะดันเอาอากาศเสียภายในบ้านที่ประกอบด้วยฝุ่น เชื้อโรค สารไม่พึงประสงค์ รวมถึงคาร์บอนไดออกไซด์ ออกไปตามซอกรอยต่อต่างๆ ของบ้าน เช่น ตามขอบประตูหน้าต่าง ภายใต้หลักการของ Positive Pressure ซึ่งนอกจากอากาศดีจะดันอากาศเสียออกไปแล้ว อากาศที่ปนเปื้อนมลพิษจากภายนอกก็จะไม่สามารถซอกซอนเข้ามาในห้องได้ด้วย ดังนั้น ห้องในสภาพปิดมิดชิดที่ใช้เครื่องเติมอากาศดีจึงสามารถถ่ายเทอากาศได้ตลอด โดยเครื่องเติมอากาศดีจะมีรุ่นต่างๆ ให้เลือกทั้งสำหรับห้องที่ใช้เครื่องปรับอากาศและห้องที่ไม่ได้ใช้เครื่องปรับอากาศ นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ร่วมกันกับตัวช่วยลดมลพิษอากาศในบ้าน อย่างเครื่องฟอกอากาศ หรือระบบ SCG Bi-ion ที่เล่าไว้ข้างต้นได้ด้วยเช่นกัน > SingleImage ระบบแรงดันบวก air positive pressure กันฝุ่นเข้าบ้าน ภาพ: การทำงานของเครื่องเติมอากาศดี SCG Active Air Quality > SingleImage ระบบกรองอากาศ 5 ชั้นของ เครื่องเติมอากาศดี scg active air quality ภาพ: ระบบกรองของเครื่องเติมอากาศดี SCG Active Air Quality > ทั้งนี้การทำงานของเครื่องเติมอากาศดี จะต้องมีการนำเอาอากาศจากนอกบ้านมากรอง ดังนั้นห้องที่ติดตั้งเครื่องเติมอากาศดีจะต้องมีผนังอย่างน้อย 1 ด้านติดกับภายนอกบ้าน และต้องเปลี่ยนแผ่นกรองตามระยะเวลาที่กำหนด > อ่านเพิ่มเติม: ปิดบ้านหนีฝุ่นกันเชื้อโรค แต่ยังระบายอากาศในบ้านได้ด้วย SCG Active AIR Quality\{.newtab} > สนใจติดตั้งเครื่องเติมอากาศดี SCG Active AIR Quality คลิก\{.button .newtab} {.centered} > มาถึงตรงนี้เจ้าของบ้านคงได้เข้าใจแล้วว่า หากบ้านเรามีการถ่ายเทอากาศที่ไม่ดีพอ จะกลายเป็นแหล่งสะสมมลพิษในอากาศ ซึ่งเราสามารถอาศัยตัวช่วย เพื่อลดความเสี่ยงเรื่องสุขภาพ หากเน้นความสะดวกอาจเลือกเครื่องฟอกอากาศ แต่ก็เป็นทางเลือกที่อาจจะกำจัดมลพิษในอากาศได้น้อยสุด ส่วนเครื่องเติมอากาศดีจะนำเอาแต่อากาศดีเข้ามาในบ้าน และดันอากาศเสียที่ปนเปื้อนฝุ่น เชื้อโรค รวมถึงก๊าซไม่พึงประสงค์ อย่างคาร์บอนไดออกไซด์ออกไป ทำให้อากาศในห้องถ่ายเทได้ตลอดแม้ปิดมิดชิด โดยต้องทำการเปลี่ยนแผ่นกรองตามระยะเวลาที่เหมาะสม และต้องติดตั้งกับห้องที่มีผนังติดกับภายนอกอย่างน้อย 1 ด้าน ในขณะที่ระบบ SCG Bi-ion จะใช้ระบบปล่อยประจุดักจับฝุ่น เชื้อโรค ให้ตกลงพื้น ไม่ต้องมีการเปลี่ยนไส้กรอง แต่ควรกวาดหรือดูดฝุ่นเป็นประจำเพื่อกำจัดฝุ่นและเชื้อโรคที่ถูกดักจับและตกลงพื้น
