ในงานก่อฉาบผนัง หรือแม้แต่งานเทหล่อส่วนประกอบตกแต่งหรือโครงสร้างเล็กๆ ซึ่งไม่ต้องรับน้ำหนักมากนัก วัสดุที่จะต้องพูดถึงคงหนีไม่พื้น “ปูนซีเมนต์ผสมสำหรับงานก่อ ฉาบ เท” ซึ่งมีคุณสมบัติเหนียวลื่น ยึดเกาะเนื้ออิฐและผนังได้ดี แห้งตัวพอเหมาะ ไม่ยืดหรือหดตัวมาก ช่วยลดการแตกร้าวที่ผิวผนังได้ เหมาะสำหรับงานก่ออิฐ ฉาบปูน เทปรับระดับพื้นก่อนติดตั้งวัสดุปิดผิว งานเทคอนกรีตโครงสร้างขนาดเล็ก (เช่น ตอม่อ เสา คาน พื้น ของบ้านชั้นเดียว พื้นลานหน้าบ้าน เป็นต้น) รวมถึงงานปูนปั้น เช่น งานปั้นบัว อ่างซีเมนต์ เป็นต้น
ภาพ: ตัวอย่างปูนซีเมนต์ผสม สำหรับงานก่อ ฉาบ เท
ในขั้นตอนการทำงาน ช่างจะใช้ปูนซีเมนต์ผสมสำหรับงานก่อ ฉาบ เท มาผสมกับทรายและน้ำในอัตราส่วนที่เหมาะสมกับการใช้งานแต่ละแบบ ยกตัวอย่างเช่น
คุณสมบัติอเนกประสงค์ สามารถใช้งานได้หลากหลายในงานก่อสร้างทั่วไป ปูนชนิดนี้ใช้ได้ทั้งงานก่ออิฐ งานฉาบผนัง และงานเทพื้นโครงสร้างขนาดเล็ก ขนาดบรรจุ 40 กิโลกรัม/ถุง เมื่อผสมทรายและน้ำแล้ว สามารถใช้ได้เทียบเท่าปูนขนาด 50 กิโลกรัม
ปูนซีเมนต์ผสมจัดอยู่ในประเภท “ปูนทั่วไป” (ปูนก่อ ฉาบ เท ทั่วไป) ต้องนำไปผสมกับทรายและน้ำในสัดส่วนที่เหมาะสมก่อนใช้งาน เป็นปูนอเนกประสงค์ที่มีคุณสมบัติ เหนียวลื่น ยึดเกาะอิฐและผนังได้ดี และมีการแห้งตัวที่พอเหมาะ ช่วยลดการแตกร้าวที่ผิวผนัง
ปูนเสือ ซีเมนต์ ฉาบสูตรพิเศษ เป็นปูนซีเมนต์ผสมที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่องานฉาบโดยเฉพาะ ใช้สำหรับฉาบผนังอิฐมอญและอิฐบล็อก โดยมีคุณสมบัติเด่นคือช่วยให้ผนังที่ได้เรียบเนียนสวยงาม ไม่แตกร้าว ที่สำคัญคือไม่ต้องใส่น้ำยาช่วยฉาบเพิ่มเติม
สำหรับงานเทพื้น จะต้องมีหินเป็นส่วนผสมอยู่ด้วย ทั้งนี้ อัตราส่วนผสมต่างๆ ขึ้นอยู่กับปูนซีเมนต์ของผู้ผลิตแต่ละรายและคุณภาพของทราย นอกจากนี้ปริมาณการผสมน้ำยังต้องสัมพันธ์กับความชื้นของทรายด้วย ปัจจัยทั้งหมดล้วนมีผลต่อคุณภาพงานก่อสร้าง ดังนั้น การใช้ปูนซีเมนต์ผสมสำหรับงานก่อ ฉาบ เท จึงต้องควบคุมส่วนผสมให้ได้มาตรฐาน ทั้งสัดส่วนและคุณภาพของสิ่งที่นำมาผสม เม็ดทรายต้องมีขนาดเหมาะสม ไม่ผุกร่อน สะอาด ไม่มีวัชพืช สารอินทรีย์ (เมล็ดพืช ซากพืช ซากสัตว์) หรือสารเคมีเจือปน ไม่มีสภาพเป็นกรด ด่าง หรือเกลือปนอยู่ และน้ำที่นำมาผสมต้องสะอาด
ภาพ: การผสมปูน (ซ้ายบน) การก่อผนังอิฐ (ซ้ายล่าง) และการฉาบผนัง (ขวา)
