เพราะจินตนาการสำคัญกว่าความรู้ การส่งเสริมให้เด็กๆ ได้พัฒนาทักษะและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จึงเป็นสิ่งที่ควรใส่ใจ “บ้าน” จึงควรมีพื้นที่ให้เด็กๆ ได้แสดงฝีมือและสร้างสรรค์ผลงานต่างๆ เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการ การเรียนรู้ ฝึกสมาธิ รวมถึงเพื่อให้เด็กๆ มีสุขภาพจิตที่ดี
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “บ้าน” เปรียบเสมือนห้องแห่งการเรียนรู้แห่งแรกของเราทุกคน โดยเฉพาะเด็กๆ ก่อนที่เค้าจะเข้าโรงเรียนไปเจอสังคมใหม่ๆ บ้านเป็นสถานที่ที่เจ้าหนูตัวน้อยสามารถเรียนรู้ ฝึกฝน และพัฒนาทักษะต่างๆ ในช่วงแรกของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการมอง ฟังเสียง หยิบจับสิ่งของ จนพัฒนาเป็นการพูด โต้ตอบ สื่อสาร ก้าวเดิน วาดเขียน ฯลฯ ตามแต่ละช่วงวัย การเตรียมพื้นที่ให้เหมาะสมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้สร้างเสริมพัฒนาการให้เด็กๆ จึงสำคัญควบคู่ไปกับการเจริญเติบโตทางร่างกาย เพื่อให้เด็กๆ รู้สึกสนุก สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ โดยต้องไม่ลืมคำนึงเรื่องความปลอดภัยด้วย พื้นที่เหล่านี้อาจไม่จำเป็นต้องเป็นห้องทั้งห้อง คุณพ่อคุณแม่สามารถจัดสรรแบ่งพื้นที่ในบ้านบางส่วนเพื่อเตรียมพื้นที่ให้เด็กๆ ได้ ซึ่งองค์ประกอบสำคัญของห้องที่จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการแห่งการเรียนรู้ ควรมีดังนี้
สนใจบริการออกแบบตกแต่งภายในพร้อมบริการติดตั้ง by dooDeco คลิก
1. แสงสว่างเพียงพอ อากาศถ่ายเทดี
ภาพ: ห้องสำหรับเด็กที่มีแสงธรรมชาติพอเหมาะ
ห้องที่ดีต้องมีแสงจากธรรมชาติ หรือแสงประดิษฐ์ (แสงจากหลอดไฟ) ที่เพียงพอสำหรับเด็กๆ เวลาทำกิจกรรมต่างๆ เช่น วาดเขียน ระบายสี ต่อตัวต่อไม้ หรืออ่านหนังสือนิทานเสริมพัฒนาการ เพื่อให้สายตาไม่ทำงานหนักเกินไปและเพื่อให้เด็กๆ สามารถแยกแยะสีได้ดีขึ่น นอกจากนี้การถ่ายเทอากาศที่ดีก็สำคัญเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยไม่รู้สึกอึกอัดแล้ว ยังช่วยระบายกลิ่นไม่พึงประสงค์ด้วย
2. แต่งผนังห้องสีสันสดใส
ภาพ: แต่งห้องเด็กด้วยสีสันสดใสในธีมสีเขียว-ส้ม
ภาพ: แต่งห้องเด็กด้วยสีโทนเย็น เรียบง่าย สบายตาไปอีกแบบ
ทาสีผนังด้วยสีโทนสดใสหรือสีโทนอ่อน หรือ เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์สีสดใส เพื่อช่วยกระตุ้นความสนใจของเด็กๆ ทำให้ห้องดูมีชีวิตชีวา สนุก ไม่น่าเบื่อ
3. วัสดุพื้นปลอดภัย ทนทาน เรียบ นุ่ม
ภาพ: พื้นไร้รอยต่อ ปูพื้นพรมนุ่ม ๆ ให้เจ้าตัวเล็กนั่งเล่น
ภาพ: ปูพื้นแผ่นโฟมนุ่มๆทับพื้นเดิม ป้องกันเด็ก ๆ หกล้ม
สามารถเลือกใช้ได้หลากหลายวัสดุ เช่น พื้นกระเบื้องเซรามิก พื้นกระเบื้องยาง พื้นหินขัด พื้นไม้ลามิเนต หรืออื่นๆ ที่มีรอยต่อน้อย เรียบเนียน ทนทาน นอกจากนี้สามารถวางพรม หรือพื้นโฟมนิ่มในบางส่วนของห้องสำหรับการนั่งทำกิจกรรมต่างๆ ของเด็กๆ เพื่อป้องกันความเย็นจากผิวพื้น และด้วยผิวสัมผัสที่นุ่ม ยังช่วยป้องกันการล้มกระแทกได้อย่างดี ที่สำคัญควรหมั่นทำความสะอาดพื้นและพรมให้สะอาดอยู่เสมอ