ประโยชน์ของเครื่องดูดความชื้นที่ควรรู้ ไม่ว่าจะเป็นลดกลิ่นอับ กลิ่นไม่พึงประสงค์ ไปจนถึงช่วยให้บ้านมีสภาพอากาศที่เหมาะช่วยให้หายใจสะดวกยิ่งขึ้น >ปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ มีฝนตกบ่อย ๆ ทำให้บางครั้งบ้านมีความชื้นเพิ่มขึ้นและมีกลิ่นเหม็นอับ หรือมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ทำให้หายใจไม่ค่อยสะดวก กลายเป็นจุดเล็ก ๆ ที่อาจส่งผลต่อสุขภาพเป็นภูมิแพ้อากาศของคนในบ้าน วันนี้ SCGHOME.COM จะมาแนะนำประโยชน์ของ เครื่องดูดความชื้น ที่จะช่วยแก้ปัญหาของเจ้าของบ้านไม่มากก็น้อย >## 1) ช่วยลดกลิ่นเหม็นอับและกลิ่นไม่พึงประสงค์ >เมื่อบ้านมีความชื้นมากเกินไปทำให้เชื้อโรค/เชื้อราภายในบ้านเติบโตได้ไว ทำให้ภายในมุมห้องต่าง ๆ ของบ้าน เช่น ห้องครัว ห้องน้ำ ส่งกลิ่นเหม็นอับได้ รวมไปถึงกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์จากสิ่งของที่เราใช้เป็นประจำ เช่น กลิ่นอับเสื้อผ้า กลิ่นอับรองเท้า นอกจากนี้ยังรวมถึงกลิ่นสัตว์เลี้ยงในบ้านอีกด้วย สัตว์เลี้ยง อากาศชื้น >ภาพ กลิ่นไม่พึงประสงค์จากสัตว์เลี้ยงในบ้านที่เกิดขึ้นในช่วงที่อากาศชื้น >## 2) ลดการเกิดอาการภูมิแพ้ >หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้คนเป็นภูมิแพ้ได้เกิดจากเชื้อโรคหรือเชื้อราที่มาจากความชื้นที่สะสมอยู่ในอากาศ ทำให้เกิดอาการจาม ไอ มีน้ำมูก คัดจมูก คันจมูก คันตา เคืองตา ตาแดง น้ำมูกไหลลงคอ เป็นหวัดบ่อย เป็นหวัดเรื้อรัง เป็นต้น เครื่องดูดความชื้นช่วยลดสาเหตุเรื่องความชื้นสะสมในเบื้องต้น จึงลดสาเหตุของภูมิแพ้ได้ ภูมิแพ้อากาศ เชื้อรา >ภาพ ภูมิแพ้อากาศเกิดจากเชื้อโรคหรือเชื้อราที่มาจากความชื้นที่สะสมในอากาศ สนใจ เครื่องดูดความชื้น คลิก\{.button .newtab} {.centered} >## 3) ลดอาการระคายเคืองผิว >เช่นเดียวกับอาการภูมิแพ้ เครื่องดูดความชื้นจะช่วยลดสาเหตุของอาการผื่นคันหรือระคายเคืองตามผิวหนัง ที่อาจจะเกิดจากฝุ่น เชื้อโรค เชื้อแบคทีเรียที่ซ่อนอยู่อยู่ตามอากาศ หรือโซฟา เก้าอี้ เตียงนอน เมื่อผิวของเราสัมผัสทำให้เกิดอาการคันได้ ลมพิษ ผื่นขึ้น >ภาพ รอยผื่นคันระคายเคืองตามผิวหนังที่เกิดจากเชื้อโรคในอากาศและฟเอร์นิเจอร์ที่สัมผัส >## 4) ลดการเกิดเชื้อราและแบคทีเรียในบ้าน >ความชื้นทำให้เชื้อราและเชื้อแบคทีเรียเติบโตได้ดี ก่อให้เกิดคราบต่าง ๆ ในมุมอับของบ้าน หรืออาจเกิดเชื้อราในบริเวณที่มีความชื้นสะสม นอกจากนี้ ความชื้นสะสมและเชื้อรายังทำให้ของใช้ที่เก็บในตู้อย่างหนังสือ รองเท้า กระเป๋า เสียหายได้ด้วย เชื้อรา >ภาพ เชื้อราบนผนังขอบหน้าต่างที่มีความชื้นสะสม >## 5) ลดการเกิดสนิมที่ทำให้เกิดการกัดกร่อนได้ >ความชื้นและอากาศทำให้วัสดุประเภทเหล็กเกิดสนิม