อย่างไรก็ตาม ในวงการก่อสร้างเรามีตัวช่วยที่ทำให้สะดวกขึ้น นั่นคือ “ปูนมอร์ตาร์สำเร็จรูป” หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “ปูนสำเร็จรูป” เป็นปูนซีเมนต์ ที่ผสมหินบดละเอียดและสารพิเศษไว้เรียบร้อยแล้ว สัดส่วนการผสมและคุณภาพของวัตถุดิบถูกควบคุมให้มีความสม่ำเสมอ เมื่อนำมากับผสมน้ำตามสัดส่วนที่เหมาะสมแล้วกวนให้เข้ากัน สามารถใช้งานได้ทันที ไม่ต้องผสมทรายหรือสารเคมีเพิ่มเติม ปูนสำเร็จรูปแต่ละแบบจะถูกแยกประเภทตามการใช้งานโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น งานก่อทั่วไป งานฉาบทั่วไป งานฉาบละเอียด งานเทปรับพื้น งานซ่อมอเนกประสงค์ เป็นต้น ปูนแต่ละถุงจึงใช้ได้เฉพาะสำหรับงานนั้นๆ อย่างปูนสำเร็จรูปสำหรับงานก่อทั่วไป จะใช้สำหรับงานก่อผนังอย่างเดียว ไม่สามารถนำมาฉาบผนังได้ เป็นต้น (ยกเว้นปูนสำเร็จรูปบางรุ่นที่บนถุงจะระบุการใช้งานมากกว่า 1 ประเภท)
ภาพ: ตัวอย่างปูนสำเร็จรูปสำหรับงานประเภทต่างๆ
ภาพ: ตัวอย่างปูนสำเร็จรูปที่ใช้งานได้มากกว่า 1 ประเภท คือสามารถใช้ได้ทั้งงานก่อและเท
สรุปว่า “ปูนซีเมนต์ผสมสำหรับงานก่อ ฉาบ เท” และ “ปูนสำเร็จรูป” นั้นใช้สำหรับงาน ก่อฉาบผนัง และเทหล่อ แบบเดียวกัน ต่างตรงที่ปูนซีเมนต์ผสมสำหรับงานก่อ ฉาบ เท เป็นวัตถุดิบที่สามารถนำมาผสมเพื่อการใช้งานได้หลากหลาย เพียงแต่ต้องความชำนาญของช่างในเรื่องการควบคุมมาตรฐานของส่วนผสม ส่วนปูนมอร์ตาร์สำเร็จรูป จะสะดวกกว่า คือสามารถผสมน้ำแล้วใช้ได้เลย ช่วยลดขั้นตอนการทำงานของช่าง ทำให้ทำงานได้ง่ายขึ้น ลดปัญหาปูนทรายไม่ได้มาตรฐานทั้งเรื่องอัตราส่วนและคุณภาพของทรายที่นำมาผสม อย่างไรก็ตามในการสั่งซื้อปูนสำเร็จรูปมาใช้ จะต้องกะปริมาณให้ดี เพราะปูนจะใช้ได้เฉพาะประเภทงานตามที่ระบุบนถุงเท่านั้น หากขาดหรือเกินจะนำมาใช้งานข้ามประเภทกันไม่ได้
ในการเลือกใช้ อาจพิจารณาตามปัจจัยและรายละเอียดของงานก่อสร้าง หากเป็นงานเฉพาะเจาะจง เช่น งานผนังอิฐมวลเบา แนะนำให้ใช้ปูนสำเร็จรูปสำหรับก่อและฉาบอิฐมวลเบาโดยเฉพาะ เนื่องจากอิฐมวลเบามีการยืดหดตัวที่แตกต่างจากอิฐมอญ เป็นต้น แต่ถ้าเป็นการก่อ ฉาบ หรือเททั่วไป สามารถเลือกตามความถนัด ความชำนาญ และประสบการณ์ของช่างหรือผู้รับเหมาแต่ละราย ซึ่งอาจเหมาะสมแตกต่างกันตามลักษณะการทำงาน
ภาพ: ปูนสำเร็จรูปสำหรับการก่อ ฉาบผนังอิฐมวลเบา
ภาพ: ตัวอย่างเปรียบเทียบปริมาณการใช้ปูนซีเมนต์ก่อ ฉาบ เท ทั่วไป กับปูนสำเร็จรูปในงานต่างๆ
ขอขอบคุณแหล่งที่มาอ้างอิง: ปูนซีเมนต์และการประยุกต์ใช้งาน (Cement and Applications), เครือซิเมนต์ไทย, บริษัทปูนซิเมนต์ไทยอุสาหกรรม จำกัด, 2548