งานรีโนเวตทาวน์เฮ้าส์ 2 ยูนิต อายุกว่า 30 ปี ดีไซน์เพื่อครอบครัวขนาดเล็กที่ต้องการพื้นที่พักอาศัยอยู่สบายไม่อึดอัดให้อารมณ์เหมือนอยู่บ้านเดี่ยว
.
ทาวน์เฮ้าส์ที่เห็นติดกัน 2 ยูนิตดูสบายๆ ดีไซน์ไม่หวือหวา แต่โดดเด่นแตกต่างจากหลังอื่นในโครงการจัดสรรเก่าฝั่งธนบุรีที่มีอายุกว่า 30 ปี ถูกออกแบบปรับปรุงได้อย่างตอบโจทย์ลงตัว เพราะเจ้าของบ้านเป็นผู้ออกแบบเอง สถาปนิกหนุ่มที่อยู่กับภรรยาและลูกวัยทารกพร้อมหมาน้อยอีก 1 ตัว ในบ้านที่มีพื้นที่ 220 ตร.ม. ประกอบด้วย 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก และห้องครัว
.
แนวคิดในการออกแบบปรับปรุง
เดิมทาวน์เฮ้าส์นี้เป็นของครอบครัวที่ปล่อยเช่ามาตลอด พอตัดสินใจว่าอยากปรับปรุงและอยู่อาศัยเองด้วยทำเลที่ใกล้บ้านพ่อแม่ใกล้ที่ทำงานจึงเข้ามาสำรวจสภาพอาคารดู ลักษณะเป็นบ้านโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก มีพื้นชั้นบนและหลังคาที่ใช้โครงสร้างไม้ สภาพแข็งแรงดีไม่ผุพังไม่มีปลวก แต่ด้วยความที่เป็นทาวน์เฮ้าส์มีช่องเปิดน้อยจึงทำให้รู้สึกอึดอัด แนวคิดหลักเลยจึงต้องการปรับปรุงให้อยู่สบาย โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่มืดทึบ มีพื้นที่การใช้งานเหมือนอยู่บ้านเดี่ยว
ภาพ: สภาพภายนอกอาคารทาวน์เฮ้าส์ติดกัน 2 ยูนิต
ภาพ: สภาพภายในอาคาร (ชั้นล่าง)
ภาพ: สภาพภายในอาคาร (ชั้นบน)
.
จากแนวคิดการออกแบบปรับปรุงพื้นที่ภายในให้รู้สึกสบายเหมือนอยู่บ้านเดี่ยว จึงเริ่มจากการกำหนดห้องหลักๆ ที่เป็นลักษณะ Fixed Function ไว้ด้านหนึ่ง ได้แก่ ห้องนอน ห้องน้ำ ส่วนอีกด้านหนึ่งให้เป็นพื้นที่ที่ปรับเปลี่ยนได้ (Flexible Space) เช่น พื้นที่พักผ่อน รับแขก ทานข้าว ทำงาน ฯลฯ แล้วจึงออกแบบพื้นที่ให้มีความโปร่ง แสงธรรมชาติเข้าถึงทำให้บ้านไม่มืด รวมไปถึงเรื่องของการถ่ายเทอากาศให้บ้านร้อนน้อยที่สุด
โดยด้านที่เป็นพื้นที่ที่ปรับเปลี่ยนได้ (Flexible Space) มีการรื้อพื้นชั้น 2 เพื่อทำเป็นโถงสูง (Double Volume) ฝ้าสูงแนบไปกับแนวเอียงของหลังคา แล้วมีชั้นลอยฝั่งหนึ่งเป็นที่นั่งเล่น และอีกฝั่งหนึ่งเป็นที่ทำงาน เจาะช่องหน้าต่างทั้งสองฝั่ง มีพัดลมขนาดใหญ่ห้อยลงมาที่กลางโถง เมื่อความร้อนลอยขึ้นสูง พัดลมจะช่วยระบายความร้อนออกสู่ภายนอกเร็วขึ้น
ภาพ: โถงสูง (Double Volume) ทำให้บ้านโปร่ง เจาะช่องเปิดหน้าหลัง ติดพัดลมขนาดใหญ่ ทำให้ระบายความร้อนได้ดี
ภาพ: โถงกลางบ้านที่มีชั้นลอยฝั่งหนึ่งเป็นที่นั่งเล่น และอีกฝั่งหนึ่งเป็นที่ทำงาน
.