ไม่ว่าจะเป็น ชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างเช่น ก๊อกน้ำหรือฝักบัวในห้องน้ำมักเกิดสนิมของวัสดุ เพราะเป็นพื้นที่ที่มีความชื้น หรือแม้แต่ลูกบิด มือเปิด บานพับ รางลิ้นชักต่าง ๆ หากมีความชื้นในอากาศสะสมก็อาจทำให้ขึ้นสนิมได้ เครื่องดูดความชื้นจึงช่วยชะลอหนึ่งในปัจจัยที่เป็นสาเหตุของการสนิมเหล็กนั่นเอง สนิม ก๊อกน้ำ >ภาพ สนิมกัดกร่อนบนก๊อกน้ำและชิ้นส่วนต่าง ๆ ในบ้านเนื่องจากความชื้น >## 6) ผนัง/พื้น/เฟอร์นิเจอร์ไม้บวมหรือเสื่อมไว >เพราะมีที่มาของความชื้นจากหลายสาเหตุ เช่น เกิดจากการดูดซึมน้ำในดินผ่านพื้น-ผนังบ้านชั้นล่าง จึงมักเกิดความเสียหายกับเฟอร์นิเจอร์และสิ่งของที่วางกับพื้นหรือใกล้พื้นบ้านชั้นล่าง การระบายอากาศภายในบ้านไม่ดีพอ เกิดจากฝน ไหล รั่ว ซึมเข้าสู่บ้านผ่านรอยแยก รอยต่อต่าง ๆ ของบ้าน ขอบบัว พื้นปาเก้ >ภาพ บัวพื้นบวมเกิดจากความชื้นภายในบ้าน >## 7) ตากผ้าในบ้านแห้งเร็วขึ้น >แน่นอนว่าในวันที่ฝนตก หรือผู้ที่อาศัยอยู่ในคอนโดฯ ไม่มีพื้นที่เพียงพอ จนต้องตากผ้าในบ้านหรือคอนโด ทำให้เสื้อผ้าแห้งช้าและส่งกลิ่นเหม็นอับได้ เครื่องดูดความชื้นจะช่วยลดความชื้นในเสื้อผ้า จึงแห้งได้ไวขึ้น ตากผ้า ผ้าเหม็นอับ เสื้อผ้า >ภาพ เสื้อผ้าเหม็นอับเพราะตากผ้าไม่แห้ง สนใจ เครื่องดูดความชื้น คลิก\{.button .newtab} {.centered} >## 8) ยืดอายุขนมปังและอาหารแห้ง >เมื่อมีความชื้นมาก ไอน้ำในอากาศก็มากด้วยเช่นกัน ส่งผลให้อาหารแห้ง เช่น ขนมปังและซีเรียล เกิดความชื้น หรือเกิดกลิ่นเหม็นหืนได้ แต่หากมีเครื่องดูดความชื้นจะทำให้วัตถุดิบเหล่านั้นเก็บไว้ได้นานขึ้น อาหารแห้ง ขนมปัง >ภาพ เครื่องดูดความชื้นช่วยยืดอายุขนมปังและอาหารแห้งให้สดใหม่ >## 9) ช่วยให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ >ความชื้นสูงในห้องทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น ซึ่งนอกจากจะเปลืองไฟแล้วยังทำให้แอร์เสื่อมไวอีกด้วย ดังนั้น เครื่องดูดความชื้นถือเป็นตัวช่วยที่ดีกับแอร์ได้อย่างดีทีเดียว แอร์ไม่เย็น ล้างแอร์ >ภาพ แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ >## 10) ช่วยหายใจสะดวกสบายยิ่งขึ้น >ประโยชน์ที่ขาดไม่ได้ข้อสุดท้ายเลย คือ เมื่อบ้านมีการปรับสมดุลระดับความชื้นในอากาศที่พอดีจะทำให้เราหายใจสะดวกสบายยิ่งขึ้น ส่งผลดีต่อสุขภาพกาย ความชื้น หายใจไม่ออก >ภาพ เครื่องดูดความชื้นทำให้สภาวะอากาศมีความชื้นเหมาะสม จึงหายใจได้สบายมากขึ้น >จะเห็นว่าประโยชน์ของเครื่องดูดความชื้นมีหลายอย่าง ดังนั้น