การซักผ้าจะน่าเบื่อน้อยลง ถ้าใส่ใจห้องซักรีดหรือห้องซักล้างเพิ่มอีกนิด ขอเชิญมาเช็กลิสต์ว่าห้องซักรีดของคุณได้คำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้แล้วหรือยัง
ส่วนซักรีดหรือซักล้าง ถือเป็นฟังก์ชันใช้สอยสำคัญที่จะขาดไปไม่ได้ในที่พักอาศัย แต่กลับไม่ค่อยได้รับความใส่ใจเท่าไรนัก เพราะถูกจัดเป็นส่วนเซอร์วิสหลังบ้านที่ไม่ค่อยได้อวดใครเขา ทั้งที่จริงแล้วพื้นที่ส่วนนี้มีความสัมพันธ์กับผู้อยู่อาศัยมาก และต้องใช้งานเป็นประจำเกือบทุกวัน ขอเพียงรู้วิธีการจัดพื้นที่ให้เหมาะสม แม้แต่ลูกเมียน้อยอย่างห้องซักรีดก็กลายเป็นเพื่อนนางเอกได้
ภาพ: ห้องซักรีดก็อยู่ชั้นบนได้
ภาพ: ส่วนซักรีดชั้นบนมักอยู่ติดกับระเบียง
สนใจ “บริการต่อเติมและตกแต่งห้องซักล้าง โดย HomeSmile” คลิก
1. ตำแหน่งที่ตั้ง
- ชั้นล่าง ตามความนิยมดั้งเดิม เพราะสะดวกต่อการทำงานในส่วนเปียก บางครอบครัวอาจเอาพื้นที่ซักล้างออกมาอยู่นอกตัวเรือนเลย สามารถจัดการระบบน้ำดีและน้ำทิ้งได้ง่าย แต่อาจส่งผลต่อความสวยงามเมื่อแขกมาบ้าน หากไม่มีการจัดสรรพื้นที่ให้หลบมุมมองสายตา
- ชั้นบนหรือดาดฟ้า ปัจจุบันมีดีไซเนอร์จำนวนมากที่ออกแบบให้พื้นที่ส่วนนี้อยู่ชั้นบน โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องอยู่ชิดหรือใกล้ระเบียงที่สามารถตากผ้าได้ ซึ่งหมายความรวมถึงดาดฟ้าด้วย เพราะบางบ้านอาจไม่มีพื้นที่ชั้นล่างเพียงพอ นอกจากนี้ยังช่วยลดระยะทางในการขนผ้าขึ้นลงบันได เพราะห้องแต่งตัวหรือห้องนอนมักจะอยู่ชั้นบน ส่วนมากมักวางผังไว้ใกล้ห้องน้ำ เพราะสะดวกต่อการจัดการงานระบบ
ภาพ: (บน) ตัวอย่างการแยกส่วนเปียกและส่วนแห้ง (ล่าง) เครื่องซักผ้าในส่วนแห้ง
2. พื้นที่ส่วนเปียก
-ส่วนซักมือ พื้นและผนังควรเลือกวัสดุทนน้ำ เช่นกระเบื้อง เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานและทำความสะอาด สมัยก่อนนิยมใช้เฉลียงนอกบ้านทดแทนพื้นที่ซักล้าง หากเป็นคอนโดมิเนียมหรืออพาร์ตเมนต์อาจรวมอยู่กับห้องน้ำและระเบียง ในกรณีของบ้านที่มีการออกแบบห้องซักล้างมาโดยเฉพาะ พื้นที่ส่วนเปียกอาจรวมอยู่ในห้องเลย โดยมีการแบ่งสัดส่วนด้วยวัสดุ การลดระดับพื้น หรือการก่อธรณีกันน้ำไหล
-ส่วนตากผ้า ควรอยู่ในพื้นที่ที่แสงแดดส่องถึง อาจเป็นภายนอกบ้าน ระเบียง หรือดาดฟ้า
ภาพ: (ซ้าย) อ่างอเนกประสงค์แบบฝังเคาน์เตอร์ (ขวา) ตัวอย่างการจัดพื้นที่ส่วนแห้ง
สนใจ “บริการต่อเติมและตกแต่งห้องซักล้าง โดย HomeSmile” คลิก
3. พื้นที่ส่วนแห้ง
-ส่วนเตรียมซักล้าง เสื้อผ้าที่ใส่แล้วจะถูกพักไว้ส่วนนี้ชั่วคราว ก่อนนำเข้าเครื่องซักผ้า อาจแยกเป็นตะกร้าผ้าอย่างน้อย 2 ใบ สำหรับแยกประเภทซัก เช่นผ้าสีและผ้าขาว เสื้อผ้าปกติและชุดชั้นใน เป็นต้น ควรเตรียมตะขอแขวนหรือพื้นที่จัดเก็บถุงซักผ้าด้วย
-ส่วนซักและอบผ้า สำหรับวางเครื่องซักผ้าและอบผ้า ต้องมีการเตรียมงานระบบไฟและท่อน้ำด้านหลัง รวมถึงตู้หรือชั้นวางน้ำยาซักผ้ากับอุปกรณ์จิปาถะต่าง ๆ ในกรณีที่ห้องซักล้างมีขนาดเล็กเกินกว่าจะแบ่งส่วนแห้งและส่วนเปียก สามารถเพิ่มอ่างอเนกประสงค์แบบฝังเคาน์เตอร์สำหรับซักมือในส่วนนี้ได้