หน้าบ้านเป็นทิศตะวันตกเฉียงใต้ ข้อดีคือเป็นทิศทางที่ลมพัดผ่านดี จึงเจาะช่องเปิดขนาดใหญ่หน้าบ้านหลังบ้านเพื่อรับลมช่วยในการถ่ายเทอากาศได้ดี แต่ก็มีข้อเสียคือแสงแดดจะสาดส่องเข้าบ้านในช่วงบ่ายจึงแก้ปัญหาด้วยการตีระแนงหน้าบ้าน ช่วยในการกรองแสงไม่ให้พื้นที่รับแสงแดดโดยตรงลดการสะสมความร้อนและแสงจ้าในบ้าน โดยแผงระแนงมีระยะห่างออกมาจากผนังบ้าน 80 ซม. เพื่อให้ลมพัดผ่านเข้ามาได้ การตีระแนงนอกจากกรองแสงแดดแล้ว ยังสร้างความเป็นส่วนตัวให้ผู้อยู่อาศัยภายในบ้านด้วย
ภาพ: แผงระแนงมีระยะห่างออกมาจากผนังบ้าน 80 ซม. เพื่อให้ลมพัดผ่านเข้ามาได้ และช่วยกรองแสงแดด
ภาพ: แผงระแนงช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับพื้นที่ภายในบ้านด้วย
.
การเจาะช่องเปิดจะเน้นเป็นหน้าต่างหรือประตูบานใหญ่ที่เปิดปิดได้ เพราะนอกจากแสงธรรมชาติที่เข้าถึงได้แล้ว ยังให้ลมเข้าถึงช่วยในการหมุนเวียนอากาศได้ดีด้วย ส่วนหน้าบ้านและหลังบ้านออกแบบให้เป็นพื้นที่โล่งไม่มีการต่อเติมห้องหรือหลังคา เพื่อให้รู้สึกโปร่งกว้าง มองจากภายในบ้านออกไปแล้วสบายตาไม่อึดอัด
ภาพ: การเจาะช่องเปิดจะเน้นเป็นหน้าต่างหรือประตูบานใหญ่ที่เปิดปิดได้ ช่วยรับแสงและลมจากภายนอก
ภาพ: หัองครัวกว้างขวางและเจาะช่องหน้าต่างเปิดโล่งระบายอากาศ
ภาพ: หน้าบ้านเปิดโล่งเพิ่มพื้นที่สีเขียวดูสบายตา
.