แม้ว่าบ้านจะชื้น หรือเหม็นอับขนาดไหน หากมี เครื่องดูดความชื้นไว้ช่วยลดความชื้นในบ้านก็จะทำให้บ้านของเราไม่เหม็นอับ ลดที่มาของเชื้อโรคและเชื้อรา ยืดอายุของอาหารแห้งรวมถึงของใช้ภายในบ้านต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังมีส่วนทำให้สุขภาพทุกคนในบ้านแข็งแรง ไม่เป็นภูมิแพ้อากาศ และเมื่อกายดีก็จะส่งผลต่อจิตใจของเราดีด้วยเช่นกัน สนใจ เครื่องดูดความชื้น คลิก\{.button .newtab} {.centered} >อ่านเพิ่มเติม: ปัญหาบ้านร้อนชื้นฤดูฝน ระบบ Active AIRflow™ System ช่วยได้หรือไม่
รีวิวประสบการณ์จริง จากปัญหาหลังคารั่วซึมเนื่องจากการมุงกระเบื้องไม่ถูกวิธี สู่บริการซ่อมหลังคารั่วโดยทีมช่าง SCG ที่วางใจได้ในเรื่องคุณภาพบริการ ซ่อมแซมได้ตรงจุด หมดปัญหารั่วซ้ำซาก >ปัญหาหลังคารั่วซึมจะแก้ให้หายขาดได้อย่างไร ? SCG HOME ขอถ่ายทอดด้วยรีวิวจากประสบการณ์จริง ของคุณกฤษณ์ ภักดีศรีศักดา หนึ่งในเจ้าของบ้านผู้รับบริการซ่อมหลังคารั่วจาก SCG Roof Renovation >คุณกฤษณ์เล่าย้อนถึงเหตุการณ์ในอดีตว่า ตอนที่สร้างบ้านได้เลือกใช้กระเบื้องหลังคาของ SCG คิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร แต่แล้วก็เกิดปัญหาหลังคารั่วซึมเมื่ออายุของบ้านย่างเข้าสู่ปีที่ 3 ปี “เราสังเกตเห็นว่าเวลาฝนตกจะมีน้ำรั่วลงมาจากฝ้าเพดานชั้น 2 ซึ่งตรงกับห้องนอนพอดี ยิ่งถ้าฝนตกตอนกลางคืนก็จะต้องตื่นมารองน้ำซับน้ำตลอด สร้างความลำบากในการใช้ชีวิตอย่างมาก” ซ่อมหลังคารั่ว scg แก้ปัญหาหลังคารั่ว >ภาพ: คุณกฤษณ์ ภักดีศรีศักดา เจ้าของบ้าน ผู้รีวิวประสบการณ์รับบริการซ่อมหลังคารั่วจาก SCG Roof Renovation ในครั้งนี้ >## ซ่อมหลังคารั่ว คิดถึง SCG >“ผมใช้กระเบื้องหลังคาของ SCG คิดว่าผู้ผลิตน่าจะรู้ดีที่สุด เลยติดต่อขอคำแนะนำโดยตรง ก็ได้ทราบว่ามีบริการซ่อมหลังคารั่วจาก SCG Roof Renovation ผมจึงเลือกใช้เพราะไม่อยากเสี่ยงกับช่างซ่อมหลังคาทั่วไป” ทาง SCG ได้ส่งทีมช่างเข้ามาประเมินสภาพหลังคาบ้านของคุณกฤษณ์ มีการสำรวจโดยใช้ภาพถ่ายทางโดรนทำให้เห็นหลังคาพร้อมจุดชำรุดครอบคลุมทั่วทั้งผืน สามารถอธิบายปัญหาหลังคารั่วซึมได้อย่างละเอียด โดยนำมาสรุปเป็นข้อมูลให้เจ้าของบ้านรับทราบพร้อมค่าใช้จ่ายทั้งหมด >“พอทีมงาน SCG เข้ามาสำรวจหน้างานให้ผม ก็พบว่าปัญหาหลังคารั่วซึมครั้งนี้เกิดจากการติดตั้งที่ไม่ถูกวิธี ทำให้เข้าใจเลยว่าหลังคาบ้านของเรานอกจากจะเลือกวัสดุที่ดีที่สุดแล้ว ความชำนาญของช่างก็มีส่วนสำคัญมากที่จะทำให้หลังคาอยู่ได้อย่างไร้ปัญหา” คุณกฤษณ์กล่าว สนใจ บริการปรับปรุงซ่อมแซมหลังคาบ้าน