-ส่วนรีดผ้าและเตรียมจัดเก็บ ผ้าแห้งจากราวตากจะนำมาไว้ส่วนนี้ก่อน เพื่อรอรีดผ้าและจัดเก็บต่อไป ควรเตรียมพื้นที่เผื่อการพับรีดไว้ด้วย ยกเว้นบางบ้านที่อาจแยกส่วนรีดผ้าไปไว้ในห้องแต่งตัวแทน
ภาพ: การจัดวางเครื่องซักผ้า/อบผ้าแบบฝาหน้า ตู้เก็บของบิลต์อิน ตระกร้าผ้า และอ่างอเนกประสงค์
ภาพ: เครื่องซักผ้า/อบผ้า แบบฝาบนและฝาหน้า
ภาพ: (ซ้าย) ช่องเก็บตะกร้าผ้า (ขวา) ที่แขวนบอร์ดเตารีด
สนใจ “บริการต่อเติมและตกแต่งห้องซักล้าง โดย HomeSmile” คลิก
4. รายการเครื่องใช้ไฟฟ้าและเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ
- เครื่องซักผ้าและอบผ้า การเลือกเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้ามีส่วนสำคัญกับการจัดวาง ถ้าห้องซักรีดมีขนาดเล็ก เช่นในคอนโดมิเนียมที่อาจต้องแชร์พื้นที่ซักรีดกับส่วนครัว ก็แนะนำให้ใช้เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้ามากกว่าฝาเปิดบน เพราะสามารถวางใต้เคาน์เตอร์ได้ อีกทั้งเครื่องซักผ้าบางรุ่นก็มีฟังก์ชันอบผ้ามาในตัว ทำให้ประหยัดพื้นที่ได้มากขึ้น แต่ถ้าบ้านใครมีพื้นที่มากหน่อย ก็สามารถเลือกใช้ได้หลากหลายกว่า เพราะเครื่องซักผ้าแบบฝาบนมีราคาถูกกว่าแบบฝาหน้านั่นเอง
ในกรณีทำเฟอร์นิเจอร์บิลต์อิน (Built-in) เพื่อวางเครื่องซักผ้า ก็อย่าลืมเผื่อระยะระหว่างตัวเครื่องทั้งด้านข้างและด้านหลัง ด้านละประมาณ 5-10 ซม. ขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อ สำหรับระบายความร้อนและแรงสั่นสะเทือน หากต้องการเสริมฐานล้อเลื่อนใต้เครื่องซักผ้าเพื่อความสะดวกในการบำรุงรักษา ต้องคำนึงถึงความสูงที่เพิ่มขึ้นมาราว 10-15 ซม. อาจทำให้ไม่สามารถวางใต้เคาน์เตอร์ปกติได้
- ตะกร้าผ้า ควรมีตะกร้าใส่ผ้าที่ใช้แล้วอย่างน้อย 2 ใบ เพื่อแบ่งประเภทผ้าแยกซักเป็นสัดส่วน และตะกร้าใส่ผ้าสะอาดอย่างน้อย 1 ใบ เพื่อจัดเก็บผ้าแห้งจากราวตากหรือผ้าที่พับแล้วก่อนนำไปเก็บในตู้เสื้อผ้า ตัวตะกร้ามีหลากหลายวัสดุให้เลือกสรร ทั้งแบบผ้า หวายสาน และพลาสติก เป็นต้น
- ชั้นวางหรือตู้เก็บอุปกรณ์ สำหรับเก็บของใช้จำพวกน้ำยาซักผ้าและเครื่องมือทำความสะอาดต่าง ๆ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ถ้าไม่สะดวกทำตู้บิลต์อิน ก็สามารถเลือกใช้ชั้นวางลอยตัวแทน
- อ่างอเนกประสงค์ สำหรับซักมือ ในกรณีที่ห้องซักล้างมีพื้นที่เพียงพออาจแยกเป็นส่วนเปียกโดยเฉพาะ แต่ถ้าห้องซักล้างมีขนาดเล็ก ก็สามารถฝังเคาน์เตอร์ในลักษณะเดียวกับอ่างล้างมือได้ แต่ตัวอ่างจะมีขนาดใหญ่กว่า
- ราวตากผ้า มีทั้งแบบไม้ เหล็กทำสี อลูมิเนียม และสเตนเลส ที่นิยมที่สุดคือ 2 แบบหลัง เพราะประหยัดพื้นที่และทนต่อสนิมมากกว่า
- เตารีด มีทั้งแบบบอร์ดรีดผ้าและแบบเตารีดไอน้ำ ถ้าเป็นแบบบอร์ดอาจแขวนเก็บข้างผนังได้เลย
- ราวแขวนผ้าแห้ง/ผ้าที่รีดแล้ว สำหรับแขวนผ้าชั่วคราวก่อนย้ายเข้าตู้เสื้อผ้า ถ้ามีพื้นที่น้อยอาจใช้บิลต์อินหรือรุ่นติดผนัง
ทั้งนี้ในแต่ละบ้านอาจมีรูปแบบการใช้ห้องซักรีดหรือห้องซักล้างไม่เหมือนกัน ความสวยงามก็ถือเป็นรสนิยมส่วนบุคคล ใครนิยมแบบไหนก็นำไปประยุกต์ใช้กันได้เลย แต่อย่าลืมพิจารณาให้เข้ากับวิถีชีวิตจริงด้วย เพราะสวยอย่างไรก็ไม่เท่าอยู่ทน