การเลือกใช้วัสดุและการตกแต่ง
ด้วยความที่ผู้ออกแบบเป็นผู้อยู่อาศัยเองการเลือกใช้วัสดุจึงเน้นการช่วยป้องกันความร้อนและการทดลองใช้วัสดุต่างๆ ตามความชอบส่วนตัวมากกว่าความนิยม อย่างหลังคาบ้านยังคงเป็นแบบเดิมคือด้านหน้าเป็นกระเบื้องหลังคาคอนกรีตและด้านหลังเป็นหลังคาลอนคู่ มีบางช่วงบางตอนที่สลับเป็นแผ่นโปร่งแสงเพื่อให้แสงธรรมชาติส่องลงภายในห้องน้ำได้ ใต้หลังคาลงมาใส่ฉนวนกันความร้อน STAY COOL ซึ่งวางอยู่บนฝ้าเพดานได้เลย ติดตั้งง่ายและช่วยป้องกันความร้อนได้ดี ถึงฝ้าจะตีเอียงแนบไปกับแนวหลังคาแต่ก็ไม่รู้สึกร้อนอบอ้าว
ผนังด้านที่ติดกับเพื่อนบ้านออกแบบเป็นผนัง 2 ชั้นเพื่อป้องกันเสียงรบกวนจากบ้านติดกัน โดยเป็นผนังโครงเบาติดตั้งแผ่นผนังสมาร์ทบอร์ดและสอดฉนวนกันเสียง Zoundblockฉนวนกันเสียง Zoundblock ในช่องผนังทำให้บ้านเงียบขึ้น ผนังบ้านทั้งภายนอกและภายในเลือกใช้สีพ่น Texture เพราะให้พื้นผิวขรุขระเหมือนเม็ดทราย ให้ความรู้สึกผ่อนคลายลดทอนความแข็งเหมือนอยู่บ้านพักตากอากาศ (Resort) เจ้าของบ้านเลือกใช้วิธีนี้เพราะนอกจากความสวยงามแล้ว ยังแข็งแรงทนทานไม่ต้องบำรุงรักษาบ่อยเหมือนการทาสี แต่ก็ต้องอาศัยช่างที่มีประสบการณ์ในการทำให้
พื้นที่ชั้นลอยและทางเดินต่างๆ เลือกใช้พื้นอีพ็อกซี่ (Epoxy) เดินนุ่มเท้าคล้ายกระเบื้องยางแต่ไร้รอยต่อ ส่วนพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอนใช้พื้นไม้จริงที่ได้จากพื้นเดิมและไม้ใหม่เพิ่มเติมทำสีธรรมชาติโชว์ลายไม้ให้ความรู้สึกอบอุ่น
ภาพ: หลังคาบ้านยังคงเป็นแบบเดิมคือด้านหน้าเป็นกระเบื้องหลังคาคอนกรีต
ภาพ: เลือกใช้หลังคาแผ่นโปร่งแสงในตำแหน่งห้องน้ำเพื่อให้แสงธรรมชาติส่องลงภายในได้
ภาพ: ผนังทั้งภายนอกและภายในใช้สีพ่น Texture ให้พื้นผิวขรุขระเหมือนเม็ดทราย
ภาพ: ชั้นลอยเป็นพื้นอีพ็อกซี่ (Epoxy) เดินนุ่มเท้าคล้ายกระเบื้องยางแต่ไร้รอยต่อ
ภาพ: พื้นที่นั่งเล่นใช้พื้นไม้จริงทำสีธรรมชาติโชว์ลายไม้
.
.
.
.
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วจะเห็นว่าลักษณะการออกแบบปรับปรุงบ้านหลังนี้เป็นแบบ Form Follows Function คือเริ่มจากฟังก์ชันการใช้งานที่ต้องการก่อน แล้วจึงแก้ปัญหาลักษณะของบ้านทาวน์เฮ้าส์ที่ค่อนข้างมืดแสงเข้าไม่ถึง พื้นที่ใช้สอยคับแคบ ให้อยู่สบายขึ้นให้อารมณ์เหมือนอยู่บ้านเดี่ยว แล้วดีไซน์รูปร่างหน้าตาจึงตามมา
.
ขอขอบคุณ
เจ้าของโครงการ
สถาปนิก: Cotemporary .co., ltd | คุณอิทธิฤทธิ์ หทัยรัตนา
ภาพถ่าย: Kukkong Thirathomrongkiat
Design Connext คอมมูนิตี้แหล่งรวมสถาปนิก/นักออกแบบ ที่ช่วยเชื่อมต่อทุกองศาของงานออกแบบ
.
.
อ่านเพิ่มเติม: รีโนเวตบ้านเก่า 50 ปี ให้เป็นบ้านสไตล์โคโลเนียล
อ่านเพิ่มเติม: บ้านสวนอบอุ่น ส่วนตัว ท่ามกลางสวนมะพร้าว