โดยผู้เชี่ยวชาญ คลิก\{.button .newtab} {.centered} >## บริการซ่อมหลังคารั่วจาก SCG สะดวก ปลอดภัย ไม่ต้องย้ายออก >การซ่อมหลังคารั่วครั้งนี้ เน้นแก้ไขบริเวณครอบหลังคาและครอบตะเข้สัน โดยรื้อกระเบื้องครอบของเดิมออกทั้งหมด มีการใช้ระบบครอบหลังคาแบบแห้ง (Drytech System) ซึ่งเป็นแผ่นใยสังเคราะห์อย่างดี ปิดทับรอยต่อที่กระเบื้องมาชนกันตลอดแนวสันหลังคา จากนั้นจึงนำกระเบื้องครอบชุดใหม่ติดตั้งทับลงไป (ช่วยป้องกันรั่วซึมได้ดีกว่าระบบครอบแบบเปียกที่ใช้ปูนและมีโอกาสแตกร้าวรั่วซึมได้หากติดตั้งผิดวิธี) หลังคารั่ว ซ่อมหลังคารั่ว scg อุดรอยรั่วหลังคา แก้ปัญหาหลังคารั่ว ครอบหลังคาแบบแห้ง ดรายเท็ค drytech system >ภาพ: ตัวอย่างชุดอุปกรณ์ของระบบครอบหลังคาแบบแห้ง (Drytech System) >คุณกฤษณ์เล่าว่า “ช่างก่อสร้างทั่วไปจะไม่มีการแจ้งแผนการทำงานให้เรารู้ ต้องคอยลุ้นเองว่าจะงานเสร็จเมื่อไหร่ เสี่ยงเรื่องการทิ้งงานและเข้างานไม่ตรงเวลาอีกด้วย บางทีก็กลัวว่าจะเกิดปัญหาเลยต้องลางานเข้ามาดูเอง ในขณะที่ทีมช่างของ SCG นั้น ก่อนเริ่มงานจะมีการส่งวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับเตรียมซ่อมหลังคา พร้อมแจ้งให้เจ้าของบ้านรับทราบถึงขั้นตอนและระยะเวลาทำงานอย่างละเอียด สามารถเห็นภาพรวมการซ่อมหลังคารั่วได้ชัดเจน” สายพานลำเลียงกระเบื้องหลังคา หลังคารั่ว ซ่อมหลังคารั่ว แก้ปัญหาหลังคารั่ว ซ่อมหลังคารั่ว scg >ภาพ: ระบบการทำงานซ่อมหลังคารั่วของ SCG ที่มีการลำเลียงกระเบื้องด้วยสายพานเพื่อความรวดเร็วและลดการแตกหัก (ซ้าย) ดำเนินงานโดยช่างผู้ชำนาญ (ขวาบน) และมีการสื่อสารกับเจ้าของบ้านอย่างชัดเจน (ขวาล่าง) >และอีกความพิเศษของบริการ SCG Roof Renovation คือทุกคนสามารถใช้ชีวิตอยู่ในบ้านได้ตามปกติ โดยช่างจะทำงานแต่ภายนอกบ้านเท่านั้น ไม่ได้มารบกวนพื้นที่ในบ้าน และไม่ต้องกังวลว่าจะมีฝุ่นผง สิ่งสกปรกอันตรายต่างๆ เข้ามาในบ้านแต่อย่างใด ในวันที่ทำการซ่อมหลังคา สมาชิกในบ้านคุณกฤษณ์ทั้งผู้สูงอายุและเด็กๆ ยังคงทำกิจวัตรประจำวันได้ หลังคารั่ว ซ่อมหลังคารั่ว อุดรอยรั่วหลังคา หลังคารั่วซึม หลังคาบ้านรั่ว แก้ปัญหาหลังคารั่ว ซ่อมหลังคารั่ว scg >ภาพ: มุมภาพจากโดรน แสดงการทำงานของช่างขณะดำเนินการซ่อมหลังคารั่ว ซึ่งระหว่างนั้น เจ้าของบ้านสามารถดำเนินกิจกรรมในบ้านได้ตามปกติ >นอกจากนี้คุณกฤษณ์ยังประทับใจเรื่องความใส่ใจและเข้าใจในความต้องการของเจ้าของบ้าน ตอนแรกกลัวจะซ่อมหลังคาเสร็จไม่ทัน เพราะเป็นหน้าฝนซึ่งต้องเสี่ยงกับพายุฝนและหลังคารั่วซึมหนักกว่าเดิม