4. จัดเก็บของเป็นสัดส่วน
ภาพ: เตรียมชั้นและกล่องใส่ของอย่างเป็นสัดส่วน สะดวกต่อการหยิบใช้และจัดเก็บ
ภาพ: จัดวางเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เข้ามุมห้องอย่างเป็นระเบียบเพื่อให้มีพื้นที่กลางห้องสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ
เพื่อการหยิบจับและสามารถทำความสะอาดง่าย อาจเลือกใช้เป็นกล่องพลาสติกใสที่สามารถมองเห็นของภายใน หรือใส่ตระกร้าเก็บของเป็นหมวดหมู่ ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า (ถ้ามี) เช่น พัดลม ทีวี เครื่องดนตรีไฟฟ้า ฯลฯ ควรจัดวางให้ห่างจากมือเด็ก และควรมีที่อุดรูปลั๊กไฟป้องกันเด็กเล็กนำของเล่นหรือนิ้วไปแหย่ได้
5. บอร์ด/ผนังติดโชว์ผลงาน หรือกระดานวาดเขียน
ภาพ: กระดานบอร์ดวาดเขียนตามจินตนาการ
ภาพ: กำแพงวาดเขียนได้อย่างอิสระ
ภาพ: ใช้ผนังห้องเป็นพื้นที่ติดภาพผลงานศิลปะของเด็ก ๆ
เหมาะสำหรับเด็กทุกวัยเพื่อช่วยเสริมสร้างจินตนาการการวาดเขียน เพราะเด็กในวัยนี้เป็นวัยช่างทดลอง ช่างคิด มีจินตนาการ การได้ขีดเขียนลงบนพื้นที่ขนาดใหญ่ทำให้เด็กๆ รู้สึกสนุกขึ้น และยังเป็นการกำหนดพื้นที่การใช้งานให้เด็กเรียนรู้ว่าตรงไหนเขียนได้ หรือตรงไหนเขียนไม่ได้ นอกจากนี้เด็กๆ ยังสามารถนำภาพวาด ตัวอักษร ของเล่นต่างๆ มาแปะ หรือยึดบนบอร์ดหรือกำแพงได้ด้วย
6. มุมปลูกต้นไม้ขนาดเล็ก
ภาพ: มุมปลูกต้นไม้บริเวณหน้าต่างในห้องเด็ก
การนำต้นไม้มาตั้งนอกจากจะทำให้ห้องดูสบายตาแล้ว ยังสามารถช่วยเสริมให้เด็กๆ ได้มีกิจวัตรประจำวันเป็นการรดน้ำดูแลต้นไม้ ทั้งนี้ต้นไม้ที่นำมาปลูกอาจเป็นสวนขวดขนาดเล็ก หรือต้นไม้จริงที่เลี้ยงง่าย ปลอดภัย ช่วยกรองอากาศในห้องได้ เช่น พลูด่าง (Pothos) ลิ้นมังกร เป็ปเปอร์โรเมีย (Peperomia) เดหลี (Peace Lily) บอสตันเฟิน (Boston Fern) เศรษฐีเรือนใน (Spider Plant) แก้วกาญจนา เป็นต้น
7. โต๊ะ-เก้าอี้นั่ง
ภาพ: เลือกโต๊ะเก้าอี้ที่ขนาดพอเหมาะกับวัยของเด็ก
ควรมีสำหรับเด็กๆ ไว้ใช้นั่งอ่านเขียน วาดรูป ต่อตัวต่อ ฯลฯ เพื่อให้เด็กๆ มีสมาธิสามารถจดจ่อกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้ดี และนั่งได้ถูกท่า โดยควรเลือกขนาดโต๊ะ เก้าอี้ที่มีขนาดและความสูงพอเหมาะกับเด็กแต่ละวัย ทำจากวัสดุที่แข็งแรง และลบเหลี่ยมมุมมาเรียบร้อย
หวังว่าคุณพ่อคุณแม่ที่อ่านมาถึงตรงนี้ จะได้รับไอเดียการแต่งห้องให้ลูกเพิ่มเติมไม่มากก็น้อย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วสามารถปรับเปลี่ยนข้าวของเครื่องใช้และวัสดุตกแต่งต่างๆ ได้ตามงบประมาณ และสัมพันธ์กับแต่ละช่วงวัยของเด็กๆ อย่างไรก็ดี สิ่งสำคัญที่สุดคือเวลา ความรัก และความเอาใจใส่ของผู้ปกครองที่มีให้แก่เจ้าตัวน้อยวัยซนอย่างเต็มที่ เพื่อพัฒนาการที่ดีในวัยเด็ก
สนใจบริการบริการออกแบบปรับปรุง ต่อเติม ตกแต่งภายในที่พักอาศัย by SCG Home Experience คลิก