แต่ก็พบว่าทีมช่างได้เตรียมพร้อมอย่างดี เมื่อฝนตกจะนำผ้าใบและพลาสติกมาคลุมส่วนที่กำลังก่อสร้าง ป้องกันไม่ให้น้ำหยดเข้าตัวบ้าน คุณกฤษณ์เล่าถึงประสบการณ์ตรงนี้ว่า “การซ่อมหลังคารั่วช่วงหน้าฝน ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว ถ้าช่างของเราเตรียมพร้อมเสมอก็สามารถซ่อมได้ ไม่มีปัญหาอะไรครับ” สนใจ บริการปรับปรุงซ่อมแซมหลังคาบ้าน โดยผู้เชี่ยวชาญ คลิก\{.button .newtab} {.centered} >## ซ่อมหลังคารั่วฉบับ Safety First ปลอดภัย มั่นใจ >“ผมรู้สึกว่า SCG Roof Renovation ให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยอย่างมาก ทั้งสำหรับเจ้าของบ้าน สมาชิกในบ้าน เพื่อนบ้านใกล้เคียง รวมถึงตัวทีมช่างเองด้วย โดยช่างจะใส่อุปกรณ์ Safety ครบชุด ระหว่างที่ช่างทำงาน คุณแม่ และลูกๆ ก็สามารถใช้ชีวิตในบ้านได้ตามปกติ ไม่ต้องกังวลว่าจะได้รับอันตราย หลังจบงานแต่ละวันยังมีการทำความสะอาดให้อีกด้วย” คุณกฤษณ์กล่าว อุปกรณ์Safety ความปลอดภัย หลังคารั่ว ซ่อมหลังคารั่ว แก้ปัญหาหลังคารั่ว ซ่อมหลังคารั่ว scg >ภาพ: ขณะดำเนินการซ่อมหลังคารั่ว ทีมช่างจะใส่อุปกรณ์ Safety เพื่อความปลอดภัยอยู่เสมอ สนใจ บริการปรับปรุงซ่อมแซมหลังคาบ้าน โดยผู้เชี่ยวชาญ คลิก\{.button .newtab} {.centered} >## ซ่อมหลังคารั่วได้มาตรฐาน จบปัญหายาวนาน >“เห็นได้ชัดว่าบริการของ SCG Roof Renovation ต่างจากบริการติดตั้งปรับปรุงซ่อมแซมหลังคาทั่วไป เนื่องจากทีมช่างของ SCG ผ่านการอบรมตามมาตรฐานบริษัท มีประสบการณ์และทักษะการทำงานเป็นมืออาชีพสูง ซ่อมหลังคาได้อย่างละเอียดราบรื่น ใช้เวลาไม่นาน จึงมั่นใจได้ในคุณภาพการบริการ” >คุณกฤษณ์กล่าวต่อว่า “หากมีโอกาสแนะนำเพื่อนหรือใครก็ตามที่อยากซ่อมหลังคาบ้าน ก็อยากแนะนำให้ใช้บริการ SCG Roof Renovation เพราะทีมช่างดูแลบ้านเราดีมาก ทำงานเร็ว มีระบบขั้นตอนชัดเจน ปลอดภัย และเรียบร้อย เราเองก็อยู่บ้านในได้ไม่ต้องย้ายออก ไม่ต้องเสียเงินเสียเวลามาซ่อมหลังคารั่วทุกหน้าฝนอีกต่อไป” หลังคารั่ว ซ่อมหลังคารั่ว scg แก้ปัญหาหลังคารั่ว กระเบื้องเอ็กเซลล่า excella หลังคาเอ็กเซลล่า-กระเบื้องหลังคาเซรามิก กระเบื้องexcella >ภาพ: หลังคาบ้านของคุณกฤษณ์ ภักดีศรีศักดา หลังจากดำเนินการซ่อมหลังคารั่วเสร็จเรียบร้อย ดูสวยงามกลมกลืนตลอดทั้งผืนโดยไม่เห็นความต่างระหว่างกระเบื้องหลังคาของเดิมกับกระเบื้องครอบของใหม่ (ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบของกระเบื้องหลังคาเซรามิก) สนใจ บริการปรับปรุงซ่อมแซมหลังคาบ้าน โดยผู้เชี่ยวชาญ คลิก\{.button .newtab} {.centered}